
นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวช่วงต้นการประชุมคณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจ ครั้งที่ 3/2568 ว่า การประชุมครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 โดยการประชุมทุกครั้งมติต่างๆที่ออกไปสามารถทำให้การดำเนินงานของรัฐบาลเป็นไปด้วยความรวดเร็วและราบรื่นยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ สัปดาห์ที่ผ่านมาตนพร้อมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ไปร่วมประชุมสุดยอดอาเซียน (ASEAN Summit) ที่ประเทศมาเลเซีย และประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (APEC) ที่ประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งเราได้ใช้โอกาสดังกล่าวนำเสนอขับเคลื่อนนโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาลกับประเทศต่างๆ เพื่อขยายตลาดเดิมและเปิดโอกาสตลาดใหม่ แนะนำให้ประเทศไทยให้เขาได้รู้จักและสร้างโอกาสการลงทุน ลดการกีดกันทางการค้า ซึ่งประเทศไทย ก็ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี รวมถึงเรื่องที่ต้องสานต่ออีกมากมาย โดยรัฐบาลชุดนี้ก็จะทำนโยบายควิกบิ๊กวิน เพื่อให้ส่งผลต่อเศรษฐกิจประเทศ
นายกรัฐมนรี ระบุอีกว่า ประเทศต่างๆที่พบเป็นพันธมิตรเชิงยุทธศาสตร์ที่น่าเชื่อถือ เค้าบอกว่าประเทศไทยเป็นประเทศแห่งโอกาสและมีศักยภาพ ซึ่งหากเรามีบทบาทในเวทีนานาชาติเช่นนี้ และนำสิ่งที่หารือมาปฏิบัติแก้ไขเพื่อให้เขาเกิดความสะดวกมั่นใจในการมาลงทุนทำธุรกิจในไทย และจะทำให้เราฟื้นตัวในเรื่องเศรษฐกิจขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ
ทั้งนี้ ตนและกระทรวงพาณิชย์ได้หารือกับผู้นำหลายประเทศ อาทิ เรื่องการขายพืชผลทางการเกษตร การเจรจาเอฟทีเอที่จะต้องทำให้เรียบร้อยเร็วที่สุด
และสัปดาห์ที่แล้วก็ต้องขอบคุณ นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกฯ และ รมว.คลัง ที่เริ่มดำเนินนโยบายคนละครึ่งพลัส ทำให้ประชาชนเกิดความรู้สึกกำลังใจดี โดยเวลาลงไปพื้นที่ไหนก็ได้รับเสียงตอบรับว่ามีความสุขและเต็มใจ ดีใจที่ได้ใช้เงินคนละครึ่ง ซึ่งตนก็รู้สึกว่ามันเป็นเงินที่สร้างความคึกคักฃในระบบเศรษฐกิจ เพราะดูจากตัวเลขมีการใช้เงินมากพอสมควรทำให้เม็ดเงินกระจายทั่วประเทศ แต่ฝากคณะทำงานสำหรับผู้ที่เข้าไม่ถึงหรือเข้าไม่ได้ อาจจะต้องนำมาดำเนินการเป็นหลัก รวมถึงกลุ่มเปราะบางที่ยังเข้าไม่ถึงได้อย่างทั่วถึง หากตนเป็นเค้าก็จะเสียใจเหมือนกันฉะนั้นขอฝากรองนายกฯ เอกนิติ กระทรวงมาไทย ไปหาวิธีแก้ไขและอาจจะให้กลุ่มที่พลาดในเฟส 1 ให้กลับมาในเฟส 2 โดยเน้นไปในกลุ่มเหล่านี้กลับเข้ามาเพื่อให้เขาได้รับการดูแลจากรัฐบาลให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้ โดยกระทรวงมาไทย อาจจะขอความร่วมมือผู้ว่าฯ นายอำเภอ หาคำแนะนำให้กับประชาชนให้เข้าถึงสิทธิ์ฃนี้ได้อย่างทั่วถึง
ส่วนเรื่องพลังงานแสงอาทิตย์ ไฟฟ้าชุมชน ก็ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดียิ่ง ซึ่งขอบคุณกระทรวงพลังงาน ที่ได้เร่งแผนงานให้เกิดเป็นรูปธรรมอย่างเร็วที่สุด
รวมถึงกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงแรงงาน กระทรวงอุตสาหกรรมเกษตร โดยในเรื่องพืชผลทางการเกษตรก็ขอฝากกระทรวงเกษตรฯ ในเรื่องปัญหาราคาพืชผลทางการเกษตร อาทิ มันสำปะหลัง ขอให้ทุกกระทรวงร่วมมือกันแก้ไข
Advertisement