Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
ขอคนไทยมั่นใจ กองทัพเคลื่อนอาวุธหนักทัน หากเขมรไม่ทำตามข้อตกลง

ขอคนไทยมั่นใจ กองทัพเคลื่อนอาวุธหนักทัน หากเขมรไม่ทำตามข้อตกลง

3 พ.ย. 68
14:49 น.
แชร์

โฆษกกองทัพบก ขอคนไทยมั่นใจ กองทัพเคลื่อนย้ายอาวุธหนักได้ทัน หากเกิดปัญหากัมพูชาไม่ทำตามข้อตกลง ยังมีอาวุธสนับสนุนระยะไกลคุ้มครองประชาชน 

วันที่ 3 พ.ย. 68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ชี้แจงข้อกังวลของประชาชนบางส่วน ต่อกรณีการถอนอาวุธกลับที่ตั้ง จ.ลพบุรี อาจจะไกลจากพื้นที่ชายแดนมากเกินไป โดยกองทัพบกยืนยันว่า จะสามารถเคลื่อนย้ายอาวุธกลับเข้าพื้นที่ได้ทัน หากเกิดปัญหาทางกัมพูชาไม่ทำตามสัญญาเรื่องข้อตกลงการถอนอาวุธ 

ทั้งนี้แผนการถอนอาวุธครั้งนี้ดำเนินการเฉพาะอาวุธหนัก  3 กลุ่ม  ที่อาจส่งผลต่อประชาชนที่ไม่ใช้เป้าหมายทางทหาร แต่มีส่วนอื่นๆ ที่ยังคงอยู่ และไทยยังมีอาวุธสนับสนุนระยะไกล เพื่อปกป้องประชาชน กรณีมีเหตุฉุกเฉิน และมีกลไกเสริมหลายวิธี ที่สามารถปฏิบัติได้ 

พร้อมยอมรับว่า ในทางทหารระยะทางอาจมีผลต่อการเคลื่อนย้ายยุทโธปกรณ์หนักเข้าพื้นที่เพื่อปฏิบัติภารกิจบ้าง แต่ยังมีองค์ประกอบสนับสนุนอื่นที่สามารถนำมาชดเชยได้ อยู่ที่วิธีบริหารจัดการรองรับต่อสถานะการณ์ฉุกเฉิน แม้อาวุธบางส่วนถูกปรับออกจากพื้นที่หน้าแนว แต่ยังคงมีกองกำลังป้องกันชายแดนประจำอยู่ เพื่อทำหน้าที่เฝ้าระวัง และรักษาปกป้องอธิปไตย ตามปกติ 

ดังนั้นจึงขอให้ประชาชนเชื่อมั่นกองทัพบกในการทำหน้าที่ปกป้อง รักษาอธิปไตย และผลประโยชน์ของชาติ ให้ได้อย่างดีที่สุด ถึงแม้บางอย่างอาจไม่สามารถสื่อสารลงรายละเอียดได้มาก เพราะด้วยบรรยากาศ ภายใต้สภาพแวดล้อมในห้วงนี้ 

ส่วนกรณีมีกระแสข่าวฝ่ายกัมพูชาขัดขวางไม่ให้ AOT เข้าสังเกตการณ์เก็บกู้ทุ่นระเบิดที่ช่องสายตะกู จ.บุรีรัมย์นั้น พล.ต.วินธัย กล่าวว่า จากการตรวจสอบศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ หรือ TMAC ได้เดินหน้าปฏิบัติตามแผน แม้ฝ่ายกัมพูชายังอยู่ระหว่างรอคำสั่งจากหน่วยเหนือ 

ทั้งนี้เมื่อวันที่ 1 พ.ย. 68 ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบกได้รับรายงานจาก กองกำลังสุรนารี เกี่ยวกับความคืบหน้าในการเก็บกู้ทุ่นระเบิดของ TMAC ในพื้นที่ช่องสายตะกู อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ซึ่งได้เริ่มดำเนินการตามแผนตั้งแต่วันที่ 28 ต.ค. 68 

ปัจจุบัน TMAC ได้เข้าพิสูจน์ทราบพื้นที่แล้ว ร้อยละ 7.62 ของพื้นที่ทั้งหมด 355,026 ตารางเมตร โดยระหว่างการปฏิบัติงานได้พบปัญหาและข้อขัดข้องบางประการ ดังนี้ 

เมื่อวันที่ 30 ต.ค. 568 ขณะฝ่ายไทยดำเนินการพิสูจน์ทราบสนามทุ่นระเบิดในพื้นที่ชายแดนฝั่งไทย โดยอ้างอิงเส้นปฏิบัติการตามแผนที่ มาตราส่วน 1 : 50,000 ได้พบทหารกัมพูชาอยู่ในเส้นทางปฏิบัติการ จึงได้เข้าพบปะและเจรจาเพื่อสร้างความเข้าใจร่วมกัน 

ผลการเจรจา ฝ่ายกัมพูชาได้ขอให้ฝ่ายไทยดำเนินการพิสูจน์ทราบเฉพาะในพื้นที่ฝั่งไทย โดยอ้างอิงแนวเส้นทางลาดตระเวนเดิม และขอไม่ให้มีการดัดแปลงพื้นที่ เช่น การวางลวดหนาม แต่สามารถทำการถากถางพื้นที่ หรือทำเครื่องหมายได้ ทั้งนี้ ฝ่ายกัมพูชาแจ้งเพิ่มเติมว่า ยังไม่สามารถเริ่มทำการพิสูจน์ทราบทุ่นระเบิดในฝั่งของตนได้ เนื่องจากยังไม่มีคำสั่งจากหน่วยเหนือ 

ภายหลังการเจรจา ฝ่ายไทยได้ดำเนินการพิสูจน์ทราบสนามทุ่นระเบิดต่อไปตามแผนงานในเขตไทย โดยมีทหารกัมพูชาเฝ้าสังเกตการณ์อย่างต่อเนื่องจนเสร็จสิ้นภารกิจในวันนั้น 

ต่อมาในวันที่ 1 พ.ย. 68 คณะ AOT ฝ่ายไทย ได้ลงพื้นที่ร่วมสังเกตการณ์การเก็บกู้ทุ่นระเบิดในบริเวณช่องสายตะกู โดยฝ่ายไทยได้รายงานผลการดำเนินงานและปัญหาข้อขัดข้องดังกล่าวให้คณะ AOT ฝ่ายไทยได้รับทราบ 

ทั้งนี้ การเก็บกู้ทุ่นระเบิดตามแนวชายแดนถือเป็น ข้อตกลงร่วมกันของทั้งสองประเทศ ซึ่งได้มีมติและเห็นชอบในที่ประชุมระดับผู้นำอาเซียนที่ผ่านมา ปัจจุบันฝ่ายไทยได้ยืนยันความพร้อมและดำเนินการตามแผนที่เสนอต่อฝ่ายกัมพูชา ครอบคลุมทั้ง 13 พื้นที่ ขณะที่ฝ่ายกัมพูชายังไม่มีการดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรมในประเด็นดังกล่าว

Advertisement

แชร์
ขอคนไทยมั่นใจ กองทัพเคลื่อนอาวุธหนักทัน หากเขมรไม่ทำตามข้อตกลง