Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
กองทัพบก เผย ไทยพร้อมส่งตัว 18 เชลยศึก แต่กัมพูชาต้องจริงใจก่อน

กองทัพบก เผย ไทยพร้อมส่งตัว 18 เชลยศึก แต่กัมพูชาต้องจริงใจก่อน

29 ต.ค. 68
10:03 น.
แชร์

กองทัพบก เผย ไทยพร้อมส่งตัว 18 เชลยศึกกลับตามหลักกติกาสากล แต่กัมพูชาต้องร่วมมือ 4 ข้อประเด็นสำคัญด้วยความจริงใจอย่างเป็นรูปธรรมก่อน 

วันที่ 29 ต.ค. 68 ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) ถ.ราชดำเนิน พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวชี้แจงประเด็นที่สังคมให้ความสนใจเกี่ยวกับการปล่อยตัวเชลยศึก ภายหลังไทยและกัมพูชาได้เข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน (ASEAN Summit) ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 26 ต.ค. ที่ผ่านมาว่า 

การพิจารณาปล่อยตัวเชลยศึกของฝ่ายไทยเป็นไปตามหลักกติกาสากลและกฎหมายระหว่างประเทศ ซึ่งจะพิจารณาจากลักษณะท่าทีของความเป็นปฏิปักษ์ ที่เคยมีต่อกัน ต้องมีการลดระดับลงชัดเจน ผ่านผลการดำเนินการตามข้อตกลงที่ทั้งสองประเทศเห็นชอบร่วมกันไว้แล้ว 4 ข้อหลัก ได้แก่ การถอนอาวุธหนักออกจากพื้นที่ชายแดน  การเก็บกู้ทุ่นระเบิด  การปราบปรามเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติ และการบริหารจัดการพื้นที่ชายแดน 

พล.ต.วินธัย กล่าวว่า ในปัจจุบันทั้งสองฝ่ายได้เริ่มจัดทำ แผนปฏิบัติการ (Action Plan) ตามกรอบห้วงเวลา และเริ่มปฏิบัติแล้วบางส่วน เช่น การถอนอาวุธหนัก อย่างกรณีการเคลื่อนย้ายรถถังออกจากพื้นที่ชายแดนของทั้งสองประเทศเมื่อวันที่ 26 ต.ค. 68  แม้จะเป็นเพียงการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์เพื่อสอดรับผลการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน แต่ถือเป็นจุดเริ่มต้นในการดำเนินการตามข้อตกลง 

ทั้งนี้เมื่อวันที่ 28 ต.ค. 68 ได้มีการประชุม ฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการประสานงานชายแดนส่วนภูมิภาค (RBC) ระหว่างกองทัพภาคที่ 2 ของไทย และภูมิภาคทหารที่ 4 ของกัมพูชา เพื่อลงรายละเอียดขั้นตอนการปรับกำลังและถอนอาวุธหนักออกจากพื้นที่ พร้อมกำหนดกรอบระยะเวลาในการปฏิบัติร่วมกันอย่างเป็นระบบ 

พล.ต.วินธัย กล่าวอีกว่า สำหรับด้านการเก็บกู้ทุ่นระเบิด ฝ่ายไทยได้เสนอพื้นที่ดำเนินการเบื้องต้นจำนวน 13 พื้นที่ ครอบคลุมเขตปฏิบัติของกองทัพภาคที่ 1, กองทัพภาคที่ 2 และกองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรี–ตราด ซึ่งขณะนี้ได้เริ่มดำเนินการแล้วใน 4 พื้นที่ และจะขยายผลต่อเนื่องไปยังพื้นที่อื่น ๆ ต่อไป โดยเฉพาะในช่วงหลักเขตที่ 42–47 ซึ่งเมื่อพื้นที่มีความปลอดภัย จะเข้าสู่กระบวนการสำรวจเพื่อจัดทำหลักเขตแดนชั่วคราว และตรวจสอบสิทธิ์การถือครอง เพื่อให้ประชาชนสามารถใช้ประโยชน์จากพื้นที่ได้อย่างปลอดภัย 

ในส่วนของการปราบปรามเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติและขบวนการสแกมเมอร์ รัฐบาลได้มอบหมายให้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ กระทรวงมหาดไทย ร่วมกันดำเนินการ โดยได้ประสานส่งข้อมูลเป้าหมายให้กับทางการกัมพูชา พร้อมจัดตั้ง ทีมเฉพาะกิจร่วม (Joint Task Force) เพื่อติดตามและแก้ไขปัญหาอย่างต่อเนื่อง 

หลังจากนี้ ฝ่ายไทยจะดำเนินการติดตามความก้าวหน้าของการดำเนินการตามแผนและขั้นตอน ตามที่ได้มีการตกลงและเห็นชอบร่วมกันไว้ ผ่านเวทีการประชุม JBC , GBC และ RBC เพราะหากสิ่งที่ได้ตกลงกันไว้ ไม่บังเกิดผลอย่างเป็นรูปธรรมที่เพียงพอ กองทัพบกอาจจะพิจารณาเสริมใช้มาตรการอื่นภายใต้กรอบกฎหมาย และกติกาสากลมาสนับสนุนเพิ่มเติม เพื่อดำรงความมุ่งมั่นในการปกป้องอธิปไตย และผลประโยชน์ของชาติ

Advertisement

แชร์
กองทัพบก เผย ไทยพร้อมส่งตัว 18 เชลยศึก แต่กัมพูชาต้องจริงใจก่อน