จากกรณีที่ “กัน จอมพลัง” นำรถเครื่องเสียงเข้าไปเปิดเสียงเฮลิคอปเตอร์ เสียงเครื่องบิน F-16 และเสียงผี ที่บ้านหนองจานและบ้านหนองหญ้าแก้ว เพื่อกดดันและข่มขวัญชาวกัมพูชาที่ไม่ยอมออกจากพื้นที่นั้น
ดร.ปลอดประสพ สุรัสวดี อดีตปลัดกระทรวงกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และอดีตรองนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก “ดร.ปลอดประสพ สุรัสวดี” หัวข้อ “สงครามผี” ระบุ ว่า
สงครามผี
ผมเป็นคนไทยที่ผ่านสงครามโลกครั้งที่ 2 มาแล้ว ไม่คิดว่าในชีวิตนี้จะได้เจอสงครามผีจริงๆ เมื่ออายุ 80 ปี คืนนี้คุณกัน จอมพลังจะนัดผีมาเจอกันอีกเป็นวันที่สองที่บ้านหนองจานและบ้านหนองหญ้าแก้ว เห็นว่าคืนนี้จะพิเศษกว่าคืนแรกเพราะจะมีโดรนผีบินได้จริงๆ ผมน่ะสงสารชาวเขมรมาก เพราะโดยปกติก็เป็นสายมูอยู่แล้ว คราวนี้จะต้องมาเจอทั้งผี มีแสง มีเสียงเสียด้วย เดี๋ยวก็หัวใจวายตายกันบ้างหรอก ส่วนคุณวีระก็ยื่นคำขาดว่า พ้น 31 ตค. เมื่อไหร่ หากเขมรไม่ออกไปใครห้ามก็จะไม่ฟังแล้ว ขอบุกเดี่ยวแน่นอน ผมน่ะสงสารท่านนายกอนุทินจริงๆ ติดตามดูวิธีการแก้สถานการณ์ก็เห็นเปลี่ยนแนวคิดเรื่องMOU 43และ44 ไป 4-5 รอบแล้ว เล่นเอาบรรดาข้าราชการปวดหัวไปตามๆกัน ส่วนนักวิจารณ์ข่าวก็เริ่มแซ่ซ้องว่า เป็นของปลอมหรือเปล่า จึงไม่กล้าตัดสินใจ
ผมอยากทบทวนปัญหากัมพูชาสักนิด ผมมั่นใจว่า ศัตรูของคนไทยหรือประเทศไทยไม่ใช่ประเทศกัมพูชาหรือชาวเขมร ศัตรูของเราคือนายฮุนเซ็น นายคนนี้แกตีหน้าเศร้าเล่าเรื่องเท็จได้ทุกวัน ผมเชื่อว่า หากไม่มีคนผู้นี้สักคน ปัญหาไทยกัมพูชาจะลงเอยจบลงอย่างมิตรประเทศเพื่อนบ้านอย่างแน่นอน เพราะฉะนั้นเราจึงอย่าไปถกเถียงเรื่อง MOU หรือการประชุมGBC RBC อะไรกันนักหนา เพราะเป็นของสมมุติทั้งนั้น ทุกอย่างมันอยู่ที่นายฮุนเซ็นคนเดียว
การกำจัดนายฮุนเซ็นนั้นทำได้หลายวิธี เช่นที่ทำแล้วก็คือ ใช้รูปเป็นเป้ายิง ซึ่งด้วยแกเป็นคนถือโชคถือลาง แกจึงกลัวและโกรธคนไทยมาก
แต่วิธีกำจัดที่ดีที่สุดก็คือ ให้ชาวเขมรไล่แกเอง ปิดด่านทุกด่านต่อไปอีกสัก 6 เดือน ผมว่าชาวเขมรคงทนไม่ไหวและจะไล่แกในที่สุด สำหรับผู้ประกอบการชาวไทยก็อดทนและเสียสละหน่อยนะครับ ส่วนผู้มีอำนาจสีเทาทั้งหลาย ก็เช่นกัน รู้จักพอบ้าง จะดีมาก เพื่อบ้านเมืองของเรา
Advertisement