พลโทบุญสิน พาดกลาง ที่ปรึกษาผู้บัญชาการทหารบก ได้ให้สัมภาษณ์กล่าวถึงกรณีที่ พลโทวีรยุทธ รักศิลป์ แม่ทัพภาคที่ 2 ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน โดยมีเนื้อหาตอนหนึ่งว่าปราสาทคนา ต.แนงมุด อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ เป็นพื้นที่ต้องสำรวจร่วม จัดทำหลักเขตแดนตาม MOU ต่างคนต่างอยู่ในพื้นที่ของใครของมัน ยังไม่มีใครครอบครอง ยังไม่มีใครควบคุม จนโดนทัวร์ลง ชาวบ้านตั้งคำถามว่า เหตุใดชาวกัมพูชาสามารถไปเที่ยวได้ ติดป้ายประชาสัมพันธ์เป็นแหล่งท่องเที่ยวของกัมพูชาอย่างเป็นทางการ ขณะที่คนไทยเข้าไม่ได้
โดยบิ๊กกุ้ง เชื่อว่า ที่ พล.ท.วีรยุทธ รักศิลป์ แม่ทัพภาคที่ 2 พูด อาจจะไม่ได้มีเจตนาที่ไม่ดี แต่ก็พูดตามหลักการทำงาน เพราะปราสาทคนา ยังอยู่ในขั้นตอนการพิสูจน์ทราบว่าอยู่ในพื้นที่พิพาทหรือไม่ ซึ่งหากตรวจสอบยืนยันชัดเจนว่าอยู่ในพื้นที่ของไทย หลังจากนี้ก็จะเป็นหน้าที่ของกองทัพที่ต้องดำเนินการเอากลับคืนมาให้เป็นไทย แต่ในช่วงนี้เชื่อว่ายังอยู่ในขั้นตอนการดำเนินการของกองทัพภาคที่ 2 ซึ่งตนเชื่อว่าเร็วๆนี้จะได้คำตอบที่ชัดเจน
ส่วนจะผลักดันทหารกัมพูชาหรือชาวกัมพูชาได้หรือไม่ ตนเชื่อว่าหากใช้มาตรการเจรจาผลักดันตามกฎหมายไม่สำเร็จแล้ว ก็คงต้องใช้มาตรการเหมือนพื้นที่ภูมะเขือ เพราะภูมะเขือก็ถูกรุกล้ำมานาน แต่เราก็ยังเอาคืนมาได้ โดยตนเชื่อว่าทางผู้บัญชาการทหารบกและแม่ทัพภาค 2 คนใหม่ จะหาวิธีแก้ปัญหาที่เร็ว เพราะเป็นพื้นที่ที่ประชาชนให้ความสนใจ
ส่วนที่ประชาชนแสดงความไม่พอใจกับท่าที พล.ท.วีรยุทธ รักศิลป์ แม่ทัพภาคที่ 2 เกี่ยวกับการทำงานในพื้นที่พิพาท
บิ๊กกุ้ง บอกว่า การทำงานของพล.ท.วีรยุทธ รักศิลป์ แม่ทัพภาคที่ 2 กับตนก็ไม่แตกต่างกัน แต่ถึงอย่างไรก็ตามก็คงต้องให้เวลา พล.ท.วีรยุทธ รักศิลป์ แม่ทัพภาคที่ 2 ได้ทำงาน เพราะท่านเพิ่งจะมารับตำแหน่งได้ไม่นาน แต่เชื่อว่า ท่านก็มีแผนการทำงานที่จะทวงคืนปราสาทคนาอยู่แล้ว จึงขอให้ประชาชนเชื่อใจและสบายใจได้ พร้อมยืนยันว่าแม้จะมีการเปลี่ยนแม่ทัพคนใหม่ การทำงานก็ไร้รอยต่อ ไร้ปัญหา เพราะที่ผ่านมาก็ให้คำปรึกษา คำแนะนำ ให้กำลังใจกันตลอด เชื่อว่า พล.ท.วีรยุทธ แม่ทัพภาคที่ 2 จะสามารถแก้ปัญหาได้แน่นอน แต่ขอเวลาทำงาน
พลโทบุญสิน ยังกล่าวถึงสถานการณ์ชายแดนในพื้นที่ภาค 2 ว่า ตอนนี้สถานการณ์ก็ใกล้เคียงกับ จ.สระแก้ว ทหารทั้ง 2 ฝ่ายยังตรึงกำลังกันอยู่ ฝ่ายไทยยังถูกทหารกัมพูชายั่วยุอยู่ตลอด
ส่วนสถานการณ์บ้านหนองจาน-หนองหญ้าแก้ว จ.สระแก้ว ส่อที่จะบานปลายถึงขั้นเปิดศึกปะทะกันหรือไม่นั้น ตนมองว่า ขึ้นอยู่กับการใช้กำลังของฝ่ายกัมพูชา เพราะฝ่ายเรามีมาตรการผลักดันชาวกัมพูชาตามหลักสากล แต่ถ้ากัมพูชาไม่ยอมรับก็ต้องใช้มาตรการอื่นผลักดัน แต่ไทยก็มุ่งหวังอย่างยิ่งว่าการผลักดันกัมพูชาจะไม่นำไปสู่การใช้อาวุธและความรุนแรง ตอนนี้ไทยพยายามยึดหลักมาตรฐานสากลในการผลักดันชาวกัมพูชา
ส่วนเหตุการณ์ส่อบานปลายหรือไม่ บิ๊กกุ้ง ย้ำว่า ขึ้นอยู่กับสถานการณ์และห้วงเวลา เพราะตนเองก็คาดเดาอนาคตไม่ได้ว่าจะเป็นอย่างไร ก็ต้องรอดู เพราะเป็นที่สนใจของประชาชน
Advertisement