จากกรณี เฟซบุ๊กเจ้าหน้าที่ศูนย์ประสานช่วยเหลือคนไทยในต่างแดน โพสต์ภาพและข้อความระบุ ตามหาญาติคนไทยรายหนึ่ง ชื่อนาย เมธาชาญ ยอแสง หรือ มีน อายุ 24 ปี ซึ่งเป็นเชฟไทย ชาว อ.พรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราช สภาพป่วยเร่ร่อน นอนอยู่หน้าอาคารพาณิชย์แห่งหนึ่งในประเทศกัมพูชา เนื่องจากถูกโรงพยาบาลของกัมพูชาปฏิเสธรักษา จนเสียชีวิต เตรียมประสานกองกำลังบูรพานำร่างกลับไทย ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้
สมเด็จอัครมหาเสนาบดีเดโช ฮุน เซน ประธานวุฒิสภาแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา ได้โพสต์เฟซบุ๊ก พร้อมแนบเอกสาร กรมอนามัย องค์การบริหารส่วนจังหวัดบันเตียเมียนเจย ขอปฏิเสธและปฏิเสธการเผยแพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จที่ยุยงให้เกิดการเลือกปฏิบัติ การเหยียดเชื้อชาติ และการดูหมิ่นเกียรติศักดิ์ของแพทย์ประจำโรงพยาบาลในจังหวัดบันเตียเมียนเจย ราชอาณาจักรกัมพูชา ผ่านทางเฟซบุ๊ก “Khaosod English” ที่โพสต์ข้อความว่า “พ่อครัวไทยเสียชีวิตหลังโรงพยาบาลปฏิเสธการรักษา” เฟซบุ๊กของศูนย์ช่วยเหลือคนไทยในต่างแดน ระบุเพิ่มเติมว่า “ชายไทยอายุ 24 ปี จากจังหวัดนครศรีธรรมราช เสียชีวิตบนท้องถนนในประเทศกัมพูชาเมื่อเย็นวันอังคาร หลังจากโรงพยาบาลปฏิเสธการรักษา เนื่องจากไม่มีเงินหรือเอกสารยืนยันตัวตน”
ในกรณีนี้ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดขอแจ้งให้สาธารณชนทั้งในประเทศและต่างประเทศทราบว่า เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2568 เวลา 14.10 น. เจ้าหน้าที่และผู้เชี่ยวชาญจากสำนักงานตำรวจเทคนิคและวิทยาศาสตร์ กองบัญชาการตำรวจปอยเปต ได้เชิญแพทย์จากโรงพยาบาลส่งต่อปอยเปตเข้าร่วมการชันสูตรพลิกศพชายนิรนาม (ไม่มีเอกสารแนบ) ซึ่งถูกฝังอยู่ที่วัดพระธาตุธรรมาราม บ้านพระธาตุธรรมาราม สังกัท โอรสเสวี เมืองปอยเปต เจ้าหน้าที่ ระบุว่าประชาชนพบศพและรายงานให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบและสอบสวน สถานที่เกิดเหตุได้รับการยืนยันว่า ศพนอนเสียชีวิตอยู่หน้าหลังคาอาคาร 5 ชั้นที่ถูกทิ้งร้างและไม่มีใครอยู่อาศัย ในบ้านกบาลสะเปียน 1 สังกัท โอรสเสวี เมืองปอยเปต จังหวัดบันเตียเมียนเจย ศพสวมกางเกงขาสั้นสีดำมีแถบสีแดง และไม่สวมเสื้อ ทีมชันสูตรพลิกศพ ระบุว่าสาเหตุการเสียชีวิตเบื้องต้นคาดว่าเกิดจากอาการหัวใจวาย
เจ้าหน้าที่ยืนยันว่า เมื่อเวลา 21.10 น. ชุดประสานงานชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ด่านตรวจระหว่างประเทศปอยเปต ได้รับข้อมูลจากชุดประสานงานชายแดนไทย-กัมพูชา โดยได้ส่งภาพถ่ายและบัตรประจำตัวประชาชนมาให้ฝ่ายกัมพูชาช่วยตามหาและแจ้งเบาะแสคนไทยที่สูญหาย เสียชีวิตที่เมืองปอยเปต จังหวัดบันเตียเมียนเจย หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ได้เข้ามาตรวจสอบและยืนยันชิ้นส่วนร่างกายอีกครั้ง พบว่าผู้เสียชีวิตเป็นชายสัญชาติไทย ชื่อ เมธาชาญ ยอแสง เกิดเมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2544 ถือบัตรประจำตัวประชาชนหมายเลข 1800200088174 ส่วนชื่อ เมธาชาญ ยอแสง เข้ามาทำงานในราชอาณาจักรกัมพูชาอย่างผิดกฎหมาย ศพพร้อมจะถูกส่งกลับประเทศไทยผ่านประตูระหว่างประเทศปอยเปต ตามคำร้องขอของสถานกงสุลใหญ่ไทยในเสียมเรียบ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่โรงพยาบาลปอยเปต แพทย์ไม่ได้รับและเห็นผู้ป่วยชื่อ เมธาชาญ ยอแสง มารับการรักษาที่โรงพยาบาล ในอดีตและปัจจุบัน โรงพยาบาลไม่เคยปฏิเสธการรักษา ปฏิเสธการรักษา และช่วยชีวิตผู้ป่วยรายใด แม้ว่าผู้ป่วยจะไม่มีเงินทุนเพียงพอสำหรับค่าบริการก็ตาม โรงพยาบาลยกเว้นการจ่ายค่ารักษาพยาบาล (โดยไม่คำนึงถึงอุปสรรคทางการเงิน เชื้อชาติ สีผิว ศาสนา หรือความเกี่ยวข้องทางการเมือง)
โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากการตรวจสอบและสอบสวน ยืนยันได้อย่างชัดเจนว่าพบศพของ METHACHAN YOSENG นอนเสียชีวิตอยู่หน้าอาคารร้าง โดยไม่มีผู้รอดชีวิตแต่อย่างใด โดยไม่ทราบสาเหตุ และไม่ได้ถูกส่งตัวไปตรวจรักษาที่โรงพยาบาล
ตั้งแต่เดือนมิถุนายน พ.ศ. 2568 จนถึงปัจจุบัน เมื่อด่านชายแดนกัมพูชา-ไทยถูกปิดโดยฝ่ายไทยฝ่ายเดียว จังหวัดบันเตียเมียนเจยได้รับการตรวจและรักษาผู้ป่วยไทยรวม 31 ราย (หญิง 12 ราย) ดังนี้
โรงพยาบาลส่งต่อปอยเปต ผู้ป่วย 21 ราย (หญิง 8 ราย) ประกอบด้วย แผนกสูตินรีเวช 4 ราย (ผ่าตัดคลอด 1 ราย) แผนกศัลยกรรม 5 ราย (หญิง 2 ราย) แผนกฉุกเฉิน 10 ราย (หญิง 2 ราย) และแผนกอายุรกรรมทั่วไป 2 ราย (หญิง 2 ราย)
โรงพยาบาลมิตรภาพกัมพูชา-ญี่ปุ่น มงคลโบเรย ผู้ป่วย 10 ราย (หญิง 4 ราย) ได้แก่ แผนกสูตินรีเวช 2 ราย (ผ่าตัดตั้งครรภ์นอกมดลูก 1 ราย) แผนกอายุรกรรมทั่วไป 8 ราย (ติดเชื้อทางเดินหายใจรุนแรง) (หญิง 2 ราย)
ผู้ป่วยทุกคนที่มารับบริการตรวจ รักษา และฟื้นฟูที่โรงพยาบาล จะได้รับบริการที่เอาใจใส่และรอยยิ้ม ครอบคลุมการดูแล การอาบน้ำ การเปลี่ยนเสื้อผ้า การสนับสนุนทางจิตใจ และอาหารประจำวัน ผู้ป่วยชาวไทยและชาวต่างชาติส่วนใหญ่ที่มารับบริการไม่มีญาติหรือผู้ติดตาม แต่โรงพยาบาลมีหน้าที่รับพวกเขาเข้ารับบริการตรวจรักษาโดยไม่แบ่งแยกเชื้อชาติ ในขณะเดียวกัน ผู้ป่วยยากจนหรือผู้ป่วยที่ไม่สามารถจ่ายค่าใช้จ่ายได้ก็ได้รับการยกเว้นไม่ต้องชำระค่าบริการ
สรุปแล้ว กรมอนามัยจังหวัดบันทายมีชัย ขอปฏิเสธและปฏิเสธข่าวที่เผยแพร่โดยบัญชีเฟซบุ๊ก "ข่าวสดอิงลิช" ที่มีเนื้อหาระบุว่า "เชฟคนไทยเสียชีวิตหลังจากโรงพยาบาลในพื้นที่ปฏิเสธการรักษา" ข่าวนี้ก่อให้เกิดการเลือกปฏิบัติ การเหยียดเชื้อชาติ และการแบ่งแยกสีผิว ในแง่ของความสับสนในความคิดเห็นระดับชาติและนานาชาติเกี่ยวกับความจริงของบริการทีมแพทย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เพื่อส่งผลต่อเกียรติยศและชื่อเสียงของทีมแพทย์แห่งราชอาณาจักรกัมพูชาบนเวทีระดับชาติและนานาชาติ ที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความกระตือรือร้น เอาใจใส่ รับผิดชอบ เคารพ มีจริยธรรมวิชาชีพ และมีมนุษยธรรมสาธารณสุขจังหวัดได้ขอให้เฟซบุ๊ก “ข่าวสดภาษาอังกฤษ” แก้ไขข้อมูลและลบข้อมูลเท็จออกจากโซเชียลมีเดีย เพื่อป้องกันความเข้าใจผิดจากความคิดเห็นทั้งในประเทศและต่างประเทศ
จากข้อมูลดังกล่าวจึงขอความกรุณาแจ้งให้ประชาชนทั้งในประเทศและต่างประเทศได้รับทราบต่อไป
วันพุธ ที่ 1 เดือนอัสสัมชัญ ปีวอก พ.ศ.2569 บันทายมีชัย วันที่ 8 ตุลาคม พ.ศ.2568 สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด
Advertisement