Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
"จิราพร" ฉะเดือด ท้ารัฐบาลอนุทิน ชวน สว. กลางสภาร่วมแก้รธน.

"จิราพร" ฉะเดือด ท้ารัฐบาลอนุทิน ชวน สว. กลางสภาร่วมแก้รธน.

30 ก.ย. 68
11:06 น.
แชร์

"จิราพร" ฉะเดือด ท้ารัฐบาลอนุทิน ชวน สว. กลางสภาร่วมแก้รธน. ขอทำตาม MOA ชี้ ภท. เมินข้อตกลง-ส่อสืบทอดอำนาจ-แทรกแซงคดี หวั่นชุบชีวิตฝ่ายอนุรักษ์นิยม

เวลา 09.20 น. (30 ก.ย. 2568) น.ส.จิราพร สินธุไพร สส.ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย ลุกขึ้นอภิปราย ระบุว่า รัฐบาลนายอนุทิน ชาญวีรกูล เป็นรัฐบาลพิเศษที่เกิดท่ามกลางสถานการณ์ผิดปกติมีการจัดตั้งรัฐบาลด้วยวิธีพิสดาร เนื่องด้วยหลังจากพรรคภูมิใจไทยถอนตัวจากพรรคร่วมรัฐบาล 18 มิถุนายน ท่ามกลางสถานการณ์ความตึงเครียดชายแดนไทย-กัมพูชา

ต่อมา 24 มิถุนายน ผู้นําประเทศเพื่อนบ้านได้ประกาศว่าไทยจะเปลี่ยนผู้นําในอีก 3 เดือน หลังจากศาลรัฐธรรมนูญมีคําวินิจฉัยให้นางสาวแพทองธาร ชินวัตร พ้นจากตําแหน่งนายกรัฐมนตรี เกิดการจัดตั้งรัฐบาลที่มีพรรคภูมิใจไทย นำโดย นายอนุทิน และทำให้เรามีรัฐบาลใหม่ภายใน 3 เดือน อย่างที่ผู้นําประเทศเพื่อนบ้านกล่าวไว้ สอดคล้องกับกระบวนการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ในประเทศไทยได้อย่างน่าเหลือเชื่อ

น.ส.จิราพร กล่าวว่า ในระหว่างเปลี่ยนรัฐบาลจนถึงวันตั้งรัฐบาลจะพบว่า มีความลึกลับมากมาย ซึ่ง MOA อาจเป็นเพียงฉากหน้าที่ฉากหลังมีข้อตกลงที่ไม่ได้อยู่ใน MOA หรือไม่ ซึ่งพรรคฝ่ายค้านก็หวังที่จะใช้ MOA นี้ บังคับรัฐบาลให้ทําตามข้อตกลง แต่เมื่อรัฐบาลภูมิใจไทยคลอดออกมาก็เริ่มแสดงอิทธิฤทธิ์ในการฉีก MOA ทันที โดยเฉพาะข้อ 4 ของ MOA ที่ห้ามรัฐบาลแปลงเป็นรัฐบาลเสียงข้างมาก กลับมีคะแนนโหวตที่ล้นเกินกว่าที่สื่อมวลชนรายงาน และกลุ่ม สส. เตรียมย้ายเข้าพรรคภูมิใจไทย ส่วนตัวเชื่อว่า ระยะเวลา 4 เดือน ก่อนยุบสภา พรรคภูมิใจไทยจะเร่งเครื่องเพื่อเพิ่มจํานวน สส. ทําให้ขยับเข้าใกล้รัฐบาลเสียงข้างมากเข้าไปทุกที แบบไม่เกรงใจผู้นําฝ่ายค้านเหมือนกําลังจงใจฉีกข้อตกลง MOA

ทั้งนี้ ในอดีตเคยมีรัฐบาลที่ตั้งขึ้นมาเฉพาะกิจเพื่อยุบสภา แก้ไขปัญหาทางการเมืองคือรัฐบาลของ นายอานันท์ ปันยารชุน หลังเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ ซึ่งหากเราไปดูคําแถลงนโยบายของรัฐบาลในวันที่ 22 มิ.ย. 2535 พบว่า มีความยาวเพียงหนึ่งหน้ากระดาษ ระบุชัดเจนว่าเป็นรัฐบาลเฉพาะกิจที่ตั้งขึ้นมาเพื่อคืนอํานาจอธิปไตยให้แก่ประชาชนทําให้ระบอบประชาธิปไตยสามารถดําเนินการต่อเนื่องได้ มีการระบุนโยบายสําคัญของประเทศอยู่บางประการ และงานเฉพาะหน้าที่ต้องทําในห้วงเวลาอันสั้น

นี่คือสิ่งที่รัฐบาลเฉพาะกิจที่ไม่ได้มีข้อตกลงทางการเมืองกับพรรคการเมืองใด แต่ทราบภารกิจหลักของตนเอง และประกาศผ่านการแถลงนโยบายอย่างชัดเจนตรงไปตรงมา ซึ่งรัฐบาลนายอานันท์ได้ทําตามคําแถลงนโยบายโดยการยุบสภาภายในเวลาอันรวดเร็ว เปิดทางให้มีการเลือกตั้ง ทําให้ประเทศไทยเข้าสู่ภาวะปกติ เกิดพัฒนาการทางการเมือง ที่ปูทางให้มีการจัดทํารัฐธรรมนูญ ปี 2540 ที่มีความเป็นประชาธิปไตยมากที่สุด

นางสาวจิราพรยังกล่าวด้วยว่า นายอนุทินควรนํา MOA เข้ามาบรรจุในการแถลงนโยบาย พร้อมอธิบายว่าจะทําตามข้อตกลงเหล่านั้นให้สําเร็จภายใน 4 เดือนได้อย่างไร เพราะคําแถลงนโยบาย 7 หน้าที่อ่าน นายกรัฐมนตรีไม่ได้ฟังสิ่งที่ผู้นําฝ่ายค้านทําข้อตกลงกับท่านที่ระบุว่า ไม่ได้เลือกท่านมาบริหาร แต่เลือกท่านมาเพื่อยุบสภา

"MOA ไม่มีผลผูกพัน รัฐสภาตามกฎหมาย แต่ถ้าดูในสถานะการเมืองแล้ว MOA มีน้ําหนักและมีผลต่อรัฐบาลชุดนี้มากกว่านโยบายที่นายอนุทินอ่านให้เราฟังซะอีก และเป็นที่น่าสังเกตว่ารัฐบาลนี้เกิดจาก MOA แต่ปรากฏว่าคนที่พูดถึง MOA น้อยที่สุดกับเป็นรัฐบาลเสียเอง แม้แต่วันแถลงนโยบายที่ซึ่งเป็นวันที่สําคัญที่สุดท่านก็ไม่พูดถึง ถ้าดิฉันเป็นพรรคที่โหวตให้ท่านเป็นนายกรัฐมนตรีคิดว่าคงถึงขั้นที่จะอภิปรายไม่ไว้วางใจ"

นางสาวจิราพร ยังระบุด้วยว่า สิ่งที่คนอยากฟังคือเรื่องที่ท่านนายกรัฐมนตรีไม่ได้อ่าน ในคำแถลงนโยบาย โดยเฉพาะเรื่องคดีที่เกี่ยวข้องกับนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีบางท่าน เช่น คดีฮั้ว สว. และคดีเขากระโดง ซึ่งประชาชนยังหวาดระแวงสงสัยว่าท่านจะยุบคดีก่อนการยุบสภา แม้นายกรัฐมนตรีจะให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่าไม่ได้ทําคดีเหล่านี้ แต่ถูกกลั่นแกล้งนั้น จะกลายเป็นว่า ใครที่ทําคดีเหล่านี้จะเป็นการกลั่นแกล้งนายกรัฐมนตรี จะทําให้ข้าราชการไม่กล้าทําอะไรหรือไม่ เพราะนายกรัฐมนตรีเป็นผู้ต้องหาของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) แต่ขณะเดียวกัน การแถลงนโยบายในหน้าแรกระบุว่า จะยึดมั่นในหลักนิติธรรมและการบังคับใช้กฎหมายอย่างเป็นธรรม

"ท่านกล้าให้คํามั่นสัญญากับรัฐสภาแห่งนี้หรือไม่ว่า จะไม่กลั่นแกล้งหรือโยกย้ายข้าราชการผู้เกี่ยวข้องที่มีหน้าที่ทําคดีเหล่านี้ และไม่แทรกแซงกระบวนการยุติธรรมใด เมื่อวานนี้มีสมาชิกหลายท่านถามท่านไปแต่ท่านยังไม่เคยตอบ ท่านนายกรัฐมนตรีจะรับปากต่อสภาแห่งนี้ได้หรือไม่"

นางสาวจิราพรยังระบุว่า ภารกิจในการแก้ไขรัฐธรรมนูญซึ่งเป็นเรื่องที่ใหญ่ที่สุดกลายเป็นเรื่องที่เล็กที่สุดในคําแถลงนโยบาย การแก้ไขรัฐธรรมนูญตามเอ็มโอเอ ถูกย่อเหลือเพียง 3 บรรทัด จาก 7 หน้ากระดาษ ซึ่งมีความยาวน้อยกว่าใน MOA

ด้วยว่า MOA นี้ทําให้ กลไกการตรวจสอบ ถูกทําให้อ่อนแอลงไป ทําให้ฝ่ายค้านตั้งคําถามกับฝ่ายค้านด้วยกันเอง และฝ่ายค้านตรวจสอบการทํางานของฝ่ายค้านด้วยกันเอง และฝ่ายค้านบางพรรคไม่สามารถอยู่แบบไร้ตัวตนได้ รวมถึงไร้จุดยืน เพราะ มีฝ่ายค้านส่วนหนึ่งยกมือและเป็นองค์ประชุมให้กับรัฐบาล

นางสาวจิราพรระบุอีกว่า มีคนบอกว่ารัฐบาลกับสภาสูงเป็นสีเดียวกัน มีการเชื่อมโยงอํานาจบริหารกับองค์กรอิสระผ่านกลไกของ สว. ซึ่งเป็นผู้ตั้ง สิ่งที่เกิดขึ้นทําให้ไม่สามารถเห็นความเป็นไปได้ของการสร้างประชาธิปไตย จึงขอถามไปยังนายกรัฐมนตรีว่าตอนที่ท่านไปเซ็น MOA เมื่อมาอ่านคําแถลงต่อนโยบายไม่รู้สึกหรือไม่ว่ามันขัดกันและรู้สึกหรือไม่ว่าจะทําได้จริง นอกจากนี้เชื่อว่าจะนําไปสู่ความสําเร็จตาม MOA หรือไม่

"หากท่านเชื่ออย่างนั้นต้องทําให้รัฐสภาแห่งนี้เชื่อด้วย เริ่มต้นด้วยวันนี้ ดิฉันขอให้ท่านนายกรัฐมนตรีลุกขึ้นมายืนพูดกับสว.ในสภาแห่งนี้ว่า ชวนท่าน สว. กลางสภาเลยว่าให้มาร่วมกันแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตย และเปิดทางให้มีการทําประชามติ"

นอกจากนี้ นางสาวจิราพรยังเสนอให้มีการทําสัตยาบันร่วมกันระหว่างนายกรัฐมนตรี ผู้นําฝ่ายค้าน และสว. ว่าจะแก้ไขรัฐธรรมนูญนําไปสู่การทําประชามติและยุบสภา แบบนี้คนถึงจะเชื่อว่ารัฐบาลทําตามที่ตกลงไว้ และสามารถทําได้สําเร็จตาม MOA ที่เราไม่อาจทราบได้ว่าจะนําไปสู่การสร้างรัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตยได้จริงหรือไม่ แต่ทําให้เกิดรัฐบาลที่กุมอํานาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาด เป็นรองแค่เพียงรัฐบาลที่มาจากรัฐประหาร และขาดเพียงมาตรา 44 เท่านั้น เท่ากับว่าแม้มีการเปลี่ยนรัฐบาลประชาชนก็ต้องอยู่กับระบอบสีน้ำเงินไปอีกนับ 10 ปี การตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อยจาก MOA ด้วยวิธีแปลกประหลาดและพิสดารนี้เหมือนเป็นการชุบชีวิตพรรคสีน้ำเงินและฝ่ายอนุรักษ์นิยมให้มีอาวุธครบมืออย่างเต็มรูปแบบ

ดังนั้นพรรคเพื่อไทยจะทําให้ 4 เดือน ต่อจากนี้เป็น 4 เดือน แห่งการตรวจสอบอย่างเข้มข้นและใช้ทุกองคาพยพที่มีของรัฐสภาติดตามตรวจสอบถ่วงดุลรัฐบาลอย่างเต็มที่ ไม่เว้นแม้แต่การตรวจสอบองค์ประชุม

นางสาวจิราพรยังย้ำด้วยว่า ส่วนตัวเชื่อว่ารัฐบาลนี้ไม่ได้อยากอยู่เพียง 4 เดือน แต่จะอยู่ต่ออีก 4 ปี ซึ่งพรรคเพื่อไทยจะทําให้เห็นว่ารัฐบาลนี้สมควรที่จะเป็นแกนนําในการจัดตั้งรัฐบาลต่ออีก 4 ปีข้างหน้าหรือไม่

ด้าน น.ส.แนน บุณย์ธิดา สมชัย สส.อุบลราชธานี พรรคภูมิใจไทย ลุกขึ้นชี้แจงว่า หวังว่าวันนี้ระยะเวลาที่เหลือของแต่ละฝ่ายจะใช้อย่างคุ้มค่าเป็นประโยชน์และตรงประเด็นข้อมูลครบถ้วนไม่ใช่ครึ่งๆ กลางๆ ชี้นําให้คนเข้าใจผิด ซึ่งตนและเพื่อนสมาชิกเป็น สส. มานาน เชื่อว่าคงไม่มีการแทรกแซงไปมากกว่าชั้น 14

Advertisement

แชร์
"จิราพร" ฉะเดือด ท้ารัฐบาลอนุทิน ชวน สว. กลางสภาร่วมแก้รธน.