Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
ผศ.ดร.นพดล เสนอ รัฐบาลผ่าทางตัน แผน 4 เดือน ยุติภัยบัญชีม้าแบบสุดซอย

ผศ.ดร.นพดล เสนอ รัฐบาลผ่าทางตัน แผน 4 เดือน ยุติภัยบัญชีม้าแบบสุดซอย

25 ก.ย. 68
10:03 น.
แชร์

ผศ.ดร.นพดล เสนอ รัฐบาลอนุทิน–กระทรวงดีอีผ่าทางตัน เดินหน้าตามแผน 4 เดือน ยุติภัยบัญชีม้าแบบสุดซอย คืนความเป็นธรรมให้ผู้สุจริต 

วันที่ 25 ก.ย. 68 ผศ.ดร.นพดล กรรณิกา ผู้ก่อตั้งสำนักวิจัยซูเปอร์โพล และศิษย์เก่า มหาวิทยาลัยจอร์จทาวน์ วอชิงตัน ดีซี ด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ (Cybersecurity) ที่ปรึกษาโครงการ Stronger Together สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ภายใต้การกำกับดูแลของ พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ตามนโยบายของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยผลการศึกษา ยุติภัยบัญชีม้า ที่ค้นพบในโครงการศึกษาวิจัยมาตรการความร่วมมือเพื่อปกป้องผู้สุจริต ยุติภัยบัญชีม้า และสร้างเกราะป้องกันภัยให้ประชาชนจากขบวนการมิจฉาชีพออนไลน์ โดยประเด็นสำคัญที่ค้นพบพอสรุปได้ดังนี้ 

ข้อเท็จจริง ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา อาชญากรรมทางการเงินดิจิทัล ได้ทวีความรุนแรงจนกลายเป็นภัยคุกคามสำคัญต่อทั้ง ความมั่นคงทางเศรษฐกิจ และ ความเชื่อมั่นของประชาชนไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากแก๊งคอลเซนเตอร์และเครือข่ายมิจฉาชีพออนไลน์ ที่ฉวยโอกาสจากช่องโหว่ของระบบการเงินและเทคโนโลยีการสื่อสารในการหลอกลวงประชาชน ส่งผลให้เกิดความเสียหายมูลค่าหลายร้อยล้านบาทต่อวัน 

อย่างไรก็ตาม ในกลางปี 2567 ได้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ เมื่อมีการประสานความร่วมมืออย่างใกล้ชิดในระดับทวิภาคี ระหว่างคณะทำงานด้านการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ นำโดย พล.ต.อ. ดร.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีฯ กับ ธนาคารแห่งประเทศไทย โดยตนมีโอกาสเข้าร่วมประชุมในฐานะที่ปรึกษาและผู้แทนภาคประชาชน 

ข้อมูลสถิติยืนยันชัดเจนว่า ในช่วง มีนาคม 2565 – มีนาคม 2567 (762 วัน) ความเสียหายรวมมีมูลค่า 65,000 ล้านบาท หรือเฉลี่ยวันละ 85.3 ล้านบาท ขณะที่ในช่วง เมษายน 2567 – สิงหาคม 2568 (518 วัน) ความเสียหายลดลงเหลือ 33,000 ล้านบาท หรือเฉลี่ยวันละ 63.5 ล้านบาท (สำนักงานตำรวจแห่งชาติ, 2568) แสดงให้เห็นว่ามาตรการดังกล่าวสามารถทำให้ขบวนการมิจฉาชีพออนไลน์และแก๊งคอลเซนเตอร์สูญเสียรายได้มากกว่า 8,000 ล้านบาทต่อปี 

การวิเคราะห์บริบทสถานการณ์ วิเคราะห์จุดอ่อนสำคัญ พบว่า1. การทำงานแยกส่วนแต่ละส่วนหลากหลายมาตรฐาน ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง (ธนาคารต่าง ๆ ป.ป.ง. ธปท. ตำรวจ กรมสรรพากร ฯลฯ) 2. การสื่อสารไม่เพียงพอ ทำให้ประชาชนไม่รับรู้ความก้าวหน้า และเกิดความรู้สึก “รัฐทอดทิ้ง” ทั้งๆ ที่ วันนี้ทุกภาคส่วนกำลังเดินมาถูกทางแล้ว มาตรการต่างๆ ทำให้ขบวนการมิจฉาชีพและแก๊งคอลเซนเตอร์สูญเสียรายได้หลายพันล้านบาท และประชาชนตื่นรู้ตื่นตัวตระหนักมากยิ่งขึ้น 3. มาตรการคุ้มครองผู้สุจริตยังไม่ชัดเจน จึงทำให้ผู้เสียภาษีและผู้ประกอบการผู้สุจริตสูญเสียแรงจูงใจในการทำดี และตกเป็นเหยื่อขบวนการมิจฉาชีพออนไลน์ 

ข้อเสนอมาตรการเชิงรุกหากรัฐบาลที่นำโดย นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เดินหน้าแนวทางเชิงรุกอย่างจริงจัง ประเทศไทยมีศักยภาพที่จะ “ยุติภัยบัญชีม้า” ได้ภายใน 4 เดือน โดยอาศัยมาตรการสำคัญดังนี้

1. ศูนย์ตรวจสอบธุรกรรมเร่งด่วน (Fast Track Clearing Center) ศูนย์นี้จะทำหน้าที่กลั่นกรองและเร่งรัดการตรวจสอบธุรกรรมที่ถูกอายัด โดยหากผู้สุจริตมีหลักฐานครบถ้วน จะสามารถปลดอายัดได้ทันทีภายใน 4 ชั่วโมง และกรณีทั่วไปไม่เกิน 48 ชั่วโมง ลดผลกระทบต่อชีวิตประจำวันและธุรกิจของประชาชนผู้สุจริต

รัฐบาลใหม่โดย นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี อาจจะพิจารณานั่งหัวโต๊ะจัดตั้งคณะทำงานบูรณาการภายใน 30 วัน โดยมี DES เป็นศูนย์กลาง ประสานทุกหน่วยงานผ่านระบบ Application Programming Interface (API) พร้อมกับกรอบแนวคิดความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่เป็นสากลเช่น NIST หรือ ISO/IEC 27001

2. กรอบแนวคิดธงแดง/ธงเขียว Red Flag/Green Flag Framework ใช้ระบบคัดกรองความเสี่ยงด้วยสัญญาณ “ธงแดง” สำหรับธุรกรรมที่มีพฤติกรรมผิดปกติ เช่น การโอนเงินหลายทอดหรือบัญชีที่เพิ่งเปิดใหม่ และ “ธงเขียว” สำหรับผู้ที่มีประวัติการเสียภาษีต่อเนื่องหรือได้รับการยืนยันจากหน่วยงานรัฐว่าบริสุทธิ์ เพื่อให้เกิดความชัดเจนและลดความผิดพลาด

3. การใช้ Financial Integrity Score (FIS) จัดทำคะแนนความน่าเชื่อถือทางการเงินเพื่อมอบสิทธิพิเศษแก่ผู้ที่มีประวัติการเงินโปร่งใส เช่น ได้รับความคุ้มครองมากขึ้น และลดความเสี่ยงที่จะถูกอายัดโดยไม่เป็นธรรม 

4. การทำ AI Fraud Detection และ Blacklist กลางระดับชาติ โดยลงทุนพัฒนาระบบ AI และฐานข้อมูลกลาง เพื่อเฝ้าระวังธุรกรรมผิดปกติแบบเรียลไทม์ พร้อมจัดทำบัญชีดำที่ครอบคลุมทั้ง “บัญชีม้า–เบอร์โทรศัพท์–แอปพลิเคชันหลอกลวง” ให้ทุกธนาคารและผู้ให้บริการโทรคมนาคมสามารถเข้าถึงได้อย่างบูรณาการ

5. การสื่อสารเชิงรุก โปร่งใส และต่อเนื่อง รายงานสัปดาห์ต่อสัปดาห์ต่อสาธารณะ เช่น จำนวนบัญชีที่ได้รับการปลดอายัด มูลค่าความเสียหายที่ลดลง และผลลัพธ์ของมาตรการ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชนว่ารัฐกำลังแก้ปัญหาอย่างจริงจังและเห็นผลได้ทันตา ปรับปรุงกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA) เพื่อเปิดทางการแชร์ข้อมูลระหว่างหน่วยงานในกรณีที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันอาชญากรรม 

บทสรุปมาตรการนี้ไม่ใช่เพียงการปราบปรามมิจฉาชีพ แต่เป็นการคืนความยุติธรรมแก่ผู้สุจริตและสร้างความเชื่อมั่นในระบบการเงินไทย ให้ประชาชนทุกคนมั่นใจว่า เงินในบัญชีจะไม่ถูกทำให้กลายเป็น “บัญชีม้า” โดยไม่เป็นธรรม แต่ภายในระยะเวลา 4 เดือนนี้ ด้วยความร่วมมือบูรณาการแท้จริงของ รัฐบาล นำโดย นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงมหาดไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงาน ป.ป.ง. และ ธนาคารพาณิชย์ ประเทศไทยจะมีเกราะป้องกันทางการเงินดิจิทัลที่เข้มแข็งที่สุดในภูมิภาค มั่นใจได้เลยว่าจะสามารถฟื้นฟูความเชื่อมั่นศรัทธาของประชาชนกลับคืนมาได้เป็นมรรคเป็นผล

Advertisement

แชร์
ผศ.ดร.นพดล เสนอ รัฐบาลผ่าทางตัน แผน 4 เดือน ยุติภัยบัญชีม้าแบบสุดซอย