Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
"อนุทิน" พับเพียบหาเสียงเลือกตั้งซ่อมศรีสะเกษ

"อนุทิน" พับเพียบหาเสียงเลือกตั้งซ่อมศรีสะเกษ

21 ก.ย. 68
15:37 น.
แชร์

"อนุทิน" พับเพียบหาเสียงเลือกตั้งซ่อมศรีสะเกษ ขน 4 รัฐมนตรี-18 สส. อ้อนคนชายแดน สัญญาแล้วนะ บ่ตั๊ว บ่จุ๊ ประกาศปักธงศรีสะเกษ ยกจังหวัด

วันที่ 21 กันยายน ที่จังหวัดศรีสะเกษ บรรยากาศเวทีปราศรัยพรรคภูมิใจไทยที่สำนักงานเทศบาลตำบลโพธิ์กระสัง เพื่อหาเสียงเลือกตั้งซ่อมจังหวัดศรีสะเกษเขต 5 ที่มีนางสาวจินณ์ตวรรณ ไตรสรณกุล หรือครูอีฟ ผู้สมัคร สส. ภูมิใจไทย ลงสมัครในศึกเลือกตั้งซ่อม ที่จะมีขึ้นในวันที่ 28 กันยายน

โดยที่เวทีปราศรัยมีชาวบ้านในพื้นที่ต่างหอบลูกจูงหลานมาฟังปราศรัย โดยเวทีมี 18 สส.ในพื้นที่จังหวัดภาคอิสานเดินทางมาร่วมปราศรัยด้วย และให้การต้อนรับนายอนุทิน ชาญวีรกูลในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย

ทันทีที่มาถึงมีชาวบ้านร่วมไปต้อนรับนายอนุทินถึงที่รถพร้อมถ่ายรูปเซลฟี่และมอบพวงมาลัยดอกไม้ ซึ่งนายอนุทิน ยังได้พารัฐมนตรี เดินทางมาร่วมปราศรัยและพบปะกับชาวบ้านในพื้นที่ด้วยอาทิ นายโสภณ ซารัมย์ รองนายกรัฐมนตรี นางสาวซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม นายภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และนายทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย

จากนั้น นายอนุทิน ขึ้นปราศรัยบนเวที ว่า ทักทายชาวบ้านที่มารอฟังปราศรัยและให้กำลังใจ ก่อนถามว่าจำกันได้หรือไม่ เคยมาเมื่อช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา และทุกครั้งที่มาก็มีแต่ความอบอุ่น ก่อนบอกว่าที่จริงนางสาวจินณ์ตวรรณ ต้องเข้าทำงานในสภาตั้งแต่เดือนที่แล้ว วันนี้ไม่ควรมาหาซึ่งวันนี้ไม่ควรที่จะต้องหาเสียงแต่ควรจะต้องมาขอบคุณแทน ซึ่งครั้งที่แล้วมาเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรธรรมดาแต่วันนี้มาเป็นนายกรัฐมนตรี และเป็นนายกรัฐมนตรีที่ชาวศรีสะเกษให้ความไว้วางใจ

นายอนุทิน ยังได้กล่าวแซวว่า ตอนที่เดินทางมาถึงชาวบ้าน เข้ามาจับมือจนน้ำตาไหล แต่ไม่ใช่ดีใจอย่างเดียว แต่น้ำตาไหลเพราะนิ้วซ้นเพราะชาวบ้านบีบมือซะแน่นเลย

นายอนุทิน กล่าวต่อว่า ในวันที่ 28 กันยายนนี้ เราจะมีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรคนใหม่ที่ชื่อ จินณ์ตวรรณ ซึ่งเมื่อก่อนและทุกคนเรียกครูอีฟ ตนก็บอกว่า เค้าเป็นลูกเป็นหลานไม่ให้เรียกครู ให้เรียก “อีอีฟ นังอีฟ ไอ้อีฟ หรือลูกอีฟ” ซึ่งเรากำลังจะมีคนที่ซื่อสัตย์และภักดีกับพวกเรา ไปทำงานในสภาแทน เพื่อให้ทุกคนมีความมั่นใจว่าพวกตนจะรับใช้ชาวศรีสะเกษทั้งหมดและชาวไทยทั้งหมดอย่างเต็มที่

นายอนุทิน บอกต่อว่า มาที่เวทีนี้หลายครั้งแล้ว แต่พี่น้องยังไม่ให้ สส. ต้นเลยสักครั้ง ครั้งนี้ขอให้ไข่แตกเลยได้ไหม “นายกฯขอหน่ะได้หรือเปล่า สัญญาแล้วนะ บ่ตั๊ว บ่จุ๊นะ“

นายอนุทิน ยังพูดถึงเรื่องการเปิดด่าน ว่า วันนี้มีปัญหามากมายพวกเราอยากให้เปิดด่านหรือปิดด่าน ก่อนจะถามชาวบ้านว่ามีใครอยากให้เปิดด่าายกมือ ก่อนจะพูดแซวว่า “อุ๊ยตายแบบนี้ใครจะให้เปิดเล่า” เพราะชาวบ้านไม่มีใครยกมือเลย ก่อนบอกต่อว่าขนาดชาวขุนหาญ-ชาวภูสิงห์ ยังบอกให้ปิดด่าน แล้วชาวไทยทั้งประเทศก็บอกให้ปิดด่าน

“สุนัขตัวไหนจะกล้าเปิด อย่าว่าแต่สุนัขไม่กล้าเปิดเลย หนูยิ่งไม่กล้าเปิดใหญ่เลย ผมคนไทยนะครับ ผมนายกฯ ของพวกท่านครับ ไม่ใช่นายกฯ ของเพื่อนบ้าน ไม่ใช่นายกฯกัมพูชา”

จากนั้น นายอนุทิน ได้เปิดตัวรัฐมนตรี โดยให้เดินมาอยู่หน้าเวที พร้อมแนะนำตัวทีละคน อาทิ นายโสภณ ซารัมย์ บอกว่าเป็นพี่ใหญ่ของผมอยู่ที่บุรีรัมย์ ก็เป็นคนของพวกเราที่จะมาดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ คนนี้มาคราวที่แล้วจำได้ไหมเป็นขี้ข้าคนไทย เป็นขี้ข้าของศรีสะเกษ เป็นรัฐมนตรีวัฒนธรรม นายทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยมหาดไทย น.ส.จินฒ์วรรณ คนนี้ไม่ต้องบอก เป็น สส.ของศรีสะเกษ นายภราดร ปริศนานันทกุล เขาหล่อกว่า เขาเด็กกว่า แต่ปัญญาไม่เด็ก เขามาเป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ผมไปไหนเขาไปด้วย ดูแลด้านสำนักงบประมาณ เพราะไปที่ไหนที่น้องเดือดร้อนที่ไหน เค้าจะเป็นคนแรกที่ทำให้พี่น้องหายเดือดร้อน จากนั้น นายอนุทิน ยังแนะนำตัว 18 สส. พรรคภูมิใจไทย

ช่วงหนึ่ง นายอนุทิน ยังแนะนำ น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล ว่า “นี่คือสุดยอดดวงใจของผม ทำงานแทนผม หัวใจคนศรีสะเกษ ก่อนบอกว่า คนนี้มีวลีเด็ด “ถ้าอีนั่นเป็นได้ อีนี่ก็เป็นได้นี่ไงครับ นี่คืออีนี่ ของคนศรีสะเกษ ช่วงนี้ขอขโมยตัวจากพี่น้องชาวศรีสะเกษ เพราะผมทำหน้าที่นายกฯ แล้ว ขอเอาคนศรีสะเกษมาเป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรีโอเคไหม” เพราะฉะนั้นพี่น้องชาวศรีสะเกษเห็นหรือยังว่า ”ภูมิใจไทยพูดแล้วทำว่าวแล้วเฮ็ด“

ต่อมายังแนะนำ นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ว่า ”เป็นคนที่จะเป็นกระบอกเสียง เป็นผู้ช่วยรัฐมนตรี เป็นพวกชอบปิดทองหลังพระ ชอบทำงานอยู่ข้างหลัง ผมทำงานกับเขา สั่งงานกับโต้ง สั่งอะไรไป สั่งวันนี้เสร็จเมื่อวาน ทำตามผมทุกอย่าง ทุกครั้งโต้งจะตะโกนกลับมาว่าเสร็จแล้วครับท่าน สิ่งที่ยากที่สุดคือหาตัวไม่ค่อยเจอ โทรทีก็ต้องโทรกลับ แต่เขาคือคนคุณภาพของคนศรีสะเกษ”

นายอนุทิน บอกว่า ที่พามานี่ดีนะยังไม่ถึง 1 ใน 5 ของพรรคที่มีอยู่ แต่มาวันนี้เพื่อมาพบกับพ่อแม่พี่น้อง ให้เกิดความมั่นใจว่า หลังจากนี้สภาเหลือ 4 เดือน เพราะเรามีสัญญาไว้กับทุกคนว่าเราจะให้มีการเลือกตั้งใหม่ และมั่นใจว่าคนศรีสะเกษรักเรา ขอให้พี่น้องชาวศรีสะเกษจุดประกายไฟเขต 5 ให้ภูมิใจไทย ปีหน้าเลือกตั้งใหม่ขอยกจังหวัดศรีสะเกษ พวกเราจะได้ทำให้ฝันของพี่น้องเป็นจริงทุกอย่าง

นายอนุทิน บอกอีกว่า ตั้งแต่ปิดด่านชายแดน ราคามันสำปะหลังขึ้น คราวที่แล้วที่มาเปิดๆ ปิดๆ มันสำปะหลังราคาตกเหลือ 80 สตางค์ วันนี้พอพวกตนเข้ามาทำงานบอกว่าเรื่องทหารให้ทหารว่าไป ทหารก็บอกว่าไม่เปิดด่าน คนไทยยังไม่ให้เปิดด่าน พี่น้องยังไม่ให้เปิดด่าน เพราะฉะนั้นต้องปิดด่าน ซึ่งตอนนี้ราคามันสำปะหลังก็ขึ้นไปถึง 2 บาทกว่า เพราะ ถ้าเปิดด่านจะมีคนลักลอบเอาสินค้าพืชผลทางการเกษตรจากนอกประเทศเข้ามา ราคาพืชผลทางการเกษตรก็จะตกต่ำ

“ผมว่ามันต้องมีเอื้อนายทุนพวกเจ้าของโรงแป้งมันถูกไหม เพราะเขาจะได้ซื้อมันถูก แต่ราคาแป้งไม่ได้ลดลง เราก็ยังซื้อแพงเหมือนเดิม เราต้องปิดด่านต่อไป ประโยชน์จะเกิดขึ้นกับใครนอกจากพี่น้องประชาชนทุกคน” นายอนุทินกล่าว

นายอนุทินบอกต่ออีกว่า ส่วนหลังจากที่เข้าไปทำงานแล้ว จะเป็นเวลาเหมาะกันพอดี หากพี่น้องเลือกนางสาวจินณ์ตวรรณเข้าไปเป็น สส. ตรงกับพวกตนเข้าไปทำงาน เป็นรัฐบาล โครงการคนละครึ่งก็กลับมาภายใน 1 เดือน เป็นนโยบายที่จะทำให้เศรษฐกิจเดินหน้าไปได้ รัฐบาลมีเวลาไม่นาน จึงจะต้องแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชาก็ต้องแก้ไข ปัญหาพืชผลทางการเกษตร ปัญหายาเสพติดไม่ต้องห่วง

“พวกผมเป็นตำรวจ ผมไปดูมหาดไทย ไปดูความมั่นคงก็จะเร่งปราบปรามปัญหายาเสพติดให้เต็มที่ เรื่องของเศรษฐกิจ โครงการคนละครึ่ง หากใครเสียภาษีก็จะได้เพิ่มมากขึ้นเป็น 60:40 แต่คนที่ไม่ได้อยู่ในระบบภาษีก็ยังได้คนละครึ่งเหมือนเดิม เป็น 50:50 จะทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น มีการอุดหนุน ดูแลกันเอง เศรษฐกิจก็จะเพิ่มมากขึ้นไปเรื่อยๆ เป็นสิ่งที่ผมให้ความมั่นใจกับพี่น้องว่า เราจะเข้าไปทำ ภูมิใจไทยพูดแล้วทำอยู่แล้ว”

นานอนุทิน ย้ำในช่วงท้ายบนเวทีปราศรัย ว่า ส่วนการเลือกตั้งในสัปดาห์หน้า ผมคิดว่าพ่อแม่พี่น้องมั่นใจได้ว่าจะเป็นการเลือกตั้งที่ขาวสะอาด เพราะ 2 เดือนที่แล้ว ผมเพิ่งถูกไล่ออกจากรัฐบาล ตอนนั้นเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย แต่เขาจะเอากระทรวงคืน และขอให้ออกไปเป็นฝ่ายค้าน “ตอนนั้นผมก็มาเป็นฝ่ายค้าน มีการเลือกตั้งซ่อมผมก็มาแบบฝ่ายค้าน พี่น้องก็ยังเต็มเวทีหมด แต่ไม่มีเจ้าหน้าที่มาซักคน วันนี้ผมมาเป็นรัฐบาลแล้ว พี่น้องก็ยังมา “ผมไม่กังวล เสียงของพ่อแม่พี่น้องก็เป็นเสียงบริสุทธิ์แน่นอน ผมไม่กังวลว่าใครจะมามีอิทธิพลทำให้พ่อแม่พี่น้องเปลี่ยนใจไปได้ พ่อแม่พี่น้องตั้งใจเลือกเบอร์ 2 อยู่แล้วใช่หรือไหม สัญญาแล้วนะ ให้ผมพูดแล้วทำใช่ไหม พี่น้องต้องพูดแล้วทำด้วยนะ”

ขณะที่เวทีปราศรัย ยังมีนายสนอง เทพอักษรณรงค์ สส.บุรีรัมย์ เขต 1 พรรคภูมิใจไทย ขึ้นกล่าวทักทายและวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาลชุดเก่า ในเรื่องของการช่วยเหลือเยียวยาชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากเหตุความไม่สงบระหว่างชายแดนไทยกัมพูชา

นอกจากนี้ยังมีในส่วนของ นายโสภณ ซารัมย์ รองนายกรัฐมนตรี เดินทางมาร่วมให้กำลังใจและขึ้นปราศรัยครั้งนี้ด้วย โดยเริ่มจากการกล่าวทักทายพระแม่พี่น้อง โดยยืนหยัดจุดเด่นยี่ห้อภูมิใจไทย คือการพัฒนาบ้านของตัวเองก่อน โดยระบุว่า ไม่กังวลใจหากถูกคนอื่นด่าในสภาฯ ว่าเอะอะอะไรก็เอางบประมาณไปลงแต่บ้านตัวเอง ซึ่งมันก็ไม่แปลก เพราะสุดท้ายคือประชาชนที่เลือกมาได้ผลประโยชน์

ขณะที่ นางสาวจินณ์ตวรรณ กล่าวปราศรัยบนเวที ว่า มีความยินดี ที่ได้มีโอกาสได้มาเจอพ่อแม่พี่น้อง และมีสมาชิกพรรคภูมิใจไทย เดินทางมาให้กำลังใจและช่วยหาเสียง โดยมีนายอนุทินชาญวีรกุล นายกรัฐมนตรี เดินทางมาให้กำลังใจ และมีความพร้อมที่จะมารับใช้ประชาชน

โดยนางสาวจินณ์ตวรรณ ย้อนไปถึงเหตุการณ์ คลิปเสียงการสนทนากับอังเคิล ซึ่งพรรคภูมิใจไทยพยายามให้ลาออก จากนายกรัฐมนตรี แต่ไม่ยอมลาออก จนกระทั่งศาลรัฐธรรมนูญมีการวินิจฉัยให้พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ในขณะที่พรรคภูมิใจไทยเป็นพรรคอันดับ3 ซึ่งมีแคนดิเดตอยู่ในบัญชีรายชื่อ ซึ่งมีโผคณะมนตรี ในรัฐบาล 4 เดือน แต่จัดเต็มแน่นอน เนื่องจาก ทุกการทำงานมีเป้าหมาย ซึ่งเป้าหมายของตนเองคือชัยชนะ แต่เป้าหมายไม่สำคัญเท่าในระหว่างทางที่เดินทาง ที่ได้พบญาติพี่น้อง

ส่วนตัวมีความตั้งใจอยากจะสะท้อนในประเด็นเรื่องของปัญหาชายแดนไทยกัมพูชา พี่น้องจังหวัดศรีสะเกษ มีการอพยพออกจากบ้าน และขาดรายได้จากการที่อพยพออกไปแล้วยังไม่สามารถกลับมาทำงานได้ ซึ่งมีงบประมาณในการช่วยเหลือเยียวยาหลายจุด ที่ทางชาวบ้านยังไม่ได้รับการช่วยเหลือ แต่ไม่มีคนเรียกร้องสิทธิ์ให้พี่น้องประชาชน

นอกจากนี้ยังคงต้องเร่งแก้ปัญหาระหว่างชายแดน ด้วยการนำเสียงสะท้อนในสภาฯ จากตนเองที่เคยเป็นครูอยู่ชายแดน ตอนนี้ผันตัวมาเป็นนักการเมือง ก็มีความพร้อม ที่จะสะท้อนปัญหาเรื่องของชายแดน ให้มีการขีดเส้นกั้นระหว่างสองชายแดน เพื่อป้องกันการเกิดปัญหาเกิดขึ้นอีกครั้ง เพราะปฏิเสธไม่ได้ ว่าที่ดินของไทย อยู่ติดกับที่ดินกัมพูชา และขอเป็นตัวแทนในการ ผลักดันประเด็นเรื่องการสร้างรั้วกั้นแนวชายแดน

ที่สำคัญตนเองอยากใกล้ชิดกับประชาชน โดยมี LINE OFFICIAL ที่สามารถแจ้งปัญหา พูดคุยกันง่ายๆ โดยไม่ต้องมีพิธีรีตอง เพื่อให้เกิดความใกล้ชิดเหมือนสมัยที่พ่อตนเองดำรงตำแหน่งเป็น สส.ศรีสะเกษ และขอคะแนนเสียงจากพี่น้องประชาชนให้เลือกตนเองเป็น สส.ศรีสะเกษ เขต5 ในวันที่ 28 กันยายน 2568 นี้ อยากให้พี่น้องออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งเพื่อเลือกตัวแทนไปสะท้อนปัญหาในสภาผู้แทนราษฎร

ภายหลังการปราศรัยเสร็จสิ้น นายอนุทิน ยังได้นั่งพับเพียบบนเวที แล้วก้มลงถ่ายรูปเซลฟี่กับชาวบ้านอย่างเป็นกันเอง ขณะที่นางสาวซาบีดา ก็นั่งพับเพียบถ่ายรูปกับชาวบ้านเช่นเดียวกัน ก่อนที่ลงมาพบปะพี่น้องประชาชนอีกครั้ง ส่วนบรรยากาศข้างล่างเวที ก็มีชาวบ้านหลายคน แห่เข้ามาถ่ายรูปกับ นางสาวธนนนท์ นิรามิษ ภริยาของนายอนุทินด้วย บรรยากาศเป็นไปอย่างอบอุ่น

Advertisement

แชร์
"อนุทิน" พับเพียบหาเสียงเลือกตั้งซ่อมศรีสะเกษ