วันที่ 20 ก.ย. 68 ลีนา จังจรรจา หรือ ลีน่าจัง อดีตหัวหน้าพรรคมหาประชาชน และอินฟลูเอนเซอร์ดัง ให้สัมภาษณ์ “ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี” ถึงประเด็นเรื่องชายแดนไทย-กัมพูชาว่า ส่วนตัวแล้วตนเองห็นด้วยกับการบ้อมรั้ว เพราะถ้าไม่ล้อมรั้ว ทหารไทยก็จะขาขาดแบบนี้ไปเรื่อยๆ เช่นที่ บ้านหนองจาน หรือบ้านหนองหญ้าแก้ว ที่ผ่านมาคนที่มาชุมนุมก็คือทหารเขมรที่ปลอมตัวมา แล้วใช้ไม้หน้าสาม ใช้ก้อนหิน ใช้เหล็ก ขว้างใส่เจ้าหน้าที่ของไทย รวมถึงยังเอาเหล็กมาเขี่ยรั้วลวดหนามออกต่อหน้าเจ้าหน้าที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้ หนำซ้ำจุดที่ชาวกัมพูชายืนอยู่นั้น ก็คือแผ่นดินของไทยตนเองก็สงสัยว่าทำไมเจ้าหน้าที่ถึงไม่จับ กลัวอะไรกัน ไม่เหมือนปี 2553 ที่มีคนถูกยิงตาย 99 ศพ ตนเองเห็นกับตา ทำไมแบบนี้ถึงทำกับคนไทยด้วยกันได้ แต่กับเขมรทำไมถึงไม่ทำ
ส่วนกรณีมีรัฐมนตรีบางคนที่ออกมาบอกว่าทำกำแพงไม่ได้ หากทำกำแพงแล้วจะเสียพื้นที่ ก็อยากจะฝากไปบอกว่า จุดไหนที่เสียพื้นที่ก็ไม่ต้องทำ จุดไหนที่ไม่เสียพื้นที่ก็ทำตรงจุดนั้น เพราะช่องทางต่างๆ ที่เป็นช่องทางธรรมชาติถือเป็นพื้นที่เก็บส่วยอย่างดี และแบบนี้คนสามารถขับรถเข้าไปเล่นการพนันได้ 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ยังมีเรื่องยาเสพติด ของหนีภาษี เวลาคนเหล่านี้จะผ่านทหารที่อยู่ประจำจุดก็เก็บส่วยคนละ 20,000 บาท คนที่เสียผลประโยชน์จึงไม่ต้องการให้ปิดด่านเพราะไม่สามารถรีดเอาส่วยกับคนเหล่านี้ได้ ซึ่งบริเวณแนวชายแดนมีบ่อนเป็นจำนวนมาก สร้างในยุคของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และแก๊ง 3 ป. รวมถึงมีนักการเมืองไทยเป็นหุ้นส่วน ในการสร้างบ่อน และมีกลุ่มจีนเทาร่วมด้วย ซึ่งมีแทบทุกพื้น จุดดังกล่าวมีผลประโยชน์ มหาศาล และนักการเมืองใช้งบประมาณของไทยสร้างถนนไป 27 ล้านบาท เพื่อให้เดินทางไปที่บ่อนได้สะดวก ถือว่าเป็นสิ่งที่เลวร้ายมาก
รวมถึงนักการเมืองที่เป็นรัฐมนตรี 4 คน ตอนนี้ก็มีผลประโยชน์ เป็นหุ้นส่วนของเขมรและจีนเทาในการสร้างบ่อน และนักการเมืองเหล่านี้ก็ใช้เงินภาษีของประชาชนชาวไทยสร้างถนน เพื่อให้นักพนันสะดวกสบายในการเข้าบ่อน ดังนั้นนักการเมืองเหล่านี้ อย่ามาพูดตอแหล ซึ่งมีนักการเมืองบางคนที่ไปรับเงินจากทุนจีนสีเทา มากี่ร้อยล้าน เพื่อให้มาวิ่งเต้นเรื่องนี้ หนำซ้ำยังพยายามคัดค้านประเทศไทยไม่ให้สร้าง Entertainment Complex เพราะกลัวจะเสียผลประโยชน์จากบ่อนชายแดน
โดยรัฐมนตรี 4 คน ที่ร่วมลงทุนและมีส่วนเกี่ยวข้องกับบ่อนกาสิโน ขณะนี้ก็เป็นรัฐมนตรีในรัฐบาลของนายอนุทิน จันทบุรีมีคนดูแล 1 คน ตราดมีคนดูแล 1 คน สระแก้วมีคนดูแล 1 คน บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ สุรินทร์ อุบลฯ ก็มี สส.อีก 1 คน คอยคุมและดูแล 4 จังหวัดนี้
ซึ่งช่วงที่ตนเองลงไปพื้นที่ทหาร ในพื้นที่เปิด กูเกิ้ลe และฟ้องตนว่าพื้นที่ตรงนี้คือดินแดนของไทย ตนเองดูแล้วเจ็บปวดมาก ฝากถึงนักการเมืองเหล่านี้อย่าคิดว่าประชาชนโง่ อย่าให้ประชาชนคนไทยต้องใช้ โมเดลแบบเนปาล หรือโมเดลอินโดนีเซียเข้ามาจัดการเพราะนักการเมืองเลวๆ แบบนี้จะไม่มีแผ่นดินอยู่
ส่วนกรณีการล้อมรั้ว จากการที่ตนเองลงเป็นที่ไปดูมามองว่าบางส่วนทำได้ แต่ส่วนไหนที่ทำไม่ได้ ก็ยังไม่ต้องทำ ทำจุดที่ทำได้ก่อน อย่างกรณีหนองหญ้าแก้ว จะเห็นได้ว่าตำรวจควบคุมฝูงชน ยืนคุมเชิงอยู่ และจะมีหนองน้ำกั้น ซึ่งจริงๆ แล้วจุดดังกล่าวเป็นผืนแผ่นดินของไทย และห่างจากจุดนี้ไปอีกประมาณ 200 เมตรด้วยซ้ำ โดยกลุ่มเขมรที่มาก่อความวุ่นวายนั้นก็ยืนอยู่บนแผ่นดินไทย ทำไมเจ้าหน้าที่ถึงไม่จับทั้งๆที่มีการประกาศกฎอัยการศึก ซึ่งโทษหนักมากและสามารถจับกุมได้เลย สูงสุดถึงขั้นประหารชีวิตหลายข้อหารวมกัน เช่น ก่อการจราจล ทำร้ายเจ้าพนักงาน ขัดขวางต่อสู้เจ้าพนักงาน ทำให้ทรัพย์สินของราชการเสียหาย และลักทรัพย์ ซึ่งรวมแล้วสามารถประหารชีวิตได้ เพราะมีการประกาศกฎอัยการศึก แต่ทำไมเจ้าหน้าที่ถึงไม่ดำเนินการจับกุม กลัวอะไรกัน ถ้าตนเองเป็นนายกฯ เมื่อไหร่ จะสั่งให้เอา F16 กริพเพน ถล่มบ้าน ฮุนเซน ให้ตายทั้งโคตร
ส่วนกรณีที่กัมพูชามาประท้วงกันนั้น มีทั้งเด็ก ผู้หญิง คนแก่ และพระ เป็นการจ้างมา จ้างคนละ 30 ดอลลาร์ นอกจากนี้ยังมีพวกอินฟลูเอนเซอร์ที่ต้องการกระแสจากข่าวดังกล่าว ก็เดินทางมาสร้างกระแส
โดยวันนี้ ผบ.ทุกเหล่าทัพบอกว่า ต้องสั่งปิดด่าน ตนเองเห็นด้วย เพราะการปิดด่านถือว่าเป็นสิ่งที่ดีที่สุด เพราะคนไทยไม่ได้เสียหายใดๆ เลย กรณีที่ สส.พรรคประชาชนรายหนึ่งได้ออกมาพูดถึงกรณีการส่งออกเป็นเงินแสนกว่าล้านบาท เป็นการซื้อทองคำเพื่อฟอกเงินของกลุ่มสีเทาในประเทศกัมพูชา ซึ่งมีการส่งมะม่วง ผ่านมาทางจันทบุรี-ตราด มาขายที่ไทย และมีการซุกเงินมาในมะม่วง หลังจากนั้นก็มาซื้อทองคำและส่งออกไป ซึ่งเป็นการฟอกเงิน เพราะภาษีทองคำเราไม่ได้เก็บ ก็จะไม่ได้ในส่วนของตรงนี้ กรณีที่กัมพูชาส่งของเข้ามาที่ไทยไม่ได้ มองว่าเป็นผลดีกับประชาชนชาวไทยและเกษตรกรชาวไทยด้วยซ้ำ เพราะทำให้สินค้าเกษตร โดยเฉพาะมะม่วงไทยราคาสูงขึ้น ส่วน สส.พรรคประชาชน ที่ออกมาพูดอยากจะรู้เหลือเกินว่า รับเงินจากแก๊งจีนเทาและบ่อนพนันมา ท่าไหร่ ถึงได้มาพูดให้ข้อมูลผิดๆ แบบนี้
กรณีของคณะรัฐมนตรีของนายอนุทิน ที่มีคนไปยื่นร้องเรียนก็จะรอดูว่าจะมีการยกฟ้องหรือไม่ เพราะนายอนุทินเส้นใหญ่ ใครไปร้องอะไร ก็ถูกยกฟ้องหมดไม่ผิดสักอย่าง ซึ่งประเทศนี้ 2 มาตรฐานอย่างชัดเจน อย่าให้ประชาชนทนไม่ไหวและต้องลุกขึ้นมาใช้โมเดลของอินโดนีเซีย และโมเดลของเนปาล เพราะจะเกิดความเสียหายอย่างมหาศาล
โดยก่อนหน้านี้ ตนเองลงพื้นที่และได้สอบถามไปยังชาวบ้าน ที่อยู่ในพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งให้ข้อมูลกับตนเองว่าชาวบ้านในพื้นที่ทราบดีทุกอย่างว่าจุดดังกล่าวมีการรับส่วยอย่างไรบ้าง แต่ไม่มีใครกล้าพูดเพราะกลัวถูกเก็บ และกลัวความไม่ปลอดภัยของชีวิต
กรณีสร้างกำแพง มองว่ายังไงก็สามารถทำได้ และรัฐบาลก็ต้องอนุมัติงบประมาณไป จำนวน 7 หมื่นล้านบาท ซึ่งเงินก็มีอยู่แล้ว อยากฝากถึงรัฐบาลอนุทินว่าอย่าเป็นรัฐบาลการละคร ในเมื่อได้รับการโปรดเกล้าฯแล้ว ก็ควรจะเริ่มลงมือในทันที เพราะตอนนี้ประเทศไทยถือว่าอยู่ในช่วงวิกฤต
Advertisement