"เพื่อไทย" ดิ้นเฮือกสุดท้าย "จุลพันธ์" ขู่ มีคนร้องจนต้องวินิจฉัยMOA
"เพื่อไทย" ดิ้นเฮือกสุดท้าย "จุลพันธ์" ขู่ มีคนร้องจนต้องวินิจฉัยเหตุMOAส่อใช้อำนาจในการล้มล้างการปกครองตามรัฐธรรมนูญ แฉ เพื่อน สส.อึดอัดไม่อยากลงมติ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภา ทำหน้าที่ประธานในการประชุม ภายหลังเปิดให้มีการอภิปรายว่าจะเลื่อนวาระการโหวตเลือกนายกรัฐมนตีขึ้นมาพิจารณาก่อนหรือไม่
ช่วงหนึ่ง นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ สส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ลุกอภิปรายว่า วันนี้บรรยากาศในสภาก็วุ่นวาย มีความขัดแย้งต่างๆไม่น้อยกว่า 3 เส้า สถานการณ์การเมืองในปัจจุบัน พรรคหนึ่งก็พยายามลุกลี้ลุกลน อยากจะเลื่อนระเบียบวาระให้เร็วที่สุด ตนเข้าใจ พวกตนก็บอกว่ามันควรจะชะลอได้หรือไม่ เพราะการตัดสินใจเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ สถานการณ์ในปัจจุบันเราเห็นกันอยู่แล้ว จากสิ่งที่มีการตกลงกันระหว่างพรรคประชาชนและพรรคภูมิใจไทย
“การที่เข้าไปกำหนดว่าอยู่ได้ 4 เดือน ห้ามเป็นเสียงข้างมาก มันขัดต่อหลักการประชาธิปไตย สุ่มเสี่ยงกับการใช้อำนาจในการล้มล้างการปกครองตามรัฐธรรมนูญหรือไม่ ตรงนี้เป็นเรื่องถัดไปที่คงจะมีการร้องกันต่อ และมีกระบวนการวินิจฉัยจากฝ่ายอื่นซึ่งไม่ใช่เรา” นายจุลพันธ์ กล่าว
นายจุลพันธ์ กล่าวต่อว่า นอกจากนั้นสิ่งที่ตนเป็นห่วงคือเรื่องเอกสิทธิ์ของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ตนยืนยันว่าเอกสิทธิ์ของ สส.เป็นสิ่งสำคัญ ไม่มีใครกำหนดหรือกะเกณฑ์บังคับสมาชิกได้ แต่วันนี้ ด้วยข้อตกลงที่เกิดขึ้นทำให้ สส. มาคุยกันในวงนอกว่าอยู่ในความอึดอัด ไม่อยากลงมติอย่างใดอย่างหนึ่ง แต่ด้วยข้อตกลงที่เกิดขึ้น สถานการณ์ที่เกิดขึ้นถูกบีบบังคับทำให้เอกสิทธิ์ของ สส. ที่มีมันหายไป เรามีสมาชิก 496 คนถามหรือยังว่าพร้อมกันหรือไม่ วันที่ท่านประธานบรรจุระเบียบวาระ ตนยังติงเลย เข้าใจว่าเป็นอำนาจของท่านประธาน แต่เรื่องอย่างนี้ในลักษณะของการลงมติการเรียกบุคคลให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ต้องให้เวลา ทุกครั้งเรานัดเป็นนัดพิเศษ ให้เวลาไม่น้อยกว่า 3 วัน วันนี้เรามีระเบียบวาระการประชุมเต็มไปหมด ตนว่าต้องพิจารณากฎหมายไปตามลำดับแล้วจะมีการลงมติในช่วงเย็น
“พวกผมพร้อมครับ เย็นนี้ได้ลงกันแน่ ไม่หนีไปไหน เรื่องสำคัญขนาดนี้ไม่มีใครหนี เราอย่าเอาความพร้อมของเราแต่เพียงฝ่ายเดียว ต้องเอาความพร้อมของสมาชิกทุกคนที่อยู่ในสภาแห่งนี้ เพราะฉะนั้น ผมเรียนท่านประธานว่าผมไม่เห็นด้วย” นายจุลพันธ์ กล่าว
ด้านนายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า พรรคเพื่อไทยเป็นคนช้ำประจำซอย คนไม่ใช่ทำอะไรก็ผิด เคยโหวตให้นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ในปี 2562 เคยโหวตให้นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ในปี 2566
จังหวะนี้ นายภราดร ปริศนานันทกุล สส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย ประท้วงว่า ตอนนี้อยู่ในญัตติว่าจะให้เลื่อนหรือไม่ ท่านย้อนไปเมื่อปี 2562 เจ็บใจเพื่อน แต่นายอนุสรณ์ ตอบโต้ว่าตนชิลมาก ก่อนอภิปรายต่อว่า เราเคยโหวตให้แท้ๆ แต่ไม่เป็นไร ชีวิตต้องเดินต่อไป คนที่แพ้ต้องดูแลตัวเอง พรรคเพื่อไทยเสนอโปรโมชันสุดท้าย เขาก็ไม่เชื่อ บอกยุบทันทีเขาไม่เชื่อ ทั้งที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี ยื่นไปแล้วแท้ๆ แต่มันยุบไม่ได้ ก็น่าจะทำให้เห็นแล้ว
“การเมืองยุคใหม่ ยืนหลังตรงต่อหน้าประชาชน ต้องมีอยู่จริง วันนี้เวลายืนข้างเรา แต่สิ่งเหล่านั้นยังเหลืออยู่หรือไม่ หรือแท้จริงแล้ว จะมีดีลปีศาจ หรือ โปรโมชัน 4 เดือน 4 ช่วยคน 44 คน ส่งคนในโควตาคนนอกแต่พรรคพวกตัวเอง อันนี้ผมสงสัย” นายอนุสรณ์ กล่าว
นายอนุสรณ์ ถามว่า จะดีกว่านี้ไหม หากโหวตวันพุธหน้า เอามวยลุมพินี อย่าเอาวิกอ้อมน้อย หรือมวยรังสิต เพราะจะกลายเป็นมีนายกมาในวาระพิเศษ เอานายกในวาระมาตรฐาน
Advertisement
