นายสรรเพชญ บุญญามณี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดสงขลา นายสมยศ พลายด้วง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดสงขลาและนายราชิต สุดพุ่ม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดนครศรีธรรมราช ออกถ้อยแถลงชี้แจงสื่อมวลชน ในการสนับสนุนการจัดตั้งรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล เป็นนายกรัฐมนตรี ว่า ตามที่ปรากฏว่าพวกกระผมได้สนับสนุนข้อตกลงร่วมระหว่างพรรคประชาชนกับพรรคภูมิใจไทย ในการเสนอชื่อบุคคลไปดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เพื่อทำหน้าที่บริหารราชการแผ่นดินในช่วงเปลี่ยนผ่าน แก้ไขปัญหาเร่งด่วนเฉพาะหน้า จัดทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ และยุบสภาผู้แทนราษฎรนั้น
พวกกระผมขอชี้แจงเหตุผลและเจตนารมณ์ใน 4 ประเด็นสำคัญ ดังนี้ ประการแรก พวกกระผมทั้ง 3 คนเห็นว่า ปัญหาความไม่ชอบธรรมของรัฐบาลภายใต้การนำของพรรคเพื่อไทย ปรากฏชัดเจนที่สุดในกรณีของ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีคนล่าสุด ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยว่ามีการกระทำอันเป็นการฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง โดยเฉพาะ กรณีคลิปเสียง ที่เผยแพร่ต่อสาธารณะ จนบั่นทอนความเชื่อมันของสังคมอย่างกว้างขวาง กรณีดังกล่าวไม่เพียงชี้ให้เห็นถึงการขาดคุณสมบัติและความชื่อสัตย์สุจริตที่ผู้นำควรมี หากยังทำให้รัฐบาลสูญเสียความชอบธรรมในการบริหารประเทศ และทำลายศักดิ์ศรีของประเทศโดยรวม
นอกจากนี้ การบริหารประเทศภายใต้พรรคเพื่อไทยยังไม่สามารถตอบสนองต่อความท้าทายทางเศรษฐกิจและสังคมได้อย่างเป็นรูปธรรม ขาดความมุ่งมั่นจริงใจในการแก้ไขปัญหาเชิงโครงสร้างที่ประชาชนเผชิญอยู่ในชีวิตประจำวันประการที่สอง การที่พวกกระผมลงนามสนับสนุนให้นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยเป็นนายกรัฐมนตรีนั้น เป็นการตัดสินใจใจในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พร้อมกันทั้ง 3 คน คือนายสรรเพชญบุญญามณี สส.สงขลา นายสมยศ พลายด้วง สส.สงขลา และนายราชิต สุดพุ่ม สส.นครศรีธรรมราช
นอกจากนี้ที่สำคัญคือพรรคภูมิใจไทยก็เคยร่วมสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ ในการจัดตั้งรัฐบาล ในช่วงปี 2551 - 2554 จนสามารถสร้างเสถียรภาพได้อย่างเป็นรูปธรรม ตรงกันข้ามพรรคเพื่อไทยในห้วงเวลานั้นกลับเลือกที่จะล้มรัฐบาลและผลักประเทศเข้าสู่วิกฤติการณ์ทางการเมืองครั้งใหญ่
ประการที่สาม พวกกระผมเห็นด้วยกับ 5 เงื่อนไขร่วมที่ทั้งสองพรรควางไว้เพื่อ "ผ่าทางตันประเทศ"ทั้งการยุบสภาเพื่อคืนอำนาจให้ประชาชนโดยเร็วที่สุด การจัดทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เพื่อให้ได้รัฐธรรมนูญที่สอดคล้องกับความต้องการของประชาชนมากที่สุด และการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าที่กระทบชีวิตประชาชน ทั้งปัญหาเศรษฐกิจปากท้อง และปัญหาสถานการณ์มั่นคงชายแดน
ประการสุดท้าย การสนับสนุนของพวกกระผมในครั้งนี้ มิได้มีเจตนาเพื่อแลกเปลี่ยนตำแหน่งทางการเมืองในรัฐบาลที่จะเกิดขึ้น หากแต่เป็นการใช้เอกสิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 114 ที่บัญญัติไว้ว่า "สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรย่อมเป็นผู้แทนปวงชนชาวไทย ไม่อยในความผูกมัดแห่งอาณัติมอบหมาย หรือความครอบงำได ๆ.."
เพื่อยืนยันว่าเสียงของของพวกกระผม คือเสียงที่ประชาชนมอบให้
จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบด้วยความเคารพ
1. นายสรรเพชญ บุญญามณี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดสงขลา
2. นายสมยศ พลายด้วง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดสงขลา
3. นายราชิต สุดพุ่ม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดนครศรีธรรมราช
Advertisement