(3 ก.ย. 2568) ที่ทำรัฐบาล เมื่อเวลา 10.30 น. นายภูมิธรรม เวชยชัย ในฐานะรักษาการนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงกระแสการทูลเกล้าฯ ยุบสภาของพรรคเพื่อไทยว่า ขณะนี้สถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้น ตนมองว่าระบบประชาธิปไตยมันบิดเบี้ยว มันไม่เป็นทำนองที่ควรกระทำ การตัดสินใจของพรรคภูมิใจไทย พรรคประชาชนที่ตัดสินใจ ว่าจะยอมร่วมกันจัดตั้งรัฐบาล โดยได้ยินการประกาศว่าทำพระประชาชนโหวตให้แต่ไม่ร่วมเป็นรัฐบาล ซึ่งอันนี้อย่างไรการเมืองก็เป็นสามกลุ่มเดิม และพรรคประชาชนกับพรรคเพื่อไทยทำหน้าที่ฝ่ายค้าน เมื่อพรรคเพื่อไทยทำหน้าที่ฝ่ายค้านภูมิใจไทยเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย ส่วนพรรคประชาชนก็มี 2 หมวกในตัวเอง คือเป็นทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล ซึ่งที่ผ่านมามันก็ไม่เคยมีสิ่งนี้มาก่อน โดยบรรยากาศทางการเมืองที่เป็นอยู่มีการดึงซื้อ สส. หรือดึงสส.ต่างๆ ซึ่งมันก็สับสน อลหม่าน ในสถานการณ์ที่เราดูอยู่ขณะนี้และเศรษฐกิจต่างๆ ที่มันมีปัญหา
โดยเห็นว่าสิ่งที่สำคัญวันนี้ ถ้าเราไม่สามารถดึงความเชื่อมั่น กลับเข้ามาสู่ประเทศได้ มันก็ยิ่งทำให้ปัญหา เศรษฐกิจมันยิ่งถูกกระทบและถูกรุมเร้า ซึ่งปัญหาทั้งหมดแบบนี้อย่างที่ได้คุยกัน ฝ่ายกฎหมาย ก็คิดว่า มันควรจะคืนอำนาจให้ประชาชน ไปตัดสินใจแต่ว่าเรื่องนี้ เป็นเรื่องของพระราชอำนาจ เพราะฉะนั้นไม่มีใครที่มีสิทธิ์ไปตัดสินใจได้ เพราะอยู่ที่พระบรมราชวินิจฉัย ในสถานการณ์ต่างๆ
"ส่วนตัวในฐานะปฎิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี ได้พิจารณา รวบรวมความคิดเห็นต่างๆนี้ อยู่ชัดเจน ก็คิดว่า จะต้องมีการกราบบังคมทูล ถวายสถานการณ์ต่างๆ ให้พระองค์ทราบและคิดว่า มันจะได้แก้ไขปัญหานี้ผม เลยตัดสินใจที่จะยื่น ทูลเกล้าฯ ไปตั้งแต่เมื่อวานแล้ว ก็ต้องรอเป็นกระบวนการตามประชาธิปไตย ตามกระบวนการตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งถ้าเป็นอย่างนี้ พรรคภูมิใจไทยและ พรรคประชาชน ก็ต้องไปพิจารณา"
เมื่อถามว่า ไม่กังวลข้อกฎหมายใดๆ ใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม ระบุว่าไม่ใช่ ยื่นไปตามกระบวนการทางรัฐธรรมนูญ และกฎหมาย ก็อยู่ที่ดุลยพินิจ
เมื่อถามอีกว่า ในระหว่างทูลเกล้าฯ ยุบสภา ไปแล้ว จะสามารถเสนอเปิดสภาเพื่อเลือกนายกฯได้เลยหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า อยู่ที่เขาจะพิจารณากันเอง แต่ตนได้ยื่นทูลเกล้าฯ ไปตั้งแต่เมื่อวานนี้แล้ว
หลังจากนั้น นายภูมิธรรม ได้ขึ้นตึกบัญชาการไป โดยไม่ได้ตอบคำถามที่ผู้สื่อข่าวพยามสอบถามการยุบสภาคือทางออกของสถานการณ์การเมืองไทยตอนนี้ใช่หรือไม่
Advertisement