วันที่ 2 ก.ย. 68 พ.อ.ริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษกกองทัพบก กล่าวว่า กองทัพบกยังคงปฏิบัติภารกิจลงพื้นที่ตรวจสอบ และเก็บหลักฐานจากเหตุการณ์การสู้รบที่เกิดขึ้นบริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา ต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 ร่วมกับสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม หลังจากสถานการณ์การปะทะชายแดนคลี่คลายลง และหน่วย EOD ของทหารและตำรวจได้เข้าเคลียร์พื้นที่จนปลอดภัยแล้ว
โดยเมื่อวานนี้ (1 ก.ย. 68) ได้ดำเนินการเก็บหลักฐานในพื้นที่ปราสาทตาเมือนธม และวัดไทยนิยมพัฒนาราม ตำบลบักได อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งจุดที่เข้าตรวจสอบความเสียหายมีดังนี้
1. พื้นที่ปราสาทตาเมือนธม จำนวน 4 จุด ได้แก่ ด้านนอกปราสาทด้านทิศตะวันออก, ซุ้มประตูด้านทิศตะวันออก, ลานหน้าปราสาทบริวารด้านทิศตะวันตก และปราสาทบริวารด้านทิศตะวันตก
2. พื้นที่วัดไทยนิยมพัฒนาราม จำนวน 3 จุด ได้แก่ อาคารกุฏิของวัด (2 จุด) และบริเวณต้นไม้ใกล้ศาลา
พ.อ.ริชฌา กล่าวต่อว่า สำหรับการปฏิบัติภารกิจร่วมกันครั้งนี้ กองทัพบกได้รับการสนับสนุนจากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ซึ่งเป็นหน่วยงานกลางที่ได้รับการรับรองมาตรฐานสากลหลายฉบับ ทั้ง ISO 9001, ISO/IEC 17020 และ ISO/IEC 17025 มาใช้ในกระบวนการเก็บและวิเคราะห์พยานหลักฐาน เพื่อให้ข้อมูลที่ได้มีความน่าเชื่อถือสูงสุด โดยทีมผู้เชี่ยวชาญได้ทำการวิเคราะห์วิถีการยิงและเก็บวัตถุพยานอย่างละเอียด
ทั้งนี้การโจมตีต่อโบราณสถานและสถานที่ทางศาสนาดังกล่าวถือเป็นการละเมิดกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง ซึ่งผลตรวจพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์เหล่านี้จะถูกส่งมอบให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อใช้ดำเนินการในเวทีระหว่างประเทศ เช่น การยื่นเรื่องต่อองค์กรเฉพาะทางอย่างยูเนสโก (UNESCO) เพื่อปกป้องมรดกทางวัฒนธรรม, การแสวงหาความยุติธรรมผ่านกระบวนการยุติธรรมระหว่างประเทศ ไปจนถึงการใช้ช่องทางการทูตต่อไป
Advertisement