คณะ IOT จาก 8 ประเทศ ดูการเก็บกู้ - ทำลายระเบิด

คณะ IOT จาก 8 ประเทศ ดูการเก็บกู้ - ทำลายระเบิด กองทัพงัดหลักฐานเปรียบเทียบทุ่นระเบิดเก่า - ใหม่ พร้อมระบุพิกัดกัมพูชาลอบฝังในเขตแดนไทย

คณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว หรือ IOT 8 ประเทศ ได้เดินทางไปดูการปฏิบัติงานของหน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดด้านมนุษยธรรม ในการทำลายวัตถุระเบิด ที่มาตกในสวนยางพารา บ้านโนนมะยาง ตำบลตาเมียง อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์

โดยเจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิด ได้ชี้แจงต่อคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว หรือ IOT ว่า ที่ผ่านมาการปฏิบัติงานในเรื่องของการเก็บกู้ระเบิดไม่มีปัญหาอะไร มีเพียงเรื่องเดียว คือ การทักท้วงจากกัมพูชา ส่วนสถานการณ์ชายแดนไทย - กัมพูชา ใน 4 จังหวัดที่ผ่านมา คือ บุรีรัมย์ , ศรีสะเกษ , และสุรินทร์ มีคนเหยียบกับระเบิด รวมกว่า 100 คน มากที่สุดคือที่อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกด จำนวน 32 คน

นอกจากนี้เจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิด ยังได้เปิดคลิปอธิบายการกู้ระเบิด จาก 5 เหตุการณ์ที่มีทหารไทยได้รับบาดเจ็บ แล้วหลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดฯ ได้ไปเก็บกู้ระเบิดให้ โดยจุดแรกและจุดที่ 2 อยู่ในพื้นที่ช่องบก - ช่องอานม้า เป็นการรื้อถอน PMN2 หลังเกิดเหตุทหารไทยเหยียบกับระเบิด ซึ่งพบว่า เป็นการวางระเบิดดักในเส้นทางลาดตระเวน ที่ทหารไทยใช้เป็นประจำทุกวัน

ส่วนจุดที่เหลืออยู่ในพื้นที่ปราสาทตาควาย และใกล้เคียง ซึ่งจากการพิสูจน์ทราบทุ่นระเบิด ที่พบในแต่ละจุดเป็นทุ่นระเบิดใหม่ชัดเจน สังเกตได้จากตัวทุ่น

ขณะที่ลักษณะการวางทุ่นระเบิด ก็จะวางชิดผิวดิน และจะวางห่างประมาณ 40 เซ็นติเมตร มุ่งหมายให้รับอันตรายถึงชีวิต

ด้านพลตรีวินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ตอบคำถามสื่อมวลชนสำนักข่าวต่างประเทศ ที่ถามถึงประเทศผู้ผลิตทุ่นระเบิดดังกล่าว ซึ่ง พลตรีวินธัย คาดว่า ผลิตมาจากกลุ่มสหภาพโซเวียต แต่จากการผลิตช่วงปี 89 และที่ทหารกัมพูชาอ้างว่าทหารไทยเดินเข้าไปเหยียบระเบิดเองในพื้นที่ของฝั่งกัมพูชานั้น พลตรีวินธัย ยืนยันว่า จีพีเอสระบุพิกัดชัดว่า บริเวณตรงนั้นเป็นพื้นที่ของไทย และที่ช่องอานม้าเข้ามาที่แนวชายแดนลึกถึง 1 กิโลเมตร

พันเอกสมโชค จันทาสี ผู้บังคับหน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดด้านมนุษยธรรมที่ 3 เปิดเผยว่า ภารกิจของ TMAC ในการเก็บกู้ทุ่นระเบิด ตั้งแต่ปี 43 และเพิ่งหยุดปฏิบัติภารกิจตอนที่สู้รบกัน โดยเก็บกู้ได้ทั้งหมดประมาณ 4 หมื่น 9 พันกว่าลูก ซึ่งเป็นที่ชัดเจนว่า ทุ่นไหนเก่า ทุ่นไหนใหม่ โดยสังเกตได้จากรอยดิน รอยสนิม ที่แทบไม่เห็นเลขซีรีย์ของระเบิด แตกต่างจากทุ่นระเบิด PMN2 ที่เพิ่งเก็บกู้ได้ในช่วงที่มีการปะทะกัน และระเบิดดังกล่าวถูกฝังอยู่ในพี่นที่ไทย ตามเส้นทางการลาดตระเวนของทหารไทยที่ตระเวนประจำอยู่แล้ว ในลักษณะการหวังผลเพื่อสังหาร เพราะมีการวางทุ่นระเบิดเป็นกลุ่ม เว้นระยะห่างเพียงแค่ 40 เซนติเมตร และบางจุดหวังผลให้บาดเจ็บ โดยวางทุ่นระเบิดห่างประมาณ 1 เมตร ซึ่งการนำระเบิดทั้งแบบเก่า และใหม่ที่มาแสดงให้คณะฯ ดู ก็เพื่อแสดงข้อเท็จจริงให้เห็นว่าทางฝั่งกัมพูชามีการละเมิดข้อตกลง

คอนเทนต์แนะนำ

"กลิ่นตัว" บ่งบอกสุขภาพได้ กลิ่นตัวแบบไหน บอกโรคที่ซ่อนอยู่ ?

ชักหลังแอ่น อาการป่วยสุดหลอนจากพิษบาดทะยักเข้าไขสันหลัง

ตามคาด! "ตู้เย็น" ประกาศขอถอนตัวร่วมตบวอลเลย์บอลหญิงชิงแชมป์โลกที่ไทย