กองทัพภาคที่1 แจงชัด!ปฏิบัติการชายแดนสระแก้ว ยึดหลักกฎหมายมนุษยธรรม–มุ่งปกป้องอธิปไตยไม่เกี่ยวข้องผลประโยชน์เศรษฐกิจ
วันที่16สิงหาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงาน กองทัพภาคที่1 ชี้ แจงกรณีมีกระแสข่าวในโลกออนไลน์ ที่ตั้งข้อสงสัยว่าทำไมการปฏิบัติการชายแดนไทย–กัมพูชา ในช่วงวันที่24–28กรกฎาคม ที่ผ่านมา ไม่ได้ใช้กำลังโจมตีเป้าหมายทางเศรษฐกิจขนาดใหญ่ เช่นบ่อนกาสิโนหรือแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ฝั่งปอยเปต พร้อมยืนยันการดำเนินการของฝ่ายไทย ยึดตามกฎการปะทะและหลักกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ โดยเน้นปกป้องอธิปไตยและความปลอดภัยของประชาชนเป็นสำคัญ
กองทัพบก ได้กำหนดพื้นที่ปฏิบัติการหลัก และรองอย่างชัดเจน โดยกองทัพภาคที่2 รับผิดชอบพื้นที่หลัก ส่วนกองทัพภาคที่ 1และกองกำลังจันทบุรี–ตราด ของกองทัพเรือ เป็นพื้นที่ปฏิบัติการรอง ซึ่งการใช้กำลังทุกขั้นตอนเป็นไปตามสายการบังคับบัญชา และความเร่งด่วนในสถานการณ์
สำหรับกองทัพภาคที่1 ซึ่งรับผิดชอบพื้นที่ชายแดนจังหวัดสระแก้ว ได้วางแผนและเตรียมการรอบคอบเป็นพิเศษ เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวมีความหนาแน่นของชุมชน ทั้งสองประเทศแตกต่างจากพื้นที่ปฏิบัติการของกองทัพภาคที่2 ดังนั้นการปฏิบัติของกองทัพภาคที่1 จึงมุ่งเน้นโจมตีเฉพาะสิ่งปลูกสร้าง ทางทหารที่รุกล้ำเข้ามาในเขตอธิปไตยไทยเท่านั้น ไม่มุ่งเป้าไปที่เป้าหมายพลเรือนหรือกิจการเศรษฐกิจ
การดำเนินงานดังกล่าวเป็นไปตามRulesofEngagement(ROE) และสอดคล้องกับกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ (InternationalHumanitarianLaw–IHL)เพื่อลดผลกระทบต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนซึ่งสะท้อนถึงความชอบธรรมของฝ่ายไทยในการปกป้องอธิปไตย และยังเป็นการแสดงออกถึงความพยายามแก้ไขปัญหาอย่างเป็นระบบ ไม่ใช่เพียงการใช้กำลังทางทหารเพียงมิติเดียว
กองทัพภาคที่1 ยังได้เสนอแผนแก้ไขปัญหาพื้นที่ ที่มีชาวกัมพูชาอาศัยอยู่ร่วมกับหน่วยงานและองค์กรนานาชาติ เพื่อสนับสนุนการแก้ไขปัญหาแบบองค์รวม(ComprehensiveSolution)ลดช่องว่างไม่ให้ฝ่ายตรงข้ามนำไปบิดเบือนบนเวทีระหว่างประเทศขณะที่การปิด–เปิดด่านพรมแดนยังคงเป็นอำนาจสั่งการของรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยตรง
ทั้งนี้เป้าหมายสูงสุดของกองทัพคือการรักษาอธิปไตยบูรณภาพแห่งดินแดนและผลประโยชน์ของชาติโดยเฉพาะความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของ
Advertisement