(10 ส.ค. 2568) นายนพดล ปัทมะ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกล่าวว่า แม้ผลการเจรจาจีบีซีจะมีทิศทางที่ดีซึ่งเป็นจุดเริ่มต้น แต่คงต้องติดตามว่ากัมพูชา จะทำตามที่ตกลงครบถ้วนหรือไม่ ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องที่น่ายินดีที่มีคณะผู้สังเกตการณ์และตรวจสอบการปฎิบัติตามเงื่อนไขโดยทางฝ่ายมาเลเซีย จะได้รู้ว่าใครทำตามข้อตกลงจีบีซีหรือไม่
อย่างไรก็ตาม ตนเห็นว่า ควรมีการประชุมในระดับพื้นที่หรือระดับแม่ทัพภาค (RBC) เพื่อลงในรายละเอียดต่อไปแต่หมุดหมายที่สำคัญคือการประชุมเจบีซี (JBC) หรือ คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมเพราะ ถ้าไม่ปักปันเขตแดนและทำหลักเขตแดนให้ชัดเจน ในอนาคตก็จะมีข้อพิพาทด้านเขตแดนเกิดขึ้นอีก ซึ่งตนคิดว่าการทำงานของคณะกรรมการร่วมทางเทคนิคภายใต้การประชุม JBC ตามกรอบเอ็มโอยู 2543 จะช่วยให้มีความชัดเจนเรื่องเขตแดน และช่วยให้ไม่มีปัญหากระทบกระทั่งเรื่องการอ้างสิทธิ์ในดินแดนของแต่ละฝ่ายในอนาคตได้ แต่เป็นที่น่าเสียดายว่า 25 ปีที่ผ่านมา มีการประชุม JBC ไปน้อยมากเพียงแค่ 10 กว่าครั้ง ซึ่งควรจะต้องมีการประชุมต่อเนื่องและบ่อยมากขึ้น เมื่อทำหลักเขตแดนชัดเจนแล้วก็จะเป็นการแก้ไขปัญหาในระยะยาวและยั่งยืนมากยิ่งขึ้นด้วย
นายนพดล กล่าวต่อว่า จากการสำรวจความเห็นของพี่น้องประชาชนล่าสุด ประชาชนเกือบ 50% สนับสนุนให้มีการเจรจาระงับข้อพิพาทระหว่างไทยกัมพูชาอย่างจริงจัง ซึ่งยืนยันสิ่งซึ่งตนเคยพูดมาต่อเนื่องว่าสงคราม สุดท้ายก็จบด้วยการเจรจาและการสร้างสันติสุขที่ยั่งยืนระหว่างประเทศเพื่อนบ้านนั้นเป็นสิ่งซึ่งประชาชนต้องการ ดังนั้นการระงับข้อพิพาท ทางการทูตจึงเป็นทางออกในความขัดแย้งหลายกรณีทั่วโลก จึงขอเอาใจช่วยรัฐบาลในการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาในเรื่องนี้ต่อไปด้วยการปกป้องอธิปไตยและแก้ปัญหาทางการทูตต่อไป
Advertisement