(4 ส.ค. 2568) พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย - กัมพูชา หรือ GBC ที่ประเทศมาเลเซีย ระหว่างวันที่ 4 - 7 ส.ค. นี้ ว่า ประเด็นที่จะพูดคุยกันได้ผ่านการเห็นชอบจากสภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช. แล้ว โดยวันที่ 2 ส.ค. ที่ผ่านมา ฝ่ายมาเลเซีย ติดต่อเข้ามาขอประชุม 3 ฝ่าย ประกอบด้วย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของทั้ง 3 ประเทศ ซึ่งเป็นการพูดคุยที่ยังไม่ลงประเด็น โดยไทยตอบแค่เรื่องหลักการ ไม่คุยเรื่องประเด็น และเมื่อวานนี้ (3 ส.ค.) พูดคุยกับเหล่าทัพ ว่า มีเรื่องอะไรรับได้หรือไม่ มีเรื่องใดพอใจหรือไม่ ซึ่งเหล่าทัพมีความพอใจ และเวลานี้อยู่ระหว่างการประชุม GBC โดยได้กำชับทีมฝ่ายเลขาไป ว่า ให้ประชุมวันที่ 6 ส.ค. เพียงครึ่งวันเท่านั้น และให้รีบส่งประเด็นกลับมา เพื่อมาเข้าที่ประชุม สมช. จากนั้นวันที่ 7 ส.ค. นี้ ตนเองจะเดินทางไปร่วมสรุป และลงนาม เพื่อให้ทุกอย่างรอบคอบ
สำหรับกรอบการเจรจาของไทยได้วางเป้าหมายไว้ ว่า อยากให้ออกมาในทิศทางที่มีบรรยากาศที่ดีขึ้น ประเทศไทยไม่เสียประโยชน์ ซึ่งตรงนี้คือหลักการ โดยขอให้ประชาชน และสื่อมวลชน มั่นใจได้เลย ว่า ตัวแทนฝ่ายไทยจะทำหน้าที่อย่างเต็มขีดความสามารถ ซึ่งคณะที่ไปประกอบไปด้วย ผู้แทนจากกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงมหาดไทย และเหล่าทัพ ดังนั้น การประชุมครั้งนี้จะผ่านการพิจารณาอย่างรอบด้าน ทุกฝ่ายไม่ต้องกังวล โดยเฉพาะฝ่ายความมั่นคง เพราะมีตัวแทนจากเหล่าทัพเข้าร่วมประชุม ซึ่งก่อนไปประชุม ได้นำเรื่องเข้าที่ประชุม สมช. ความเห็นชอบ และก่อนเข้าประชุม GBC รอบสุดท้าย กลับมาขอความเห็นชอบจาก สมช. ยืนยัน ฝ่ายไทยไม่ได้ทำอะไรโดยพลการ ขอให้มั่นใจ และเชื่อมั่นในคณะของตนเอง แม้จะไม่มั่นใจในตัวตนเอง แต่ขอให้มั่นใจในคณะที่ไป เพราะบุคคลที่ไปเต็มไปด้วย ผู้ที่มีความรู้ความสามารถ มีความรับผิดชอบ รักชาติ และเห็นแก่ผลประโยชน์ของบ้าน
ส่วนสถานการณ์หลังเสร็จสิ้นการประชุม GBC มีอะไรน่ากังวลหรือไม่ พลเอกณัฐพล กล่าวว่า ถ้าฝ่ายกัมพูชาเคารพผลการประชุม ก็ไม่มีความน่ากังวล แต่ยอมรับว่า ประสบการณ์การรับราชการของตนเอง เพิ่งเคยเจอคู่กรณีที่มีความยากมาก เพราะชอบพูดอย่าง ทำอย่าง ซึ่งไม่ใช่นิสัยของตน หากสื่อมวลชนจะตำหนิเรื่องนี้กับตนเองก็ขอยอมรับ เพราะคิดไม่ทันจริงๆ ว่า เมื่อเวลาเชาพูดมาเช่นนี้แล้วจะทำอย่างไรต่อ ซึ่งเป็นงานที่ตนเองไม่ถนัด
พล.อ.ณัฐพล กล่าวต่อว่า ตนเองจะมองในแง่ของหลักการที่เป็นไปตามกฎหมาย เมื่อมีการตกลงการประชุม GBC แล้วไม่ใช่ว่าจะจบทุกเรื่อง แต่จะไปเป็นทีละขั้นตอน ซึ่งต้องประเมินท่าทีของฝ่ายกัมพูชาด้วย ว่า มีความจริงใจที่จะไปสู่สันติหรือไม่ ซึ่งเรามีความกังวล และการประชุม GBC ต้องค่อยๆ ทำ และส่วนใหญ่ส่งมอบให้การประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค หรือ RBC ไปพูดคุยต่อ เพื่อให้ฝ่ายความมั่นคงสบายใจ พร้อมยืนยันว่า ไม่ใช่การโยนภาระให้ทหาร เพราะกองทัพจะรู้ดีที่สุด และจะตัดสินใจได้ เช่น เรื่องการวางกำลัง การเติมกำลัง หรือ การปฏิบัติการการยั่วยุ กองทัพจะรู้ดีที่สุด เพราะอยู่ด่านหน้า เพราะหาก GBC ตัดสินใจอะไรไป กองทัพอาจจะไม่สบายใจได้ ซึ่งเป็นการแบ่งมอบการรับผิดชอบ ไม่ใช่การโยนความรับผิดชอบ แม้คำพูดจะคล้ายกัน แต่ความหมายแตกต่างกันเยอะ
Advertisement