Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
"มาริษ" ส่งหนังสือประท้วง "อาเซียน-สหรัฐ-จีน-ยูเอ็น"ยันเขมรยิงอีกรอบ

"มาริษ" ส่งหนังสือประท้วง "อาเซียน-สหรัฐ-จีน-ยูเอ็น"ยันเขมรยิงอีกรอบ

29 ก.ค. 68
15:52 น.
แชร์

"มาริษ" ส่งหนังสือประท้วง "อาเซียน-สหรัฐ-จีน-ยูเอ็น” ครบถ้วน บอกต่อสายเพื่อนสนิทขอร่อนเอกสาร ยัน “กัมพูชา” ไม่จบ ยิงอีกรอบหลังจบเจรจา

วันที่ 29 ก.ค. ที่กระทรวงการต่างประเทศ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศแถลงข่าวสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยใช้เวลากว่า 30 นาที ว่า วันนี้ขอมาเล่าในประเด็นเล็กๆน้อยๆ ของการประชุมเมื่อวานนี้กับกัมพูชา ซึ่งหลังเกิดเหตุการณ์ปะทะกัน กระทรวงการต่างประเทศได้ประท้วงหลายกรอบความร่วมมือ ไม่ว่าจะเป็นอนุสัญญาออตตาวา ,กฎหมายระหว่างประเทศ , การใช้ทุ่นระเบิดและการโจมตีพื้นที่ที่เป็นพื้นที่ของประชาชน ซึ่งที่นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ตนได้เข้าไปในคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาริ (UNSC) ได้พบผู้แทนระดับสูงของ UN และหลายประเทศ หารือในเรื่องที่เราดำเนินการแก้ไขทุกอย่างด้วยสันติวิธี และใช้ความอดทนอดกลั้นทั้งหมด ถึงแม้จะอดกลั้น

แต่เราก็ยึดถือหลักสำคัญที่สุด คืออำนาจอธิปไตยและความปลอดภัยของประชาชนเป็นสำคัญ เป็นอันดับหนึ่ง ขณะเดียวกัน เราก็ให้ความสำคัญกับเรื่องกฎหมายระหว่างประเทศกฎหมาย , กฎบัตรสหประชาชาติ , กฎหมายอาเซียน , ความตกลงและความเป็นครอบครัวอาเซียนทุกประเทศ รวมทั้งประเทศไทยกับประเทศกัมพูชา ซึ่งก็พยายามใช้ความอดทนอดกลั้นพยายามไม่ให้สถานการณ์บานปลาย แต่อย่างไรก็ตาม เราถูกละเมิดอธิปไตย เราก็ต้องใช้สิทธิ์ตอบโต้ในสิ่งที่ประเทศไทยถูกละเมิดมาโดยตลอด

“ผมขอเรียนว่าช่วงที่ผ่านมาที่ไป UN ทุกท่านคงทราบว่าภาพพจน์ของประเทศไทยในเวทีการเมืองระหว่างประเทศนี้ ที่ทุกประเทศชื่นชมในบทบาทของประเทศไทย ที่ต้องการจะแก้ปัญหาด้วยสันติวิธี ทุกท่านคงจำได้ ว่าเราเริ่มในการผลักดันการเจรจาทวิภาคีภายใต้กลไกที่เรามีอยู่มาโดยตลอด ทั้ง JBC , RBC และ GBC แต่ก็ไม่เป็นผล เพราะฉะนั้น ภาพของประเทศไทยในช่วงที่ผมเดินทางไป เป็นภาพพจน์ที่ดี หลายประเทศชื่นชม ผมไปพบเลขาธิการสหประชาชาติ ประธาน UNSC ท่านสนับสนุนแนวทางการแก้ไขปัญหาของประเทศไทยผ่านกลไกทวิภาคีโดยสันติวิธีและอย่างสุจริตใจ ซึ่งทำให้ภาพพจน์เราเป็นภาพพจน์ที่ดี ซึ่งหลังจากที่กัมพูชาพยายามนำเรื่องเข้าไป ก็ไม่ได้รับการตอบรับคือรับพิจารณาและมีการดีเบตกัน แต่ยุติ” นายมาริษ กล่าว

นายมาริษ กล่าวต่อว่า ภาพพจน์ของนานาประเทศที่ให้กับเรา ทำให้เราได้ประสบความสำเร็จในสิ่งที่เราต้องการ คือความเป็นประเทศรักสงบ แต่ไม่ยินยอมให้มีการละเมิดอำนาจอธิปไตย ถือเป็นการกระทำมากกว่าคำพูด เราได้รับการยอมรับเป็นอย่างมาก เพราะฉะนั้น ในช่วงที่เราไปเมื่อวานนี้ เราได้ยึดถือสิ่งต่างๆเหล่านี้เป็นหลัก ในขณะเดียวกันในการเจรจาทุกเรื่อง เราได้หารือโดยตรงกับกองทัพมาโดยตลอด

โดยมีพลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม เราได้ติดต่อกันมาโดยตลอด การที่เราได้ข้อสรุปในเรื่องการหยุดยิง ถือเป็นความพยายามของประเทศไทยที่ต้องการลดความสูญเสีย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒธรรม และนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ก็พยายามที่จะแก้ไขปัญหาโดยสันติวิธี สิ่งที่สำคัญที่สุดคือรักษาไม่ให้เกิดความสูญเสียมากไปกว่านี้

“ที่ทุกคนเป็นห่วง ไม่ต้องเป็นห่วงครับ เราปกป้องอำนาจอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนเต็มที่อยู่แล้ว เราติดต่อกองทัพอยู่ตลอดเวลา เพื่อพิจารณาว่าตรงไหนเป็นอย่างไร รับได้แค่ไหน เพราะฉะนั้น ผลสำคัญที่ออกมาจากการประชุมเมื่อวานนี้เป็นสิ่งที่ดี“ นายมาริษ กล่าว

นายมาริษ ย้ำว่า เราสามารถลดความตึงเครียด หยุดความกระทบกระทั่งกันและนำมาสู่ขั้นตอนการเจรจา ซึ่งสามารถดึงให้ประเทศอาเซียน สหรัฐอเมริกาและจีน ให้เห็นถึงความสำคัญและทำให้กัมพูชาได้ยืนยันว่าประเทศไทยสามารถที่จะดึงเขากลับมาสู่ต้องเจรจาในกลไกที่เรามีอยู่ทั้ง 3 กลไก

ท้ายที่สุดนโยบายที่เราพยายามคือการเจรจาทวิภาคี ตนถูกตั้งคำถามมาทั้งต้นว่าเขาจะไม่มาเจรจา ดังนั้น เป็นความพยายามที่เราต้องกดดันผ่านกรอบความร่วมมือ ไม่ว่าจะเป็นองค์การระหว่างประเทศ องค์การนานาชาติ ประเทศพันธมิตรหรือประเทศที่เป็นมหาอำนาจ รวมทั้งประเทศที่เป็นสมาชิก UNSC และเมื่อเกิดกรณีกระทบกระทั่งก็เป็นแรงกดดัน ที่ท้ายที่สุดไม่มีอะไรดีไปกว่าการเจรจาทวิภาคี ตนถือว่าเราประสบความสำเร็จที่จะดึงเขากลับมานั่งเจรจาทวิภาคีแล้วภายใต้การสังเกตการณ์ของมหาอำนาจ

นายมาริษ เปิดเผยด้วยว่า เมื่อเช้านี้ ก่อนทำหนังสือประท้วง ตนได้โทรศัพท์คุยกับรัฐมนตรีว่าการต่างประเทศมาเลเซีย ซึ่งเป็นเพื่อนสนิท ได้อธิบายให้เขาฟังว่ามีการกระทบกระทั่งกัน ตนมีความจำเป็นจะต้องทำการประท้วงไปที่ประธานอาเซียน ในฐานะที่เป็นเจ้าภาพและพยาน

“ผมอธิบายให้เขาฟังและส่งหนังสือเป็นทางการไปเรียบร้อยแล้ว รวมทั้งได้สั่งการว่าจะต้องทำหนังสือให้พยานอีกสองประเทศ คือสหรัฐและจีน ให้ได้ตระหนักถึงการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงของไทยและกัมพูชา เมื่อเช้านี้ทางกระทรวงการต่างประเทศ ก็ได้ประสานงานไปที่ออฟฟิศของนายกอันวาร์ ได้มีการพูดคุยกันระหว่างนายกอันวาร์และนายภูมิธรรมเมื่อเช้านี้เรียบร้อยแล้ว โดยได้เล่าให้ฟังถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และเล่าถึงความพยายามของเราที่จะประท้วง เนื่องจากมีการละเมิด ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสม เพราะประธานาธิบดีอินโดนีเซียอยู่ด้วยพอดี ผมเองได้พูดกับท่านโดยตรง ซึ่งท่านก็เข้าใจ” นายมาริษ กล่าว

นายมาริษ ระบุว่า รัฐบาลได้ออกแถลงการณ์แล้วเรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อนมาก เราพยายามจะลดความตึงเครียดของปัญหา ขณะเดียวกันมันอาจจะมีการกระทบกระทั่ง ยังไม่ประสบผลสำเร็จอย่างสมบูรณ์ เราพยายามที่จะแก้ปัญหา ฝากทุกท่านระมัดระวังว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน ทั้งหมดทั้งปวงนี้เป็นเพื่อตอบเป้าหมายของรัฐบาลและประเทศชาติ เรื่องแรกเราไม่ยอมเสียอำนาจอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนอย่างแน่นอน สอง เราต้องการที่จะแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างสันติและสุจริตใจ

จากนั้นเปิดโอกาสให้สื่อมวลชนสอบถาม ผู้สื่อข่าวถามถึงความเชื่อมั่นหลังการเจรจาว่าเป็นการยินยอม หรือทำให้ประเทศเสียเปรียบในเวทีโลกหรือไม่ นายมาริษ ยืนยันว่าประเทศไทยได้รับการยอมรับในเวทีโลก เมื่อวานทันทีที่เครื่องแตะพื้น หลังการเจรจาก็ได้มีการพูดคุยกับนายโดนัล เจ. ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ซึ่งในระหว่างการพูดคุย ประธานาธิบดีทรัมป์ให้เกียรติประเทศไทย

และพูดว่าสิ่งที่รัฐบาลไทยทำเมื่อวานนี้นำมาสู่สันติภาพที่จะเกิดขึ้นในอาเซียน จึงไม่มีประโยชน์ในการใช้ความรุนแรงในการแก้ไขปัญหา และประธานาธิบดีทรัมป์พูดอย่างชัดเจนว่าสิ่งที่ตัดสินใจในครั้งนี้ได้รับการชื่นชมจากตนและนานาอารยประเทศ ที่จะเป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหาอย่างสันติ ขณะที่นายภูมิธรรม ก็ย้ำว่าเป็นนโยบายของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาตั้งแต่ต้น ดังนั้น ประชาชนควรชื่นชมสิ่งที่รัฐบาลไทยทำเพื่อแก้ไขปัญหาโดยสันติวิธี

ส่วนได้เปรียบหรือเสียเปรียบกับประเทศกัมพูชา นายมาริษ กล่าวว่า ระหว่างการเจรจามีพล.อ.ณัฐพล นั่งอยู่ด้วยแล้วได้ติดต่อกองทัพตลอด คำว่ารัฐบาล , กระทรวงการต่างประเทศ , กระทรวงกลาโหม ทำเพื่อปกป้องอธิปไตยและลดความสูญเสีย

ส่วนกรณีที่กัมพูชาพยายามบิดเบือน ส่งผลให้ประเทศไทยเสียเปรียบหรือไม่ นายมาริษ กล่าวว่า ตนเชื่อว่าเราชี้แจงด้วยความอดทนอดกลั้น สิ่งที่ยืนยันคือเราไม่ได้ใช้โอกาสในการบิดเบือน เราพูดข้อเท็จจริง เป็นสุภาพบุรุษ ดังนั้น ไม่ต้องกังวลสายตาโลก ซึ่งนอกเหนือจากหนังสือประท้วงดังกล่าวแล้ว ยังส่งไปให้ทูต UN ประจำนครนิวยอร์กและเจนีวาด้วย เชื่อว่าสุดท้ายความจริงก็คือความจริง หากเชื่อข้อมูลบิดเบือนได้ โลกก็ไม่มีความสงบสุข ขออย่ากังวล เพราะมอนิเตอร์สถานการณ์ ภาพลักษณ์เราดีมาก

นายมาริษ กล่าวทิ้งท้ายว่า นายแอลมานูแอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศสได้ส่งข้อความมายินดี และหลังจากแถลงนี้ตนจะเข้าหารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเวียดนามซึ่งจะมีการทำความเข้าใจในเรื่องนี้กันด้วย

Advertisement

แชร์
"มาริษ" ส่งหนังสือประท้วง "อาเซียน-สหรัฐ-จีน-ยูเอ็น"ยันเขมรยิงอีกรอบ