พลเรือตรีสุรสันต์ คงสิริ โฆษกกระทรวงกลาโหม และ นางมาระตี นะลิตา อันดาโม รองอธิบดีกรมสารนิเทศ และรองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงผลการประชุมศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา หรือ ศบ.ทก. วาระพิเศษ หลังจากที่เกิดเหตุปะทะชายแดนไทย - กัมพูชา
พลเรือตรีสุรสันต์ กล่าวว่า ที่ประชุมได้มีการอัพเดทสถานการณ์ การรักลอบวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคลที่บริเวณช่องอานม้า จนทำให้มีเหตุให้กำลังพลบาดเจ็บสาหัส กำลังพลของกองทัพบก ชุดลาดตระเวนกองพันทหารราบที่ 14 ซึ่งเป็นเส้นทางปฏิบัติการปกติของฝ่ายไทยที่มีการลาดตระเวนมาอย่างต่อเนื่องซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้กองกำลังพลของกองทัพบกได้รับบาดเจ็บ 5 ราย หนึ่งในจำนวนนั้นได้รับบาดเจ็บสาหัสถึง ข้อเท้าขวาขาด ส่วนอีก 4 นายมีอาการแน่นหน้าอก หูอื้อจากแรงสั่นสะเทือนของระเบิด โดยปัจจุบันอยู่ในการดูแลของแพทย์เร่งด่วน และส่งตัวไปยังโรงพยาบาลน้ำยืนก่อนที่จะส่งตัวต่อไปยัง โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์
พลเรือตรีสุรสันต์ ยังกล่าวว่า ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมาเหตุการณ์สำคัญตั้งแต่เวลา 07.35 น ทางฝ่ายกัมพูชาเริ่มใช้โดรนบินเพื่อตรวจการการวางกำลังของฝ่ายไทยบริเวณปราสาทตาเมือน โดยกำลังของกัมพูชา นำอาวุธมาประจำการที่บริเวณด้านหน้าแนวลวดหนามพร้อมกำลังพล 6 นาย อาวุธครบมือ โดยมีอาวุธหนัก RPG มาบริเวณแนวหน้า ซึ่งฝ่ายไทยเห็นว่าสถานการณ์ดูแล้วไม่น่าปลอดภัยจึงใช้ความพยายามในการตะโกนเจรจาแต่ไม่ประสบความสำเร็จ จากนั้นในเวลา 08.20 น ฝ่ายกัมพูชาได้เริ่มเปิดฉากยิงบริเวณตรงข้ามฐานหมูป่า ทางทิศตะวันออกของปราสาทตามเมืองห่างจากปราสาท 200 เมตรทำให้ฝ่ายไทยจำเป็นต้องตอบโต้ จากนั้นสถานการณ์ได้ขยายพื้นที่ออกไปตามแนวชายแดนต่างๆเกิดพื้นที่ปะทะอีก 6 พื้นที่ประสาทตาเมือนธม ประสาทตาควาย ช่องบกเขาพระวิหารบริเวณ ห้วยตามาเรีย ภูมะเขือ ช่องอ่านม้า และช่องจอม ปัจจุบันกัมพูชาได้ใช้อาวุธหนักเช่น BM 21 ปืนใหญ่ขนาด 122 mm ทำให้เกิดความเสียหายแก่บ้านเรือนประชาชนฝ่ายไทยรวมทั้งการสูญเสียชีวิตของประชาชนฝ่ายไทย ยังมีการโจมตีไปยังพื้นที่ทางสาธารณะคือศูนย์พัฒนาพื้นที่ชายแดน.อำเภอกาบเชิง.จังหวัดสุรินทร์.และล่าสุดโจมตีไปยังโรงพยาบาลของฝ่ายไทย
โดยฝ่ายไทยได้มีการอพยพประชาชนออกจากพื้นที่.เพื่อความปลอดภัยและมีผู้ที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส 3 คน 1 ในจำนวนนั้นเป็นเด็กชายอายุ 5 ขวบ.และเสียชีวิต 1 คนในพื้นที่ชุมชนบริเวณชายแดนพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งขณะนี้มีความรวดเร็วของสถานการณ์ มีการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องขอความกรุณาประชาชนติดตามสถานการณ์ตามช่องทางทางการอย่างต่อเนื่องเช่นกัน
พลเรือตรีสุรสันต์ ยังกล่าวอีกว่า สืบเนื่องจากสถานการณ์ดังกล่าวฝ่ายไทยได้มีการดำเนินการตามพระราชบัญญัติจัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม พ.ศ 2551 มาตรา 39 โดยให้กองทัพไทยจัดตั้งศูนย์บัญชาการทางทหาร ในแต่ละระดับชั้นขึ้นมา เพื่อติดตามสถานการณ์และควบคุมอำนวยการและสั่งการการปฏิบัติดังนี้ศูนย์บัญชาการทางทหารมีผู้บัญชาการทหารสูงสุดเป็นผู้บังคับบัญชาสามารถดำเนินการในการใช้กำลังทางทหารปฏิบัติการ
ขณะที่การดำเนินการของศบ.ทก เดิมทีมียังไม่มีมาตรการปิดด่าน แต่เน้นย้ำไว้เสมอว่าด่านเราไม่เคยปิด แต่มีเพียงการจำกัดคนและกำจัดจำกัดเวลา แต่ในสถานการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้จำเป็นต้องยกระดับมากกว่าการควบคุมชายแดนจุดผ่านแดนต่างๆไปถึงระดับที่ 4 คือปิดด่านการเข้าออกทุกด่านตามแนวชายแดนไทยกัมพูชา
นอกจากนี้ พลเรือตรีสุรสันต์ ยังกล่าวว่า ยังมีการตรวจพบของสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองมีการรายงานว่าได้มีการจับตาการเดินทางของกลุ่มนักท่องเที่ยวไทย ที่เดินทางโดยเครื่องบิน และไปเล่นการพนันบริเวณพื้นที่ชายแดนและกลับเข้ามาทางช่องทางบกตามแนวชายแดนพื้นที่ต่างๆ ซึ่งพฤติกรรมเหล่านี้เราไม่สนับสนุน ทางการได้มีการรวบรวมและติดตามพฤติกรรมต่างๆอย่างต่อเนื่องและจะมีการเข้มงวดกับกลุ่มคนต่างๆมากยิ่งขึ้น ประกอบกับช่วงนี้เรามีสถานการณ์ตามแนวชายแดน จึงทำให้ด่านปิดจึงไม่สามารถเดินทางทางช่องทางบก ได้จึงขอแจ้งเตือนไปยังประชาชน งดการเดินทางในลักษณะเช่นนี้
พลเรือตรีสุรสันต์ ยังเน้นย้ำว่า ทางการไม่ได้นิ่งนอนใจต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นโดยในช่วงบ่ายวันนี้เวลา 14.00 น จะมีการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช. วาระพิเศษ ซึ่งจะมีการประเมินสถานการณ์และกำหนดแนวทางในการดำเนินการที่ชัดเจนต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นต่อไป
ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า การทำยุทธวิธีของกัมพูชาพุ่งเป้าไปที่ประชาชน จะมีมาตรการอย่างไร พลเรือตรีสุรสันต์ กล่าวว่าทางกระทรวงมหาดไทยได้ดำเนินการอพยพประชาชนออกจากพื้นที่แล้ว แต่ต้องยอมรับว่าอาจจะมีบางคนไม่อยากออกจากพื้นที่จึงอยากวิงวอนให้ประชาชนออกจากพื้นที่เนื่องจากมีความเสี่ยงไปยังพื้นที่ที่ปลอดภัยซึ่งทางเจ้าหน้าที่ของกระทรวงมหาดไทยพร้อมที่จะอำนวยความสะดวกให้
ส่วนกระสุนการพุ่งเป้าโจมตีไปยัง พลเรือตรีสุรสันต์ กล่าวว่า ทางกระทรวงการต่างประเทศเตรียมข้อมูลและหลักฐาน ส่วนอาวุธของฝ่ายทางกัมพูชา ต้องยอมรับว่าขีดความสามารถจรวดหลายลำกล้อง การควบคุมวิถีทิศทาง ควบคุมได้ยากเพราะฉะนั้นการมาแต่ละครั้งจะมาเป็นชุด และผลกระทบหรือความเสียหาย จะเป็นไปตามบ้านเรือน
นางมาระตี ยืนยันว่า กระทรวงการต่างประเทศจะมีการตอบโต้ ทั้งในเรื่องกฎหมายระหว่างประเทศและทางด้านมนุษยธรรม
ส่วนจะมีถกมาตรการให้สถานการณ์คลี่คลาย พลเรือตรีสุรศักดิ์ กล่าวว่าสถานการณ์มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องและมีการเปลี่ยนแปลงพื้นที่โดยเฉพาะกองทัพภาคที่ 2 ได้รับมอบหมายให้ดูแลพื้นที่อย่างใกล้ชิด การรายงานจะเป็นการรายงานอย่างเป็นทางการ สายผู้บังคับบัญชา โดยเฉพาะผอสบทก เป็นห่วงว่า สมทกมีเพียงหน้าที่สนับสนุนทหารในพื้นที่ เปลี่ยนบทบาท
นางมาระตี กล่าวว่า ในการดำเนินการด้านการต่างประเทศของกระทรวงการต่างประเทศ อย่างแรกคือเมื่อวานนี้ วันที่ 23 กรกฎาคม ทางกระทรวงการต่างประเทศได้จัดการบรรยายสรุปแก่คณะทูตต่างประเทศและผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศ ในเรื่องเหตุการณ์ทุ่นระเบิดที่ช่องบกจังหวัดอุบลราชธานี และการประท้วงของฝ่ายไทยซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดีโดยมีผู้แทนคณะทูตต่างประเทศมาเข้าร่วมจำนวน 93 คนจาก 68 ประเทศ โดยฝ่ายไทยได้มีโอกาสสำคัญชชี้แจงท่าทีและจุดยืนในเรื่องดังกล่าว เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคมและการดำเนินการเรื่องนี้.ทั้งการประท้วงกัมพูชาโดยตรงและการประท้วงไปยังประธานที่ประชุมรัฐภาคีอนุสัญญาออตโตวา รวมถึงการดำเนินงานต่อไปซึ่งผู้แทนประเทศต่างๆได้รับทราบจุดยืนของไทยซึ่งเป็นไปตามพันธกรณีของไทยเอง
สำหรับสถานการณ์ปะทะระหว่างกองกำลังทั้งสองฝ่ายในขณะนี้โดยที่ฝ่ายกัมพูชาเป็นฝ่ายริเริ่มขอเรียน ให้ประชาชนมั่นใจว่ากระทรวงการต่างประเทศจะดำเนินงานเพื่อปกป้องผลประโยชน์ท่าทีและอธิปไตยของไทย โดยกระทรวงการต่างประเทศพร้อมทำงานอย่างมีเอกภาพดำเนินงานไปพร้อมกับกองทัพไทยเพื่อปกป้องอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดน ตามกฎหมายระหว่างประเทศ
Advertisement