Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
กต. แถลงย้ำจุดยืนต่อทูต68ประเทศ กัมพูชาละเมิดอธิปไตยไทย-วางกับระเบิด

กต. แถลงย้ำจุดยืนต่อทูต68ประเทศ กัมพูชาละเมิดอธิปไตยไทย-วางกับระเบิด

23 ก.ค. 68
18:49 น.
แชร์

กต. แถลงจุดยืน ต่อทูต-ผู้ช่วยทูตทหาร 93 คน จาก 68 ประเทศ ตอกย้ำกัมพูชาละเมิดอนุสัญญาออตตาวา วางกับระเบิด ละเมิดอธิปไตยไทย พร้อมแจงข้อประท้วงของไทย

วันที่ 23 ก.ค. นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงข่าวหลังบรรยายสรุปแก่เอกอัครราชทูตและ หรือผู้แทนรวมถึงผู้ช่วยทูตทหาร 93 ท่าน จาก 68 ประเทศเกี่ยวกับสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชาและรับฟังการแถลงผลการบรรยายสรุปฯ โดยมี นางเอกสิริ ปิณฑะรุจิ ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ , พลเรือตรีสุรสันต์ คงสิริ โฆษก ศบ.ทก. (ด้านความมั่นคง) , พลเอกศักดิ์สิทธิ์ แสงชนินทร์ ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ (TMAC) , นางสาวพินทุ์สุดา ชัยนาม อธิบดีกรมองค์การระหว่างประเทศ เป็นผู้บรรยายสรุปแก่คณะทูตฯ

นายนิกรเดช กล่าวว่า วัตถุประสงค์ของการบรรยายในวันนี้เพื่อบรรยายสรุปให้แก่คณะทูตที่เน้นไปในเรื่องของการพัฒนา ที่สืบเนื่องมาจากข้อเท็จจริงจากกรณีกำลังพลของกองทัพบก 3 นายประสบเหตุเหยียบกับระเบิดที่ได้รับบาดเจ็บ ขณะลาดตระเวนที่ช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี โดยกระทรวงการต่างประเทศ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงศบ.ทก.ได้แถลงข้อเท็จจริง ซึ่งได้เน้นย้ำว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นเกิดขึ้นในพื้นแผ่นดินไทย

โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ยังระบุว่า ภาพรวมการบรรยายสรุปวันนี้ เป็น 5 ประเด็น ประกอบด้วย

1. เราจะยืนยันการตรวจสอบของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง วัตถุระเบิดที่พบไม่มีการใช้ หรือมีอยู่ในคลังอาวุธของฝ่ายไทย เป็นทุ่นระเบิดที่วางใหม่ เมื่อประกอบกับการประมวลข้อมูล และหลักฐานนำไปสู่ข้อสรุปได้ว่าเป็นทุ่นระเบิดของฝ่ายกัมพูชา และถือเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง

2. รัฐบาลไทยได้มีแถลงการณ์ประณามอย่างรุนแรงที่สุด ต่อการใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ซึ่งถือเป็นการละเมิดอธิปไตย และเป็นการกระทำที่ขัดต่อหลักพื้นฐานที่สำคัญของกฎหมายระหว่างประเทศ ตามที่ระบุไว้ใน“กฎบัตรสหประชาชาติ” และยังเป็นการกระทำที่ละเมิดพันธกรณีภายใต้อนุสัญญาออตตาว่าอย่างชัดเจน

3. ด้วยหลักฐานทั้งหมดที่ได้มีการรวบรวม และตรวจสอบอย่างรอบคอบ รัดกุม จากฝ่ายความมั่นคงแล้วนั้น กระทรวงการต่างประเทศได้มอบหนังสือประท้วงอย่างเป็นทางการให้ผู้แทนสถานเอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำประเทศไทย เพื่อประท้วงกัมพูชาว่า ได้ทำการละเมิดอธิปไตยของไทย ไม่ปฏิบัติตามอนุสัญญาออตตาว่า ขอให้ฝ่ายกัมพูชาตรวจสอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแสดงความรับผิดชอบ เยียวยาผู้เสียหาย ทั้งขอให้เก็บกู้ทุ่นระเบิดตามที่เคยได้ตกลงกันไว้

4. กระทรวงการต่างประเทศ โดยเอกอัครราชทูตผู้แทนประจำสหประชาชาติ นครเจนีวา ได้มีหนังสือถึงเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำการประชุมรัฐภาคี ว่าด้วยการลดอาวุธ โดยการประชุมพันธอนุสัญญาว่าด้วยรัฐภาคีตามอนุสัญญาออตตาวา ซึ่งก็มีเนื้อหาสอดคล้องกับการประท้วงกัมพูชาว่าเนื่องด้วยการที่ไทยเป็นรัฐภาคีของอนุสัญญาที่มีความรับผิดชอบต่อประชาคมระหว่างประเทศ จึงต้องปฏิบัติตามพันธกรณี ในการรายงานเหตุการณ์การละเมิดพันธกรณีของกัมพูชาตามมาตรา 1 ขออนุสัญญา และย้ำว่าไทยต้องการใช้กลไกรัฐภาคีกับกัมพูชาดำรงไว้เพื่ออนุสัญญาออตตาวา ในฐานะรัฐภาคี โดยไทยต้องการใช้การหารือทวิภาคีกับกัมพูชา

5. ปลัดกระทรวงการต่างประเทศเน้นย้ำจุดยืนของไทย ที่ยึดถือหลักปฏิบัติสากลกฎหมายระหว่างประเทศ กฎหมายสหประชาชาติพันธกรณีของประเทศไท ยและในขณะเดียวกันไทยยังคงพร้อมที่จะพูดคุยหาทางออกกับฝ่ายกัมพูชาผ่านกลไกทวิภาคีที่มีอยู่

ทั้งนี้ ตามที่ให้การแถลงข่าวไปเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาตนเองได้บอกกับสื่อมวลชนว่ารัฐมนตรีต่างประเทศ ได้เดินทางไปที่นครนิวยอร์กเพื่อไปร่วมการประชุม ซึ่งท่านมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ที่อยู่ระหว่างการเดินทางไปร่วมประชุมหารือแห่งการเมืองระดับสูงว่าด้วยการพัฒนาที่ยั่งยืน ที่สำนักงานใหญ่สหประชาชาติ นิวยอร์ก และได้พบผู้แทนระดับสูงต่างประเทศ และจะใช้โอกาสนี้ยืนยันจุดยืนของประเทศไทยต่อประชาคมโลก โดยเฉพาะหลักการของไทยที่มุ่งมั่นแก้ไขปัญหาโดยสันติวิธีและเจรจาผ่านกรอบทวิภาคี

ซึ่งล่าสุดวันนี้ทางท่านรัฐมนตรีได้พบกับรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของปากีสถาน ในฐานะประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ประจำเดือนกรกฎาคม และท่านก็ได้พบกับรัฐมนตรีกระทรวงการพัฒนาสังคมของปานามา ซึ่งจะเป็นประธานคนต่อไปประจำเดือนสิงหาคม ซึ่งทั้งสองท่านเห็นพ้องกับแนวทางการแก้ไขปัญหาของไทย ว่าเราจะใช้กลไกทวิภาคี และหากมีการละเมิดอนุสัญญาออตตาวาก็จะต้องแก้ไข

นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศ และ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ตอบคำถามสื่อมวลชนถึงประเด็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นส่วผลกระทบต่อการทำงานของศูนย์ปฏิบัติการทุนระเบิดแห่งชาติ หรือ T-Mac ว่ามากน้อยแค่ไหน ยืนยันว่าไม่กระทบ เพราะยังทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมีการปฏิบัติต่อเนื่องบริเวณชายแดนฝั่งไทยมาโดยตลอด เนื่องจากเราไม่เคยมีกลไกที่มีความร่วมมือกับกัมพูชาอย่างเป็นทางการ อย่างเช่น เรื่องทุ่นระเบิดเป็นโปรเจ็คโมเดลที่ได้ทดลอง ดังนั้นตนเชื่อว่าเหตุการณ์ดังกล่าว ย่อมทำให้เกิดความตื่นตัวในฝั่งไทย

ส่วนประเด็นเกี่ยวกับประสิทธิภาพของไทยที่มีต่ออนุสัญญาออตตาว่านั้นมีคสามสำคัญ มากน้อยเพียงใดและหากกัมพูชาละเมิดจะมีผลอย่างไร นายนิกรเดช บอกว่า ไทยเป็นประเทศที่เป็นรัฐภาคีทำหน้าที่อย่างถี่ถ้วนสมบูรณ์มาโดยตลอดเช่นกัน และสิ่งที่เราทำวันนี้ คือ การยื่นจดหมายก็เป็นไปตาม artical หรือ มาตราที่ 1 ของอนุสัญญา ที่รัฐภาคีจำเป็นต้องรายงานหากพบเจอทุ่นระเบิดก็ต้องรายงานสถานการณ์ตามความเป็นจริงที่เกิดขึ้น

ทั้งนี้ประเทศไทยได้ยื่นสถิติของการมีทุ่นระเบิดในครอบครองทั้งหมด ยืนยันให้เห็นการเป็นประเทศที่มีความรับผิดชอบ ในฐานะรัฐภาคีแล้ว ยังมีความรับผิดชอบต่อประชาคมระหว่างประเทศอย่างสูงสุด

เมื่อถามว่าสถานการณ์ทางแนวชายแดนดูรุนแรง และเกิดการยั่วยุบ่อยครั้งสถานการณ์แบบนี้ จะทำให้กระทรวงการต่างประเทศ ต้องพิจารณามาตรการตอบโต้เข้มข้นกว่าการประท้วงเป็นเอกสารหรือไม่ อาทิ เรียกทูตกลับมา หรือส่งทูตกัมพูชากลับไป นายนิกรเดช ยืนยันว่า ยังไม่ถึงขั้นนั้น ในขั้นตอนนี้ได้มีการถาม-ตอบในที่บรรยายเช่นกัน เนื่องจากเราย้ำตลอดว่าเราต้องการแก้ไขปัญหาผ่านช่องทางทวิภาคี และเอกอัครราชทูต เป็นกลไกสำคัญ ที่จะเปิดช่องให้มีการหารือทวิภาคี ดังนั้นฝ่ายไทยยังไม่ได้มีการพิจารณาไปถึงจุดนั้น

Advertisement

แชร์
กต. แถลงย้ำจุดยืนต่อทูต68ประเทศ กัมพูชาละเมิดอธิปไตยไทย-วางกับระเบิด