วันที่ 17 ก.ค. 68 ที่จุดผ่านแดนถาวรช่องสะงำ จ.ศรีสะเกษ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ลงพื้นที่จุดผ่านแดนถาวรช่องสะงำ เพื่อให้กำลังใจ เจ้าหน้าที่ พร้อมรับฟังบรรยายสรุปถึงสถานการณ์การผ่านเข้า-ออก
สำหรับจุดผ่านแดนช่องสะงำ ตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย. 68 ซึ่งเป็นวันเริ่มใช้มาตรการกำหนดเวลาเปิดปิดด่าน มีคนไทยข้ามมาจากฝั่งกัมพูชา 276 คน และข้ามจากฝั่งไทยไปกัมพูชา 283 คน ชาวกัมพูชาผ่านแดนเข้าไทยจำนวน 1,194 คน และออกจากไทย 1,452 คน
และในห้วงที่สอง หลังจากที่กัมพูชาประกาศปิดด่าน ตั้งแต่วันที่ 21 มิ.ย. เป็นต้นมา มีผู้ป่วยจากกัมพูชาผ่านแดนเข้ามาเพื่อทำการรักษาจำนวน 19 คน โดยมีผู้ติดตามมาด้วย 24 คน และมีผู้ป่วยชาวกัมพูชาออกจากไทย จำนวน 44 คน ผู้ติดตามอีก 41 คน คนไทยกลับเข้าประเทศ เพื่อกลับภูมิลำเนา 6 คน
พล.อ.ณัฐพล ย้ำว่า ไทยไม่ได้เป็นฝ่ายปิดด่านพรหมแดนตามที่กัมพูชากล่าวอ้าง ด่านชายแดนไทย-กัมพูชายังเปิดปกติ เพียงกำหนดเวลาเปิด-ปิดเท่านั้น เพราะหากปิดด่านเท่ากับไทยทำผิดมารยาทสากลเกี่ยวกับพรมแดน แต่ในทางกลับกันฝ่ายกัมพูชาต่างหากที่ปิดด่าน นั่นหมายความว่ากัมพูชาเป็นฝ่ายทำผิดมารยาทสากล
โดยที่ด่านช่องสะงำ เปิดให้มีการผ่านเข้าออกได้ ตั้งแต่ 08.00-22.00 น. โดยผ่อนปรนให้กับนัดเรียน นักศึกษา ผู้ป่วย ขณะที่ประตูด่านฝั่งกัมพูชาถูกปิดไว้ตลอด 24 ชม. และล่าสุดมีคำสั่งห้ามไม่ให้ ข้ามมารับยา และเวชภัณฑ์ จากฝั่งไทยแล้ว
พล.อ.ณัฐพล เปิดเผยด้วยว่า เร็วๆ นี้เตรียมจะผ่อนปรนความเข้มงวดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา ให้รถขนส่งสินค้าข้ามแดนได้ เนื่องจากมีผู้ประกอบการร้องเรียนมาว่าได้รับผลกระทบส่งสินค้าไม่ได้ ผิดสัญญาซื้อขาย ต้องชดใช้ค่าเสียหายทั้งหมดก็เพื่อให้การดำเนินการเป็นไปตามหลักสิทธิมนุษยชน ส่วนด่านฝั่งกัมพูชาที่ปิดอยู่เราไม่สามารถทำอะไรได้
พล.อ.ณัฐพล ยังตัดพ้อกับเจ้าหน้าที่ที่มาต้อนรับว่า ตนถูกสังคม และสื่อบางสำนักโจมตีว่าเป็น รมช.กลาโหมที่ไม่เด็ดขาด เพราะจัดการกับกัมพูชาไม่เฉียบขาด ยืนยัน ตนเองในฐานะ ผอ.ศบ.ทก.ทำทุกอย่างเต็มที่ พยายามในอยู่ในกติกา และกฎหมายระหว่างประเทศ ดังนั้นเราต้องใจเย็น พร้อมขอความมือกำลังพล อดกลั้น ไม่ตอบโต้ด้วยกำลังและในนามรัฐบาลจะไม่ตอบโต้ ฝ่ายตรงข้ามผ่านทางโซเชียล ยอมรับถ้าตนเองไม่ได้เป็น รมช.กลาโหม ถูกฝ่ายตรงข้ามกดดัน ก็คงทนไม่ไหวเหมือนกัน
พล.อ.ณัฐพล กล่าวทิ้งท้ายว่า “ขอให้กำลังพลทุกนาย อดทนอีกนิด“
Advertisement