นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวถึงการเลือกตั้งซ่อมที่จังหวัดศรีสะเกษ เขต 5 ว่า เมื่อวานเป็นการรับสมัครวันแรก พรรคเพื่อไทยมีการเตรียมการในการหาเสียงในพื้นที่ และการปราศรัย
ส่วนการปราศรัยของพรรคภูมิใจไทยที่เปลี่ยนวาทกรรมจาก “ไล่หนูตีงูเห่า เป็น ไล่หนูซื้องูเห่า” นายประเสริฐ กล่าวว่า การปราศรัยแบบนี้ดูค่อนข้างที่จะไม่ตรงข้อเท็จจริง ซึ่งตนเองก็ติดตามการปราศรัยเมื่อวานนี้ ซึ่งวาทกรรม ไล่หนูตีงูเห่า เป็นตำนานของพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ ส่วนที่บอกว่าซื้องูเห่าตนก็ยังไม่เข้าใจ ว่าจะสื่อถึงอะไร เพราะการเมืองอย่างเรื่องการโหวตในสภาก็เป็นเรื่องเอกสิทธิ์ของสส. ซึ่งการกล่าวของหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย คงจะสื่อถึงสมาชิกพรรคบางคนที่มีการโหวตแปลกไปจากสมาชิกคนอื่น
เมื่อถามว่า กังวลเรื่องเสียง หรือความนิยม ในพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ หรือไม่ เพราะเป็นพื้นที่ที่ติดชายแดนไทย-กัมพูชา นายประเสริฐ กล่าวว่า พื้นที่เดิมก็เป็นของพรรคเพื่อไทย และเราก็ชนะการเลือกตั้งมาเมื่อครั้งที่แล้ว เพราะฉะนั้นตนคิดว่าการทำความเข้าใจกับพี่น้องประชาชนให้เข้าใจถึงสถานการณ์ที่ถูกต้อง หากได้อธิบายให้ประชาชนเข้าใจ ก็คิดว่าเรื่องนี้จะไม่เป็นอุปสรรคแต่อย่างไร
ส่วนกรณีที่เมื่อวานนี้พรรคภูมิใจไทยขึ้นปราศรัยและช่วงหนึ่งกล่าวว่า ถ้าคนศรีสะเกษไม่อยากมีกรรมต่อ ขอให้เทคะแนนมายังฝั่งพรรคภูมิใจไทย นั้น นายประเสริฐ มองว่า ก็เป็นเทคนิคการหาเสียง และอย่างที่ตนบอกว่า อยู่พรรคภูมิใจไทยมีตำแหน่ง อยู่พรรคเพื่อไทยก็มีตำแหน่งเหมือนกัน จึงมองว่าที่กล่าวมานั้นไม่จริง
เมื่อถามว่าในอนาคต นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย จะลงพื้นที่ช่วยหาเสียงหรือไม่ นายประเสริฐกล่าวว่า ก็ขึ้นอยู่กับทีมยุทธศาสตร์ของพรรค ว่าจะประเมินสถานการณ์อย่างไร ส่วนนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะเดินทางไปร่วมหาเสียงด้วยหรือไม่ เรื่องนี้ตนไม่ทราบ ขึ้นอยู่กับทีมยุทธศาสตร์ เพราะการหาเสียงต้องเป็นผู้ช่วยหาเสียง หรือผู้ช่วยผู้สมัครเท่านั้น
เมื่อถามว่า มีความคาดหวังในการเลือกตั้งซ่อมที่จังหวัดศรีสะเกษครั้งนี้เป็นอย่างไร นายประเสริฐ กล่าวว่า หวังว่าจะชนะการเลือกตั้งเพราะเป็นพื้นที่เดิมของพรรคเพื่อไทยอยู่แล้ว และผู้สมัครเองก็มีความผูกพัน ผู้สมัครของเราที่เสียชีวิตก็เป็นที่รักและทำงานในพื้นที่อย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน และครอบครัวของเขาก็ทำงานทางด้านการเมืองมาตลอด ไม่ว่าจะเป็นภรรยา รวมถึงลูกสาว ก็ช่วยเหลืองานพ่อมาตลอด ตั้งแต่การเลือกตั้งหลายๆครั้งที่ผ่านมา
ส่วนกรณีที่พรรคภูมิใจไทย พยายามบอกว่าเป็นการขายชาติ ในส่วนเรื่องของคลิปเสียงที่นายกรัฐมนตรี พูดคุยกับสมเด็จฮุนเซน ประธานวุฒิสภากัมพูชานั้น นายประเสริฐ กล่าวว่า ก็ขอให้อย่าเป็นในลักษณะของการใส่ร้าย เพราะว่า กกต. ในการเลือกตั้งก็มีแนวปฏิบัติอยู่แล้ว การปราศรัยก็ขอให้อย่าเป็นไปในทางใส่ร้ายและทำให้ประชาชนเข้าใจผิด เพราะเรื่องนี้อยู่ในระหว่างการที่นายกรัฐมนตรี กำลังทำคำชี้แจงต่อศาล เพราะฉะนั้นเวลาพูดเรื่องนี้พูดอะไรต้องระวัง
Advertisement