วันที่ 14 ก.ค. 68 สำนักงาน “Kampuchea Thmey Daily” ของ กัมพูชา รายงานข่าวว่า สมเด็จฯ ฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา เตือนหากไทยกล้าสร้างรั้วรอบวัดท่าเมือนธม อาจเกิดสงคราม
สมเด็จฯ ฮุน เซน กล่าวว่า กัมพูชาพร้อมแล้วสำหรับสงครามที่ไทยเป็นผู้ก่อขึ้น เมื่อเร็วๆ นี้ ไทยต้องการสร้างรั้วรอบปราสาทตาเมือนธม สมเด็จฯ ฮุน เซน เตือนว่าหากไทยกล้าทำอาจเกิดปัญหาได้
ในระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมสมัยที่ 3 ของวุฒิสภาสมัยที่ 5 เมื่อเช้าวันที่ 14 ก.ค. 68 สมเด็จฯ ฮุน เซน กล่าวว่า “ในช่วงนี้ ผมอยากสร้างรั้วรอบตาเมือนธม!” ดูสินั่น! ขู่จะสู้ยึดพระตะบอง เสียมเรียบ และแม้แต่พนมเปญ ลองดูนะครับ! ฉันไม่ได้เตือนถึงสงคราม แต่เรากำลังเตรียมพร้อมสำหรับสงครามที่จะเกิดขึ้น”
ตามรายงานของหนังสือพิมพ์เดอะเนชั่น เมื่อวันที่ 8 ก.ค. 68 พล.ต.อ.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวว่า กองทัพบกกำลังรอมติจากรัฐบาลในการสร้างรั้วรอบวัดตาเมือนใหม่ หลังจากที่วัดแห่งนี้ถูกรื้อถอนไปเมื่อปี 2554
เช้าวันที่ 14 ก.ค. 68 สมเด็จฯ ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา กล่าวที่ศูนย์ฝึกกองทัพกัมพูชาในกรุงพนมชุม เซน อูแค เขตสมัครมีชัย จังหวัดกำปงชนังว่า แม้ว่าพื้นที่บริเวณปราสาทตาเมือนธมยังคงเผชิญกับปัญหาที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข แต่ไทยได้ประกาศให้เป็นพื้นที่ของตนเอง และยังโต้เถียงกับ Google อีกด้วย
คดีนี้สามารถแก้ไขได้โดยศาลยุติธรรมระหว่างประเทศเท่านั้น และไม่มีใครมีสิทธิ์แต่เพียงผู้เดียวในการตัดสิน
“เราต้องส่งประเด็นทั้ง 4 นี้ไปที่ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ เพื่อหาทางแก้ไข เพราะเราทั้งสองคิดว่าเราไม่สามารถเดินหน้าต่อไปได้ เพราะฝ่ายหนึ่งได้ประกาศอย่างเป็นทางการแล้วว่าประเด็นนี้เป็นของพวกเขา ดังนั้นเรื่องนี้จึงไม่สมเหตุสมผลเลย”
ทั้งนี้ สมเด็จฯ ฮุน เซน ยังได้ขีดเส้นแดงเตือนกองทัพไทยเมื่อวันที่ 1 ก.ค. 68 เนื่องในวันชาติที่จังหวัดตาแก้วว่า หากไทยกล้าปิดปราสาทตาเมือนธม กองทัพกัมพูชาจะต้องประสบปัญหาอย่างแน่นอน
ประเทศไทยเป็นประเทศที่ลงนามด้วยมือตนเอง แต่กลับผิดสัญญาโดยละเมิดบันทึกความเข้าใจที่ลงนามกับกัมพูชาในปี 2543 ซึ่งตกลงที่จะยอมรับสนธิสัญญาฝรั่งเศส-สยามในปี 2447 และ 2450 เพื่อแก้ไขเขตแดน แต่ในความเป็นจริงแล้ว ประเทศไทยกลับใช้แผนที่ที่ตนเองวาดขึ้นเอง
กัมพูชาประสบกับความตึงเครียดบริเวณชายแดนมานานกว่าหนึ่งเดือนแล้ว หลังจากที่ไทยข้ามพรมแดนเข้าไปในกัมพูช าและยิงทหารกัมพูชาเสียชีวิตเมื่อวันที่ 28 พ.ค. ส่งผลให้เกิดเหตุการณ์ต่างๆ เกิดขึ้นที่ชายแดน จนกระทั่งทางการต้องปิดพรมแดนในวันที่ 7 มิ.ย. ขณะเดียวกั กัมพูชาก็ตอบโต้ด้วยวิธีการต่างๆ มากมาย รวมถึงผ่านศาลระหว่างประเทศ การเมือง เศรษฐกิจ และกองทัพ
Advertisement