(1 ก.ค. 2568) เวลา 16.09 ที่ศาลอาญา นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางออกจากศาลอาญา โดยให้คนขับรถส่วนตัว ขับรถไปรับบริเวณประตูข้าง ก่อนที่จะขับออกไปจากศาลอาญา โดยไม่ได้ให้สัมภาษณ์แก่สื่อมวลชนแต่อย่างใด
จากนั้น นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัว นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์หลังเสร็จสิ้นการสืบพยานฝ่ายโจทก์นัดแรก ว่า บรรยากาศในช่วงบ่ายสีหน้า นายทักษิณ ดูเป็นปกติ อยู่ในห้องพิจารณาไม่มีใครสุขสบายท่านอาจจะเหนื่อยล้า ง่วงนอน หลังจากที่ทนายได้ทำหน้าที่แล้ว ท่านก็มีคำถามที่ได้ถามความด้วยตัวเอง
ส่วนการสืบพยานนัดแรก ถือว่าราบรื่นเป็นไปด้วยดี ศาลก็ออกข้อกำหนดให้พิจารณาเป็นการลับ ตนพูดถึงกระบวนการพิจารณาไม่ได้ ทั้งเรื่องการสืบพยานเป็นอย่างไร สืบใครบ้าง ซึ่งวันนี้ได้มีการสืบพยานไปแล้ว 3 ปาก พรุ่งนี้ (2 ก.ค. 2568) จะมีการสืบพยานอีก 4 ปาก ทั้งเช้าและบ่าย ส่วนวันสุดท้ายก็ 3 ปาก ซึ่ง นายทักษิณ ก็จะเดินทางมาในนัดสืบพยานทััง 3 วัน จนกว่าจะจบกระบวนการพิจารณา
เมื่อถามว่า มีท่าทีที่จะให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนหรือไม่ นายวิญญัติ ตนไม่ทราบ ส่วนตีวมองว่าท่านอยากจะมาศาล ก็เป็นการมาทำหน้าที่ตามกระบวนการ ส่วนการนัดคุยกับสื่อฯ ตนไม่ได้คิดว่าอยากคุยหรือไม่อยากคุย ซึ่งทั้งหมดขึ้นอยู่กับกระบวนการพิจารณา ถ้าตนไม่มีหน้าที่ทนายความ ตนก็จะไม่มาให้ข่าว แต่ส่วนตัวตนในฐานะทนายความทำหน้าที่ในการสื่อสาร อะไรที่พูดได้ก็จะพูด และตนไม่สามารถตอบได้ เพราะเป็นสิทธิ์ของท่าน แต่ยืนยันว่านายทักษิณมาสืบพยานทุกนัด
เมื่อถามว่า นายทักษิณ ทราบหรือยังว่าศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี หยุดปฎิบัติหน้าที่ นายวิญญัติ เผยว่า น่าจะทราบแล้ว แต่ตนไม่ได้คุยกับท่านเลย แล้วก็ยังไม่มีอาการตกใจใดๆ เหมือนเมื่อเช้า ดูสบายๆ
สำหรับการสืบพยานนัดแรก มองแนวโน้นเรื่องของคดีคิดว่าจะชนะได้หรือไม่ นายวิญญัติ เผยว่า ตนไม่สามารถบอกได้ ขอให้สืบพยานโจทก์เสร็จก่อน แม้จะสืบเสร็จก็ไม่สามารถบอกได้ว่าชนะคดีหรือไม่ เนื่องจากเรื่องนี้เป็นดุลพินิจของศาลที่จะชั่งน้ำหนักพยานหลักฐานที่โจทก์นำมาฟ้องเพียงพอเชื่อได้หรือไม่ว่าทำความผิดจริง ยืนยันว่า นายทักษิณ ไม่หนักใจตั้งแต่แรก ท่านถูกกระทำตกเป็นเหยื่อ และไม่สมควรจะฟ้องตั้งแต่แรก
เมื่อถามว่า ศาลให้เหตุผลทำไมถึงต้องพิจารณาเป็นคดีลับ นายวิญญัติ กล่าวว่า ตนบอกไม่ได้ เพราะเกี่ยวข้องกับกระบวนการพิจารณา มีเหตุผลอยู่แล้ว แต่บอกเหตุผลของศาลไม่ได้ คาดว่าเป็นเรื่องเกี่ยวข้องกับข้อหาที่กระทบ พร้อมยืนยันว่า ไม่กังวลว่าจะกระทบกับเรื่องการเมือง คดีที่เกี่ยวข้องกับเรื่องอื่นไม่ใช่หน้าที่ตนต้องแยกแยะ แค่คดีนี้ที่ตนรับผิดชอบไม่กังวลเลย ตั้งแต่รับทำคดี การทำหน้าที่วันนี้มีโอกาสต่อสู้ได้ดีขึ้น เพราะพยานหลักฐานต่างๆ ในสำนวนได้เห็นแล้ว ได้ตรวจแล้วมีเอกสารบางอย่างไม่หนักใจ
Advertisement