"ภูมิธรรม" มองเป็นสิทธิ์พรรคภูมิใจไทย ยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ ไม่หวั่นถูกนำข้อมูลตอนเป็นรัฐบาลมาเปิดเผย แนะเอาเวลาไปแก้เรื่องที่ดินของตัวเองดีกว่า
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีพรรคภูมิใจไทยเตรียมยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีทั้งคณะ ตามมาตรา 151 ภายหลังเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎร ว่า ก็เป็นสิทธิ์ตามข้อบังคับของสภา สภาบอกมีสิทธิ์ให้เสนอก็เสนอได้ซึ่งก็ต้องมีเสียงที่เพียงพอเป็นอำนาจของสภา
เมื่อถามว่ามีความกังวลหรือไม่เพราะรัฐบาลก็เคยร่วมงานกับพรรคภูมิใจไทยอาจจะถูกนำข้อมูลสมัยที่เป็นรัฐบาลมาเปิดเผยได้ นายภูมิธรรม ย้อนถามว่า ข้อมูลของเขาทำหรือข้อมูลใครทำ เขาจะไปรู้ข้อมูลของคนอื่นได้อย่างไร เขาก็คงรู้เรื่องที่เขาทำว่าทำอะไรดีก็จะได้พูดได้ แต่เรื่องของคนอื่นเขาจะไปรู้อะไรได้ยังไง เพราะเราทำงานทั้งหมดด้วยความบริสุทธิ์ใจ เรามั่นใจในตัวของเราที่ทำงาน ก็มีแต่ข้อมูลของเขาซึ่งเราไม่รู้รายละเอียด ก็ต้องให้ว่าไปว่าเขามีอะไรซึ่งก็มีเรื่องที่ต้องทำความเข้าใจชี้แจงหลายเรื่องในกระทรวงมหาดไทยทั้งเรื่องที่ดินและเรื่องอะไรต่าง ๆ ตนคิดว่า พรรคภูมิใจไทยควรไปตรวจเตรียมแก้ปัญหาของเขาก่อนดีกว่า
ส่วนการยื่นขอเปิดอภิรายในครั้งนี้เร็วเกินไปหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ก็แล้วแต่ถ้ามีสิทธิ์ก็เปิดได้ เราไม่ได้กังวลเรื่องนี้ เราทำงานเต็มที่
เมื่อถามว่าหนักใจหรือไม่เพราะตอนนี้เจอศึกทั้งในและนอกประเทศ นายภูมิธรรม ระบุว่า ตนไม่ได้ห่วงอะไรจะไปหนักใจได้อย่างไร
เมื่อถามว่า มั่นใจหรือไม่ว่าเสียงของรัฐบาลจะผ่านการอภิปรายในครั้งนี้ได้ นายภูมิธรรม ระบุว่า "มั่นใจสิครับ ไม่เช่นนั้นจะตั้งครม.ได้หรอ"
เมื่อถามย้ำว่า มั่นใจใช่หรือไม่ว่าเสียงรัฐบาลจะไม่แตกแถว นายภูมิธรรม ตอบว่า มีแต่สื่อที่กลัวแตกแถว รัฐบาลไม่เคยกลัวแตกแถวเดินหน้าตลอด
ส่วนกรณีที่มีการเลื่อนพิจารณาร่างพระราชบัญญัติสถานบันเทิงครบวงจรออกไปก่อน โดยมีการมองว่าเพราะเสียงในสภาอาจจะไม่พอ นายภูมิธรรมระบุว่า ต้องแยกการบริหารกับเรื่องนิติบัญญัติ ฝ่ายนิติบัญญัติจะเลื่อนการพิจารณาขึ้นหรือลงจะทำอะไรเขามีเหตุผล ในการเสนอให้สภาพิจารณา ส่วนฝ่ายบริหารกฎหมายไหนที่เราเสนอเข้าสภาแล้ว ก็ให้จบที่สภาเป็นคนตัดสินใจ อย่าไปมองผสมปนเปกันไป มันก็จะแยกบทบาทไม่ออก ทำให้เราสับสนและเสนอข่าวไม่ตรงกับข้อเท็จจริง
เมื่อถามว่า ยืนยันหรือไม่ที่จะเสนอกฎหมายนิรโทษกรรม นายภูมิธรรมระบุว่า ขอให้สื่อไปดูสิ่งที่ทำมาอะไรที่ยืนยันมันก็ยืนยันเหมือนเดิม จะไปเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาได้อย่างไร
Advertisement