วันนี้ (10 มิถุนายน 2568) นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่ากระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวถึงกรณี มีรายงานว่าคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) รับเรื่องไต่สวนการทุจริตแผนการใช้งบประมาณ ที่มีตนเองเป็นผู้อนุมัติเสนอเข้าที่ประชุม ครม. ว่า จริงๆแล้วกระบวนการของที่ไปที่มาของเงิน 53,000,000,000 บาท มีความชัดเจน โครงการนี้เริ่มจากหน่วยงานต่างๆ ได้คีย์เข้าระบบใน Thai Water Plan ซึ่งเป็นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับเรื่องน้ำ ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงมหาดไทย กรมชลประทาน กรมทรัพยากรน้ำ ที่หลังจากโครงการทั้งหมดรวมกันแล้ว ก็มีขั้นตอนต่อไป ที่จะนำเข้าสู่คณะกรรมการพิจารณาระดับจังหวัด
ซึ่งก็มีคณะกรรมการเป็น 100 คน มีทั้งผู้ทรงคุณวุฒิ ที่เป็นภาคประชาชน แล้วก็ข้าราชการที่พิจารณาส่วนหนึ่ง และหลังจากนั้นก็ต้องเข้าสู่คณะกรรมการลุ่มน้ำอีก ก่อนที่จะเข้าคณะกรรมการ ทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.)อีก ซึ่งตนในฐานะที่เป็นประธาน ก็ได้ลงนามเพื่อที่จะนำเข้า ตอนนั้นยอดทั้งหมด 53,000,000,000 บาท และถูกตัดออกมาเหลือ 7,000,000,000 บาท ก่อนที่สำนักงบประมาณได้นำไปกลั่นกรองดูอีก ว่าโครงการไหนที่มีความจำเป็นเร่งด่วน ที่จำเป็นต้องเร่งทำ เพื่อแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน ก็ถูกสำนักงบประมาณที่จะต้องมาวิเคราะห์อีกครั้งหนึ่ง จนเป็นที่ไปที่มา และยืนยันว่าไม่มีเรื่องของผู้แทนฯ ที่เข้าไปเกี่ยวข้องแต่อย่างใด
เมื่อถามว่าใครเป็นผู้ร้องในเรื่องนี้ นายประเสริฐระบุว่าตนไม่ทราบ และขณะนี้ยังไม่มีหนังสือจากทาง ป.ป.ช. มาถึงตนแต่อย่างใด ตนเองก็ทราบจากรายงานข่าว จริงๆแล้วตนมองว่าเรื่องนี้ก็ยังไม่อยากให้เป็นประเด็น ขอให้มีความชัดเจนจาก ป.ป.ช. ก่อน พร้อมทั้งยืนยันว่า “ผมยังไม่ได้รับหนังสือ”
ผู้สื่อข่าวถามว่า รายงานข่าวออกมาในช่วงที่มีกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี ที่มีชื่อนายประเสริฐ จะนั่งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายประเสริฐกล่าว ตนไม่อยากให้มองอย่างนั้น เพียงแต่การพิจารณาปัญหาภัยแล้ง เป็นการแก้ไขปัญหาของประชาชน เราก็อยากจะดำเนินการด้วยความรวดเร็ว เพราะขณะนี้อยู่ใกล้สิ้นปีงบประมาณ หากไม่ได้ดำเนินการก็เกรงว่าประชาชน ก็จะยังได้รับประโยชน์
ส่วนจะต้องไปตรวจสอบที่มาของรายงานข่าวนี้อย่างไรหรือไม่ นายประเสริฐกล่าวว่า เรื่องการตรวจสอบนี้ตนยินดีให้การตรวจสอบ แต่ตนก็ยังไม่เห็นหนังสือ ของผู้ร้อง เพราะฉะนั้นในรายละเอียดเรื่องนี้ตนยังไม่ทราบว่า เป็นการดิสเครดิต หรือเป็นการทำให้เกิดผลทางการเมืองอย่างไรหรือไม่ ตนไม่ทราบจริงๆ
เมื่อถามย้ำว่าการที่มีข่าวปล่อยออกมาอย่างนี้ระหว่าง กระแสข่าวปรับคณะรัฐมนตรี นั้นมองเป็นเรื่องเกมการเมืองอย่างไรหรือไม่ นายประเสริฐย้ำว่า ไม่อยากให้มองอย่างนั้น เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องการแก้ไขปัญหาภัยแล้ง ให้กับประชาชน เป็นเรื่องที่สำคัญ
เมื่อถามว่าโครงการดังกล่าวจริงหรือไม่ที่มีการแปรญัตติงบประมาณให้กับสส.ในการลงพื้นที่ ตามที่รายงานข่าวระบุออกมา นายประเสริฐยืนยันว่า ไม่มีการแปรญัตติ เพราะได้ผ่านคณะกรรมการจังหวัด ซึ่งก็ไม่มีองค์ประกอบที่เป็นสส. ซึ่งโครงการก่อนที่จะมาถึงตนนั้น หน่วยงานก็เป็นผู้ขอมาเอง และก็ผ่านคณะกรรมการลุ่มน้ำอีกขั้นหนึ่ง
ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกต ว่างบประมาณจะลงไปยังพื้นที่ ส่วนใหญ่เป็นของ สส. พรรคเพื่อไทย นั้น นายประเสริฐกล่าวว่า ไม่นะครับ จริงๆถ้าเอางบประมาณมากางดูนั้น ได้หลายพื้นที่เลย ไม่ใช่เฉพาะแต่สส.พรรคเพื่อไทย แต่เนื่องจากว่าปัญหาภัยแล้งส่วนใหญ่ปรากฏที่บริเวณภาคอีสาน และภาคเหนือบางส่วน ในความเป็นจริงก็มีการกระจายตัว ไม่ได้ว่าจะต้องพื้นที่ของพรรคเพื่อไทยโดยเฉพาะ ถ้าไปดูก็เห็นชัด
นายประเสริฐ กล่าวต่อว่า หาก ป.ป.ช. เรียกให้ไปชี้แจงตนก็พร้อม จะไปชี้แจง และยินดีให้ตรวจสอบเรื่องนี้ไม่เป็นประเด็นอะไร และไม่ได้หนักใจอะไร รวมทั้งขอยืนยันไม่มีสส.เข้ามาเกี่ยวข้องแต่อย่างใด
Advertisement