(3 มิ.ย. 2568) ตั้งแต่ช่วงเช้า กะเหรี่ยง KNLA ใช้อากาศยานไร้คนขับ (โดรน) ทิ้งระเบิด และรวมกำลังเข้าโจมตี ด้วยปืนเล็ก, ปืนกล, เครื่องยิงจรวด และปืนซุ่มยิง ต่อที่ตั้งทหารเมียนมา กองบังคับการยุทธวิธีที่ 443 และ กองพันทหารราบที่ 32 ฐานทิบาโบ บ.ทิบาโบ อ.ซูการี จ.เมียวดี รัฐกะเหรี่ยง สหภาพเมียนมา
ด้านทหารเมียนมายิงปืนใหญ่สนับสนุนจำนวน 16 นัดเพื่อป้องกันฐาน เสียงการต่อสู้ดังสนั่นได้ยินอย่างชัดเจน ตลอดแนวชายแดน จนถึงตัวอำเภอพบพระ ซึ่งการสู้รบอยู่บริเวณด้านตรงข้าม บ.หมื่นฤาชัย ม.5 ต.พบพระ อ.พบพระ จ.ตาก ห่างจากแนวชายแดนไทยประมาณ 1 กิโลเมตร
โดย กะเหรี่ยง KNLA มีความประสงค์จะทำการผลักดันทหารเมียนมาออกจากพื้นที่รัฐกะเหรี่ยง ซึ่งปัจจุบันยังคงเหลือที่ตั้งฐานทหารเมียนมาอยู่บริเวณ อ.ซูการี จ.เมียวดี ด้านตรงข้าม อ.พบพระ และ อ.อุ้มผาง จ.ตาก เพียง 4 ฐานเท่านั้น ได้แก่ ฐานทิบาโบ ,ฐานอูเกรทะ ,ฐานทีตาแหล่ และฐานทีกะเป่อร์
ทั้งนี้ เมื่อเครื่องบินขับไล่ของทางทหารเมียนมา ใกล้เข้าแนวเขตชายแดนประเทศไทยทาง กองทัพอากาศไทย ใช้เครื่องบินรบ F16 จำนวน 2 ลำ จากกองบิน 4 ตาคลี จ.นครสวรรค์ ขึ้นบินลาดตระเวนบริเวณแนวเขตประเทศไทย เพื่อป้องกันการลุกล้ำอธิปไตย
จากสถานการณ์สู้รบส่งผลให้มีผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมา (ผภสม.) อพยพเข้ามาอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว ในพื้นที่ อ.พบพระ จ.ตาก จำนวน 3 แห่ง รวม 509 คน รายละเอียดดังนี้
1. พื้นที่ปลอดภัยชั่วคราววัดมอเกอร์ไทย ม.1 ต.วาเล่ย์ อ.พบพระ จ.ตาก จำนวน 330 คน
2. พื้นที่ปลอดภัยชั่วคราวโกดังเอกพันธ์ ม.1 บ.มอเกอร์ไทย ต.วาเลย์ อ.พบพระ จ.ตาก จำนวน 123 คน
3. พื้นที่ปลอดภัยชั่วคราวคริสตจักรบ้านหมื่นฤาชัย ต.พบพระ อ.พบพระ จ.ตาก จำนวน 56 คน
โดยหน่วยเฉพาะกิจราชมนู กกล.นเรศวร, ฉก.ตชด.34, ร่วมกับฝ่ายปกครอง, จนท.ตร.สภ.พบพระ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดูแลความปลอดภัย และให้ความช่วยเหลือตามหลักมนุษยธรรม
ด้านหน่วยเฉพาะกิจราชมนู กองกำลังนเรศวร เพิ่มเติมกำลังลาดตระเวน และเฝ้าตรวจในพื้นที่ นำอาวุธยิงสนับสนุนเข้าที่ตั้งตามแผนเผชิญเหตุ เพื่อป้องกันการรุกล้ำอธิปไตยของกองกำลังติดอาวุธต่างชาติ และดูแลความปลอดภัยให้กับพี่น้องประชาชน อย่างเต็มกำลังตลอด 24 ชั่วโมง
Advertisement