" โรม " ซัดรัฐบาลบริหาร ไร้ประสิทธิภาพไปต่อยาก อุบตอบยุบสภาฯ
"รังสิมันต์" อุบตอบยุบสภาฯ หลังผ่านงบฯ 69 มองรัฐบาลถูกสนิมกินบริหารไม่มีประสิทธิภาพไปต่อยาก ชี้ "ทักษิณ"อยู่ในประเทศ ก็ไม่ทำให้ดีขึ้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
วันที่ 27 พ.ค. นายรังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน กล่าวถึงการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2569 จะถึงขั้นยุบสภาหรือไม่ว่า ตนยังไม่ได้มองถึงขนาดนั้นว่ารัฐบาลจะยุบสภาด้วยเหตุผลเรื่องงบ แต่สถานการณ์ที่เกิดขึ้นภายในรัฐบาลสนิมกัดกินรัฐบาลข้างในอย่างหนักเป็นบทพิสูจน์ให้เห็นว่ารัฐบาลนี้บริหารไม่มีประสิทธิภาพในแง่ของนโยบาย และแง่การบริหารงานภายใน จนทำให้รัฐบาลดำรงชีพต่อไปก็ยากขึ้นทุกที จึงเป็นปัญหาที่รัฐบาลนี้บริหารงานไม่ได้ การที่มีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี อยู่ในประเทศไทยไม่ได้ช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้นอาจแย่ลงด้วยซ้ำไป เมื่อเป็นแบบนี้อะไรก็เกิดขึ้นได้ จะยุบสภาด้วยเหตุผลอะไรก็เกิดขึ้นได้หมด
นายรังสิมันต์ ยังกล่าวว่า อีก 1 เรื่องที่ต้องจับตามองคือสิ่งที่รัฐบาลทำตัวเองและทำให้บ้าเนมืองเกิดปัญหามากขึ้นคือเรื่องกาสิโน ที่เมื่อเปิดสภามาจะเป็นวาระแรกในการพิจารณาเรื่องเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ จึงเกิดคำถามว่าช่วงที่ปิดสมัยประชุมสภารัฐบาลได้ทำความเข้าใจกับประชาชนให้มากขึ้นหรือไม่ รัฐบาลมีแนวโน้มที่จะทำให้เรื่องนี้เกิดความโปร่งใสมากขึ้นหรือไม่ก็ไม่มี หรือรัฐบาลพยายามจัดการกลุ่มสีเทาได้มากขึ้นหรือไม่ก็แทบจะไม่มีเลย เราเห็นกรณี สตง.แม้มีการออกหมายจับ แต่ก็ไม่มีหลักประกันว่าจะไม่มีกรณีเช่นนี้เกิดขึ้นอีก รัฐบาลแทบไม่มีมาตการอะไรเลย หากฝีไม่แตก ก็แทบไม่รู้ว่ามีโรค หรือมีอาการอะไร ปัญหาที่รัฐบาลกำลังเจอในขณะนี้เยอะมากเหมือนรัฐบาลไม่สามารถบริหารได้จึงคิดว่าเมื่อรัฐบาลผลักดันเรื่องกาสิโน ก็อาจจะทำให้สถานการณ์ภาพรวมของประเทศอยู่ในอาการที่เลวร้ายลงไปอีก และทำให้ประชาชนยิ่งตั้งคำถามว่าไม่เห็นหรือไม่ว่ากำลังเจอกับทุนจีนสีเทา ทำไมรัฐบาลจึงอยากผลักดันเป็นเรื่องที่อยากให้ประเทศมีเงินเข้ากระเป๋ามากขึ้น หรืออยากให้ใครบางคนในรัฐบาลมีเงินเข้ากระเป๋ามากขึ้นเพื่อเตรียมความพร้อมสู่การเลือกตั้งในรอบต่อไป
เมื่อถามถึงความร้ายหมายถึงการที่มวลชนออกมาต่อต้านหรือไม่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ตนไม่สามารถคาดคะเนไปถึงจุดนั้นได้ คิดว่าสถานการณ์นี้ดีที่สุดคือรัฐบาลควรฟังเสียงทางสังคม เสียงของประชาชนเพราะจริงๆแล้วเรื่องเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ไม่ใช่เรื่องของพรรคเพื่อไทยเท่านั้น แม้กระทั่งพรรคร่วมรัฐบาลเองก็ส่งสัญญาณเป็นระยะว่าไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้ ดังนั้นอย่าไปมองที่ว่าการยกมือโหวตในสภาแล้วจะจบ หากไม่มีความชอบธรรมเชิงเนื้อหา และเชิงคุณภาพ ก็จะทำให้ประชาชนไม่เห็นด้วยในสิ่งที่รัฐบาลทำ และการที่ประชาชนไม่เห็นด้วยนั้นจะก่อให้เกิดวิกฤติศรัทธา เมื่อรัฐบาลอยากผลักดันอะไรจะทำให้ยากขึ้น โอกาสทำงานให้สำเร็จเป็นไปไม่ได้เลย รวมไปถึงการเมืองในวันนี้ที่ต้องยอมรับว่ามีฝ่ายต่างๆพร้อมที่จะใช้ทุกรูปแบบรัฐบาลต้องพิจารณาให้รอบด้าน
เมื่อถามว่า การที่นายสนธิ และ นายจตุพร รวมกลุ่มกันจะเกิดเหตุการณ์ทางการเมืองอย่างไรบ้าง นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ตนขอไม่คาดเดา เพราะจะกลายเป็นว่าการคาดเดายิ่งทำให้ทุกคนหยิบมาประเมินให้เลวร้ายลง ส่วนตัวเราคือฝ่ายค้านไม่ได้เห็นด้วยกับการทำงานของรัฐบาลในหลายเรื่อง แต่เราเองอยากเห็นการเมืองที่มีเสถียรภาพ มองว่าการเมืองที่มีเสถียรภาพนั้นดีต่อประชาชน ควรใช้กลไกที่ปกติ และอยากเห็นรัฐบาลรับฟังเสียงประชาชน จึงไม่อยากรีบคาดคะเนว่าอะไรจะเกิดขึ้น
Advertisement
