(27 พ.ค. 2568) นายรังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชนให้สัมภาษณ์ถึงกรณที่ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด หรือ ป.ป.ส. เชิญ นายทักษิณ ชินวัตร ปาถกฐาในหัวข้อยาเสพติดอาชกรรมข้ามชาติ มุมมองอละความ้ทาทายต่อการแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน โดยมองว่าเรื่องนี้ควรเป็นบทบาทของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และต้องยอมรับว่าปัญหายาเสพติดมันหนักเรื่องนี้ไม่มีใครเถียง ทั้ง สส.และ ประชาชนทั่วไปก็ทราบกันว่าปัญหายาเสพติดเยอะจริง แต่สิ่งสำคัญคืออยากเห็นแนวนโยบายแก้ปัญหายาเสพติดว่านางสาวแพทองธารจะมีแนวคิดในการแก้ปัญหายาเสพติดอย่างไร
ดังนั้นการที่อยู่ๆ นายทักษิณ จะได้รับเชิญจาก พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ตนคิดว่าทำไมแทบไม่เห็น น.ส.แพทองธาร แสดงออกซึ่งวิสัยทัศน์เช่นนี้เลย จริงๆ เวทีนี้ควรให้นายกฯ เป็นผู้แสดงออกหรือไม่ การที่จะให้นายทักษิณมาพูดให้ประชาชนฟังโดยหยิบยกเอาสงครามยาเสพติดที่เคยทำตอนเป็นนายกรัฐมนตรีคิดว่าไม่ใช่โมเดลที่ดี ซึ่งจะเห็นจากอดีตที่เกิดขึ้นจากประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ที่ถูกออกหมายจับและปัจจุบันถูกคุมขังอยู่ ดังนั้นการที่นายทักษิณจะมาโชว์วิสัยทัศน์ จึงไม่แน่ใจว่าจะนำเรื่องการฆ่าคนจำนวนมากในยุคสงครามยาเสพติดคิดว่าไม่ใช่ตัวอย่างที่ดี
"จริงๆ วันนี้เป็นวันที่คุณอุ๊งอิ๊งค์ซึ่งเป็นลูกสาวของคุณทักษิณ ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีแล้ว ถ้าให้โอกาสนี้เป็น คุณอุ๊งอิ๊งค์ แสดงวิสัยทัศน์จะเป็นประโยชน์ต่อทั้งประชาชน และต่อทั้งคุณอุ๊งอิ๊งค์ที่ดำรงตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรี การที่บิดาของตนเองยังทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ ผมคิดเหมือนกับที่หลายคนวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นสิ่งที่ทำให้การด้อยค่าคุณอุ๊งอิ๊งค์ ทำให้คุณอุ๊งอิ๊งค์ ไม่อยู่ในสภาวะที่ประชาชนรู้สึกว่านี่คือนายกรัฐมนตรีของเขาหรือเปล่า ผมคิดว่านายทักษิณควรจะหัดปล่อยมือบ้าง ปล่อยมือให้ลูกสาวตัวเองขึ้นมาพิสูจน์ฝีมือบ้างไม่ใช่เข้ามาทำนู่นทำนี่แทนลูกสาว ราวกับว่าลูกสาวเป็นนอมินีของตัวเอง" นายรังสิมันต์กล่าว
ส่วนที่บอกว่า นายกรัฐมนตรี ติดภารกิจนั้น นายนายรังสิมันต์ กล่าวว่า ก่อนจะจัดงานก็สามารถคุยกันก่อนได้ คิดว่าการอ้างติดภารกิจไม่ใช่สาระสำคัญ หาก น.ส.แพทองธาร อยากแสดงวิสัยทัศน์ก็ทำได้อยู่แล้วสามารถคุยกันได้ แต่ปัญหาคือวันนี้ไม่ใช่ครั้งแรก แต่ยังมีอีกหลายเรื่องที่อยากรู้ว่านางสาวแพทองธารมีแนวทางและวิสัยทัศน์อย่างไร วันนี้เราแทบไม่ได้เห็นเลย มารู้จากปากของนายทักษิณ ที่ชอบเริ่มว่า น.ส.แพทองธาร เล่าให้ฟังอย่างนั้น อย่างนี้ แต่สุดท้ายไม่เคยได้ยินจากปากของนายกฯ จึงสงสัยว่านายกฯเป็นอะไร ทำไมเรื่องที่ชอบคุยกับพ่อ ถึงไม่คุยให้ประชาชนฟังบ้าง จึงเป็นเรื่องที่แปลกประหลาด มองว่าเป็นแค่วิธีการที่ นายทักษิณ ใช้หลบเลี่ยงไม่ให้ใครไปดำเนินการทางกฎหมายว่า นายทักษิณ ครอบงำ น.ส.แพทองธาร
โดย นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ความเป็นจริงต่างรู้กันดีว่า น.ส.แพทองธาร ไม่ได้มีวิสัยทัศน์ใดในการบริหารประเทศ ดังนั้นในเรื่องยาเสพติด ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่ซึ่งหวังว่าจะไม่ใช้แนวทางการเข่นฆ่าคนจำนวนมากที่เคยทำมาในอดีต ควรเปิดโอกาสให้รุ่นลูกออกจากใต้เงาบิดาตนเอง เพื่อแสดงวิสัยทัศน์ว่า วันนี้จะแก้ปัญหายาเสพติดอย่างไร ตนอยากฝากไปถึงทุกคนว่าต้นตอของยาเสพติดเกิดจากกลุ่มว้าที่วันนี้เป็นกลุ่มที่ผลิตยาเสพติดใหญ่อันดับต้นของโลก ที่ไม่ได้มีปัญหาเฉพาะยาเสพติด แต่อย่างปัญหาแม่น้ำกกที่มีสารพิษก็เกิดจากกลุ่มว้าที่ปล่อยให้ทุนจีนเทาเข้าไปทำเหมือง
วันนี้เรารู้แล้วว่า กลุ่มว้า ไม่ต่างกับกลุ่มอาชญากรข้ามชาติ หรือผู้ก่อการร้าย นี่คือโอกาสที่ น.ส.แพทองธาร จะได้แสดงภาวะผู้นำในการปราบปรามกลุ่มนี้ แม้กระทั่งการเดินทางไปประชุมอาเซียนก็ควรเป็นหนึ่งในวาระสำคัญที่นากยกฯอาจหารือทวิภาคีเพื่อขอการสนับสนุนในการจัดการสิ่งเหล่านี้ ดังนั้นจึงคิดว่ามีหลายเวที หลายโอกาสที่ น.ส.แพทองธาร จะได้แสดงวิสัยทัศน์ ตนไม่อยากให้ นายทวี ไปด้อยค่าจนสุดท้าย น.ส.แพทองธาร ไม่เหลือพื้นที่อะไรเลยให้แสดงวิสัยทัศน์ให้ประชาชนเห็นในฐานะนายกรัฐมนตรี มีพื้นที่ให้ นายทักษิณ แต่ไม่มีพื้นที่ให้นายกฯ ตนมองว่าประหลาด
เมื่อถามว่ามองการที่ นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ชื่นชม นายทักษิณ กลางเวทีที่ประชุมอาเซียนเป็นอย่างไรนั้น นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ในเวทีระหว่างประเทศไม่ด่ากันตรงๆ อยู่แล้วชมกันเป็นเรื่องธรรมดา นายทักษิณ เองก็เป็นที่ปรึกษาของ นายอันวาร์ จะด้วยสาเหตุอะไรก็แล้วแต่ตนคิดว่าเรื่องชมกันในเวทีระหว่างประเทศมีอยู่ตลอดเวลาไม่ใช่สารัตถะอะไรที่จะเอามาใส่ใจ สิ่งที่รัฐบาลต้องการมากที่สุดคือคำชมจากประชาชน และความเชื่อมั่นจากพี่น้องประชาชน วันนี้เราเจอภัยหลากหลายรูปแบบทั้งเศรษฐกิจอาชญากรรม อาชญากรข้ามชาติ กลุ่มว้า จีนเทา ดังนั้นประเทศไทยเจอความท้าทายหลายมิติสิ่งต้องการเห็นคือเมื่อไหร่รัฐบาลจะแก้ปัญหาเหล่านั้นได้ คุยกันให้ชัดว่าช่วงเวลาไหนจะมีความคืบหน้าเพื่อให้ประชาชนเห็น
เมื่อถามว่าจับสัญญาณการเมืองอย่างไรกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นขณะนี้ทั้งเรื่องของ นายทักษิณ และเรื่องของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ต้องยอมรับว่าถ้าให้ตนประเมินเห็นว่าแนวโน้มแย่ แม้กระทั่งข้าราชการและคนทำงานรู้สึกเช่นเดียวกันว่ารัฐบาลขาดเสถียรภาพหรือไม่เพราะสุดท้ายเรื่องเก่าที่เคยเกิดขึ้นมานานแล้ว วันนี้เริ่มออกดอกออกผลอาจทำให้รัฐบาลนี้เจอกับแรงกดดันหลายรูปแบบ บางเรื่องต้องยอมรับว่าอาจจะเป็นนิติสงครามที่เกิดขึ้นโดยอาจมีปัจจัยอื่นเช่น การรัฐประหารปี 57 แต่บางเรื่องเป็นเรื่องที่ทำตัวเอง เช่นกรณี ชั้น 14 วันนี้ต้องยอมรับว่าทั้งเรื่องที่ทำตัวเองและเรื่องที่ไม่ได้รับความยุติธรรมกำลังประดังเข้ามาใส่รัฐบาลนี้ คิดว่าน่าเป็นห่วงว่าการเมืองจะเกิดอะไรขึ้น ซึ่งตนก็มองคล้ายกับหลายคนว่าการเมืองขาดความแน่นอนทำให้นโยบายต่างๆ บรรลุได้ยาก
Advertisement