วันที่ 20 พ.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล พันตำรวจเอกทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึง การที่คณะอนุกรรมการ กกต. คดีฮั้ว สว. ออกหมายเรียก รัฐมนตรี สว. และ สมาชิกพรรคภูมิใจไทย ว่า กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ไม่ได้รายงานตนแล้ว เพราะต้องปฏิบัติตามคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญ จึงไม่ได้มีการสื่อสาร ติดตามจากการอ่านข่าว ซึ่งดีเอสไอคงจะมีการรายงานปลัดกระทรวงกระทรวงยุติธรรมแทน
ส่วนคดีที่มีการดำเนินการก่อนหน้านี้ รัฐมนตรีไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยว ซึ่งเป็นเรื่องที่ดี เพราะเราต้องการยกระดับหลักยุติธรรมของประเทศ ไม่ว่าจะเป็นรัฐสภาศาล ศาล รัฐบาลหรือองค์กรอิสระ เจ้าหน้าที่รัฐจะต้องปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ กฎหมายและหลักนิติธรรม การใช้กฎหมายจะละเมิดศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ไม่ได้ ซึ่งรัฐธรรมนูญระบุว่า ทุกภาคส่วน ต้องปฏิบัติตามและบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีเพราะทำให้สังคม หันมาทบทวนองค์กรว่า ตัวเองอยู่ในหลักกฎหมายรัฐธรรมนูญหรือไม่ ซึ่งเป็นกฎหมายสูงสุด ต้องศักดิ์สิทธิ์ที่สุด และเป็นเรื่องที่ดีที่ศาลรัฐธรรมนูญ ไม่ให้เข้าไปกำกับดูแลดีเอสไอชั่วคราว ก็ไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยว
ส่วนในมุมการเมืองที่ผ่านมา อาจจะถูกมองว่าเข้าไปเกี่ยวข้อง และเมื่อไม่ได้ดูดีเอสไอและดีเอสไอยังดำเนินการออกหมายเรียกนักการเมือง รัฐมนตรี ในคดีฮั้ว สว. ไปให้ปากคำจะทำให้เห็นชัดว่าไม่ได้เกี่ยวกับตนเอง พันตำรวจเอกทวี ยอมรับว่า จะทำให้ทุกคนสบายใจ เมื่อทุกคนไม่ค่อยสบายใจ เมื่อเราไม่เข้าไปยุ่งทุกหน่วยก็ต้องปฏิบัติตามกฏหมาย
และเมื่อถามย้ำว่ามีผลกระทบอะไรหรือไม่ ในการไม่ให้ปฏิบัติหน้าที่ พันตำรวจเอกทวี กล่าวว่า หน้าที่หลักของกระทรวงยุติธรรมคือ ต้องปฏิบัติและบังคับใช้กฎหมาย ที่สำคัญคือนโยบายรัฐบาล ซึ่งมีหลายเรื่องที่เกี่ยวกับกระทรวงยุติธรรมก็จะเป็นโอกาสดี ยกระดับปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม ทั้งเรื่องยาเสพติด การคุ้มครองสิทธิเสรีภาพ ยกระดับหลักนิติวิทยาศาสตร์ การพัฒนาพฤตินิสัย เพื่อไม่ให้นำผู้ต้องขังไปขังรวมกับผู้ต้องขังเด็ดขาด ซึ่งรัฐธรรมนูญยังถือว่าเขาเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่ จึงถือโอกาสที่จะปฏิรูปกรมราชทัณฑ์
ส่วนขั้นตอนของศาลรัฐธรรมนูญจะใช้เวลานานหรือไม่ พันตำรวจเอกทวีกล่าวว่า ตนไม่เคยประสานกับศาลรัฐธรรมนูญ เพราะมั่นใจในความบริสุทธิ์ใจของเรา จึงอยากจะสื่อสารไปถึงทุกคน ในภาวะบ้านเมืองที่มีการหวาดระแวงกัน การใช้กฎหมายจึงสำคัญ และฝากถึงข้าราชการต่างๆ บ้านเมืองจะเจริญได้ อิทธิพลหรืออำนาจ ความไม่ดีหรือความชั่วร้ายต่างๆ จะแข็งแกร่งเหนือกฎหมายไม่ได้ โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่และข้าราชการที่อยู่ในตำแหน่ง จะต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างตรงไปตรงมา ปราศจากอคติ เรื่องความยุติธรรมความกล้าหาญ
และเมื่อถามว่ารัฐมนตรีคนใหม่ที่จะถูกตั้งให้ไปกำกับดูแลดีเอสไอ จะทำให้มีปัญหาในเรื่องการประสานงาน ในการทำงานหรือไม่ พันตำรวจเอกทวีบอกว่าไม่มีปัญหา และบรรยากาศในคณะรัฐมนตรี ทุกฝ่ายก็ยังดีกัน ไม่มีการแบ่งพรรคโน้นพรรคนี้
และเมื่อผู้สื่อข่าวถามต่อว่า ล่าสุดเมื่อวานนี้ คณะอนุกรรมการ ฮั้ว สว. ที่มีดีเอสไอร่วมด้วย ได้ออกหมายเรียก รัฐมนตรีพรรคภูมิใจไทย ซึ่งนายอนุทิน ชาญวีรกูล ก็ยืนยันว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องการเมือง แต่แต่ปีมะโว้ ยังสามารถทำงานร่วมกันได้อยู่ใช่หรือไม่ หรือจะอยู่กันแบบนี้จนครบวาระ พันตำรวจเอกทวี กล่าวว่า “ผมไม่มีความรู้สึกแบบนั้น เมื่อวานนี้ก็นั่งคุยกับท่านอนุทิน ท่านยังเล่าให้ฟังถึงเรื่องการไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล ได้เล่าและชื่นชมโรงพยาบาลที่ท่านไปรักษาตา”
ขณะเดียวกันพันตำรวจเอกทวี ยังกล่าวถึง กระแสข่าวกรณีนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้มีการประสานขอกลับเข้าประเทศหรือไม่ ว่า ไม่มีครับ
Advertisement