วันที่ 7 พ.ค. ที่อาคารรัฐสภา นายจาตุรนต์ ฉายแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญเพื่อพิจารณาศึกษาและเสนอแนวทางการส่งเสริมกระบวนการสร้างสันติภาพเพื่อแก้ไขปัญหาความขัดแย้งในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ กล่าวถึงผลการประชุม ว่า ในกรณีความรุนแรงที่เพิ่งเกิดในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นเรื่องที่ประชาชนให้ความสนใจอย่างมาก เพราะเป็นเหตุการณ์ที่สะเทือนใจ และประชาชนในพื้นที่ก็มีความห่วงกังวล เรื่องความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ขณะที่ประชาชนทั่วประเทศก็มีความห่วงกังวลว่า ความไม่สงบความรุนแรงที่เคยเกิดขึ้นในอดีตจะกลับมาอีก หรือจะลุกลามบานปลายกมธ.ที่ได้มีการติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิดก็ได้มีการแสดงความคิดเห็น ต่อการแก้ปัญหาวิกฤตครั้งนี้
เพราะฉะนั้นวันนี้ในชั้นกรรมาธิการได้มีการพิจารณาเรื่องการให้ความคุ้มครอง ประชาชน และให้เหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม โดยเร็วที่สุดและเป็นไปอย่างสอดคล้องกับหลักนิติธรรม โดยจะให้เกิดความร่วมมือกับทุกฝ่ายทุกภาคส่วน ซึ่งขณะนี้ทางรัฐบาลก็ได้มีนโยบายที่จะดำเนินการการพูดคุยต่อ ซึ่งกรรมาธิการก็เห็นว่าการพูดคุยเป็นกลไกที่สำคัญ แก้ปัญหาความขัดแย้งและความรุนแรง และเราก็สนับสนุนเรื่องนี้ และอยากให้สังคมเข้าใจว่าปัญหา ความขัดแย้งความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นเรื่องที่ซับซ้อนและสะสมกันมา มีปัญหาในหลายด้าน
ขณะที่นางสาวพรรณิการ์ วานิช โฆษกกรรมาธิการ อ่านแถลงการณ์คณะกรรมาธิการ จากเหตุการณ์ความรุนแรงที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ ในพื้นที่โดยมีการสังหาร พลเรือนเด็ก ผู้สูงอายุ ผู้พิการ รวมถึงพระสงฆ์ในศาสนาพุทธ และครูสอนศาสนาอิสลาม ซึ่งได้สร้างความสะเทือนใจแก่ประชาชนในวงกว้าง และทำให้สถานการณ์ชายแดนใต้อยู่ในภาวะ เปราะบางอย่างยิ่ง ประชาชนในพื้นที่ต้องอยู่ในภาวะหวาดระแวง วิตกกังวลต่อความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สิน ในสภาวะเช่นนี้ การใช้สติและเหตุผลในการเผชิญเหตุเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง เพื่อยุติความรุนแรงและแสวงหาทางออกอย่างสันติวิธี
คณะกรรมาธิการขอแสดงจุดยืนต่อสถานการณ์ดังนี้
1. คณะกรรมาธิการขอประณามการใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบและขอแสดงความเสียใจ อย่างสุดซึ้งต่อทุกความสูญเสีย ขอให้ผู้กระทำการหยุดการกระทำดังกล่าว โดยทันที เพราะการใช้ความรุนแรงไม่เพียงแต่ขัดต่อหลักกฎหมาย หลักสิทธิมนุษยชน หลักการทางมนุษยธรรม แต่ยังบ่อนทำลายระบบการสร้างสันติภาพอย่างรุนแรง
2. คณะกรรมาธิการยืนยันว่า ต้องนำผู้กระทำผิดเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม โดยเร็วที่สุดและดำเนินการ ตามหลักนิติธรรมและความโปร่งใส การให้ความเป็นธรรม กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากความรุนแรง ในทุกภาคส่วน ซึ่งจะเป็นบันไดขั้นแรก สู่การคลี่คลายสถานการณ์ ลดความหวาดวิตกไม่วางใจกันและกัน ในพื้นที่
3. คณะกรรมาธิการขอให้เจ้าหน้าที่รัฐ ดำเนินมาตรการอย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยความคุ้มครองและความปลอดภัยต่อชีวิต และทรัพย์สินของประชาชน
4. คณะกรรมาธิการขอ สนับสนุน ให้ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย เข้ามามีส่วนร่วมในการพูดคุยสันติภาพ เพื่อยุติความรุนแรง และสร้างบรรยากาศเพื่อนำไปสู่การแสวงหา ทางออกทางการเมืองร่วมกัน อย่างสันติ ภายใต้กรอบของรัฐธรรมนูญ
5. คณะกรรมาธิการตระหนักว่า ความขัดแย้งรุนแรง ในจังหวัดชายแดนภาคใต้มีความซับซ้อน และต้องการแนวทางการสร้างสันติภาพ ในหลากหลายมิติ รวมทั้งต้องการการมีส่วนร่วมของประชาชน ในทุกภาคส่วนคณะกรรมาธิการ กำลังเร่งจัดทำรายงานที่ครอบคลุม ข้อเสนอทั้งระยะสั้น และระยะยาวอย่างเป็นระบบ เพื่อการสร้างสันติภาพในชายแดนใต้
Advertisement