วันที่ 1 พ.ค. 68 น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดโครงการบริการทุกช่วงวัย ด้วยความห่วงใยจากกระทรวงสาธารณสุข “30 บาท รักษาทุกที่ อสม.มั่นคง สาธารณสุขเข้มแข็ง เพื่อคนไทยห่างไกล NCDs” เขตสุขภาพที่ 4 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 โดยมีอสม.จากเขตตรวจราชการที่ 4 (พระนครศรีอยุธยา นนทบุรี และปทุมธานี) เข้าร่วมกว่าหมื่นคน
โดยนายกรัฐมนตรี ระบุว่า ในปัจจุบันมีวิถีชีวิตของคนไทยเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องพฤติกรรมการกิน การพักผ่อน กิจกรรมต่างๆ ความเคลื่อนไหวของร่างกาย ดังที่มีคำกล่าวที่ได้ยินกันอยู่แล้วว่าความไม่มีโรคคือลาภอันประเสริฐ ถือเป็นเรื่องจริง เมื่อสักครู่รัฐมนตรีได้กล่าวว่า หากประชาชนสุขภาพดีขึ้นงบประมาณก็จะประหยัด เจ้าหน้าที่ที่จะดูแลงานก็จะไม่หนักจนมากเกินไป แต่ความจริงแล้วพวกเราทุกคนไม่ว่าจะเป็นใคร อาชีพใดๆ ก็ตาม ถ้าร่างกายแข็งแรง นั่นคือความสุขที่แท้จริง
เขาบอกว่าร่างกายก็เปรียบเสมือนบ้าน หากบ้านเราสะอาด และปลอดภัย ก็จะสามารถอยู่ได้อย่างมีความสุข ร่างกายแข็งแรงก็เช่นกัน ถ้าร่างกายไม่มีโรค แข็งแรงออกกำลังกายพักผ่อนให้เพียงพอ ก็จะมีแรงมีศักยภาพในการทำงานต่อไปในอนาคต ซึ่งเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องที่รัฐบาลให้ความสำคัญเป็นอย่างมากจึงอยากให้ประชาชนคนไทยทุกคนแข็งแรง
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า อย่างแรกต้องรู้ก่อนว่าสิ่งที่เราบริโภคเข้าไปมีประโยชน์หรือมีโทษให้กับร่างกายอย่างไร จะเห็นได้ว่าเลข ผู้ป่วย NCD เป็นโรคที่ไม่ติดต่อเรื้อรัง แต่มีคนเสียชีวิตจากโรคเหล่านี้มาก แต่จากการปฏิบัติการของสาธารณสุข ทำให้ตัวเลขการเสียชีวิตที่ลดลง ถือเป็นต้นทุนที่สำคัญของประเทศ หากคนแข็งแรงในศักยภาพประเทศชาติก็จะก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคงได้ดียิ่งขึ้น ตนจะขอเน้นย้ำว่าการสื่อสาร และการให้ความรู้ในเรื่องการป้องกันโรคในเรื่องการปฏิบัติตัวให้พ้นจากการเป็นโรคตั้งแต่แรกถือเป็นส่วนที่สำคัญ จึงขอขอบคุณทุกภาคส่วนแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่สาธารณสุขและ อสม. ที่เป็นด่านหน้าที่ทำให้รัฐบาลสามารถติดต่อกับประชาชนได้ และให้ประชาชนได้เข้าใจว่า รัฐบาลมีความต้องการที่จะให้ประชาชนแข็งแรง เพื่อที่จะมีศักยภาพในการช่วยการพัฒนาประเทศต่อไป
นายกรัฐมนตรี ระบุอีกว่า ตนทราบว่าทุกคนทำงานอย่างหนัก เพื่อให้นโยบายเหล่านี้บรรลุผล และให้ประชาชนคนไทยทุกคนมีสุขภาพที่ดี จึงขอขอบคุณที่ทำงานกันอย่างหนักทุกภาคส่วน และที่สำคัญจะมีการเปิดโอกาสให้ประชาชน เข้าถึงบริการสาธารณสุข หลังจากที่มีความรู้และเข้าใจเรื่องราวสุขภาพมากยิ่งขึ้น การเข้าถึงบริการสาธารณสุขจึงเป็นเรื่องที่สำคัญมากๆ จึงอยากให้ทุกคนสามารถเข้าถึงบริการได้ โดยที่ไม่ต้องรู้สึกว่าจะต้องเดินทางไกล หรือ การรับยาเป็นเรื่องที่ไกลเกินไปและทำได้ยาก จึงอยากให้ลดช่องว่างตรงนี้ลง ซึ่งในหลายจังหวัดก็มีการส่งยาถึงที่ และ มีระบบเทเลเมดิซีน หรือการรักษาทางไกล ทำให้ทุกคนเข้าถึงการรักษาและการแพทย์ได้ง่ายยิ่งขึ้น
ขอบคุณอสม.ที่ขับเคลื่อนโครงการของสาธารณสุขมีอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการให้ความรู้ การดูแลชุมชน เป็นสะพานเชื่อมระหว่างรัฐกับประชาชน ซึ่งถือเป็นบทบาทที่สำคัญ ที่จะทำให้ประชาชนได้เปลี่ยนพฤติกรรมเข้าใจเรื่องสุขภาพมากยิ่งขึ้น และอยากให้ทุกคนร่วมแรงร่วมใจสื่อสารข้อความ ความรู้ ที่สำคัญเหล่านี้ไปถึงทุกๆคนทุกพื้นที่ ทำให้คนไทยมีร่างกายที่แข็งแรง ขอบคุณร่วมการทำงานอย่างบูรณา และในทุกนโยบายของรัฐบาลอาศัยทั้งภาครัฐรัฐและฝ่ายเอกชน ภาคประชาชน ทำงานร่วมกันเพื่อให้นโยบายต่างๆ ส่งถึงมือประชาชนอย่างทั่วถึงทั่วประเทศ
อย่างไรก็ตามผู้สื่อข่าวรายงานว่า อสม.ถือเป็นอีกหนึ่งกลไกสำคัญในด้านสาธารณสุข และมีส่วนใกล้ชิดกับประชาชนในพื้นที่ และขณะเดียวกัน ขณะนี้เองก็อยู่ในช่วงการเลือกตั้งท้องถิ่นอีกด้วย
Advertisement