วันนี้ (17ก.พ.68) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีพร้อมด้วย นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง นางสาวซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และคณะ เดินทางมาเยี่ยมชมชุมชนเมืองเก่าสงขลา และพูดคุยประเด็นการส่งเสริมสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ของจังหวัดสงขลา ที่ย่านเมืองเก่าสงขลา ตำบลบ่อยาง อำเภอเมืองสงขลา จังหวัดสงขลา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่บรรดารัฐมนตรีกำลังยืนรอขบวนรถของนายกรัฐมนตรีอยู่นั้น นายจุลพันธ์ ได้สอบถาม น.ส.ซาบีดา ถึงเหตุการณ์นั่งร้านถล่มที่จังหวัดยโสธร
โดยนายอนุทิน กล่าวแซว ว่า เห็นสามีร้องไห้โฮ ผมจึงถามว่าเป็นอะไร เขาจึงบอกว่า ทำไมถึงไม่เป็นอะไร ซึ่งเรียกเสียงหัวเราะ ให้กับรัฐมนตรีที่ยืนรอรับนายกรัฐมนตรี ก่อนที่ น.ส.สุดาวรรณ และนางมนพร จะสอบถามถึงเหตุการณ์ดังกล่าวอีกครั้ง ซึ่ง น.ส.ซาบีดา บอกว่า โชคดีที่เอามือค้ำไว้ ทำให้นางมนพร ชื่นชม ว่ายังมีสปิริตกล่าวเปิดงานต่อ ซึ่ง น.ส.ซาบีดา กล่าวว่า ชาวบ้านตกใจจึงต้องลงไปคุยกับชาวบ้าน
จากนั้นเมื่อมาถึงนายกฯ ได้เข้าเยี่ยมชนโรงสีแดง “หับ โห้ หิ้น” ซึ่งเป็นโรงสีข้าวเก่าแก่ในย่านเมืองเก่าของสงขลา โดยตัวอาคารทาด้วยสีแดงแรงฤทธิ์ อายุกว่าร้อยปี สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2460 โดยตระกูลหับ โห้ หิ้น ซึ่งเป็นครอบครัวที่มีชื่อเสียงในธุรกิจการค้าและการเกษตรของสงขลาในยุคนั้น ซึ่งโรงสีแดงนี้นั้น ถือเป็นอีกหนึ่งจุดแลนด์มาร์คในบริเวรย่านเมืองเก่า สงขลา
โดยจุดนี้นายกฯ ได้เยี่ยมชุมซุ้มอาหารจากชาวบ้านชุมชนมุสลิมบ้านเมืองเก่าสงขลา ที่ได้เตรียมอาหารพื้นบ้านพหุวัฒนธรรม คือ อาหารไทยพุทธ ไทยจีน และไทยมุสลิม มาจัดแสดงสาธิตให้นายกรัฐมนตรีเยี่ยมชม ประกอบด้วย หมี่กรอบทรงเครื่อง ปอเปี๊ยะสด ลูกชิ้นปลาพริกไทยดำ ซาโมซ่า ขนมปรำจี ข้าวยำสมุนไพร มะตะบะไก่ หมี่กะทิทรงเครื่อง ข้าวเหนียวสามเหลี่ยมปิ้งและนึ่ง ขนมม้า ขนมจีบ เต้าคั่ว ข้าวมันแกงไก่ ไข่ครอบ ข้าวผัดแดง ขนมครกน้ำแกง โรตีแกงไก่บ้านในนคร และขนมบูตู เป็นต้น
ก่อนที่นายกฯได้ร่วมเสวนา และรับฟังรายงานสถานการณ์ ภาพรวมเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวจังหวัดสงขลา จากผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา และ หน่วยงานด้านการท่องเที่ยวจังหวัดสงขลา
ช่วงหนึ่งตัวแทนจากชุมชนเมืองเก่าได้กล่าวขอเป็นตัวแทนชาวสงขลาถามถึงเรื่องเงินเยียวยาน้ำท่วมจากรัฐบาล ขณะที่ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาได้รายงานถึง สถานการณ์พื้นที่สีแดง 4 อำเภอในจังหวัดสงขลา ว่าขณะนี้ไม่ได้มีความรุนแรง เกิดขึ้นแต่อย่างใด แต่บริษัทประกันภัยกลับตีว่าเป็นพื้นที่เสี่ยงภัย และไม่คุ้มครองทำให้ส่งผลกระทบต่อการ
ขณะที่นายกฯ กล่าวว่าตนขอบคุณทุกภาคส่วนที่มาร่วมกันในวันนี้ ที่ได้บอกถึงปัญหาและอุปสรรคต่างๆที่มีในพื้นที่เพราะมันจำเป็นมากและตนจะได้เดินดูเมืองอีกด้วย ในเรื่องของการท่องเที่ยว สงขลาเป็นจังหวัดที่มีศักยภาพสูงมาก ตัวเลขนักท่องเที่ยวเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าสนับสนุน เมื่อกี้คิดอยู่ในใจว่าการเที่ยวแบบลักชัวรี่ เช่นที่ ภูเก็ตก็รับนักท่องเที่ยวมากอยู่แล้ว ถ้ามีการวนมาที่สงขลานั้น การท่องเที่ยวก็จะต่อเนื่องและอยากให้ประเทศของเราทุกพื้นที่ไม่จำเป็นต้องเป็นเมืองหลักเท่านั้นได้มีโอกาสเป็นพื้นที่เป็นจังหวัดน่าเที่ยวของทั้งโลก จึงขอให้ทุกท่านช่วยสรุปในเรื่องของกฎหมายต่างๆ เนื่องจากกฎหมายบางข้อมีมานานมาก บางกฎหมายมีอายุ 60 ปี 30 ปี ถ้ามีอะไรที่เป็นกฎหมายไม่อัพเดท ไม่ทันกับปัจจุบัน และมีความทับซ้อนกัน อย่างเช่นเรื่องแอลกอฮอล์ ก็อยากให้ท้องถิ่นเสนอมา จะต้องปรับอะไรบ้าง อะไรจะสามารถทำบ้าง รวมถึงปัญหาดวงไฟและเส้นทางเดินทางต่างๆก็ขอให้ส่งเข้ามา
นายกฯ กล่าวว่าเมื่อกี้เดินเข้ามาสงขลาก็รู้สึกว่าสวย น่าเที่ยว เรื่องที่ต้องไปเคลียร์ ของเรดโซน เพราะเคยมีความไม่สงบ แต่ขณะนี้ไม่มีความรุนแรงเกิดขึ้น อาจจะต้องดูเรื่องของประกัน ว่าควรจะเข้าไปอยู่ด้วยหรือไม่มี ตนก็ทราบและคิดว่าหน่วยที่เกี่ยวข้องกับรับฟังปัญหาอยู่แล้ว ถ้ามีข้อมูลอะไรก็ส่งมา ถ้าภาครัฐและเอกชนร่วมมือกันจังหวัดสงขลาไปได้อีกไกลอย่างแน่นอน ยืนยันว่าเรื่องนี้จะตามต่อให้ เพื่อดูว่าจะสามารถขับเคลื่อนอะไรได้บ้าง ย้ำว่า เป็นจังหวัดที่มีศักยภาพสูง อย่าพึ่งท้อใจ แม้ว่าจะต้องใช้เวลา ตนรับทราบและต้องร่วมมือกันเมื่อชุมชนเข้มแข็ง พอเป็นเรื่องที่ดีเพราะจะพัฒนาง่าย
จากนั้นนายกฯ ได้นำคณะ เดินเท้าเยี่ยมชมบริเวณย่านเมืองเก่าสงขลา ซึ่งระหว่างทาง ได้มีคุณป้าคนหนึ่งมารอมอบดอกกุหลาบให้กับนายกฯ พร้อมกับทวงเงินเยียวยาน้ำท่วม ทำให้นายกตอบกลับทันทีว่า ”พรุ่งนี้ค่ะ พรุ่งนี้จะนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี“
จากนั้นนายกฯ ได้แวะชมการแสดงพื้นบ้าน ระบำรองเง็ง และรำมโนราห์ ก่อนเข้าเยี่ยมชม “บ้านนครใน” ซึ่งตั้งอยู่ในเขตเมืองเก่าสงขลา ซึ่งเป็นอาคารเก่าแก่ต่อมาได้ปรับปรุงเป็นพิพิธภัณฑ์ อาคารมีความโดดเด่นเชิงสถาปัตยกรรม ด้านในจัดแสดงเครื่องเรือนเก่า เตียงไม้แบบจีนโบราณ เป็นต้น
จากนั้นนายกรัฐมนตรี ได้แวะชิมขนมทองเอก จากร้านบ้านจงดีขนมไทย ซึ่งนายกรัฐมนตรี บอกว่าอร่อย และชวนให้บรรดารัฐมนตรีได้ชิมขนมทองเอก ซึ่งตลอดทางนั้นได้มีประชาชนเข้ามาขอถ่ายรูปคู่กับนายกรัฐมนตรี เป็นที่ระลึก พร้อมกับนำดอกไม้และขนมต่างๆ มามอบให้ ช่วงหนึ่งมีเด็กนักเรียนมาขอถ่ายรูปคู่กับนายกรัฐมนตรี นายอนุทินออกตัว ขอเป็นผู้ถ่ายรูปให้ ก่อนเดินเข้าไป สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสงขลา ก่อนที่จะเดินออกมาและ ชิมไอศครีมไข่แข็ง ร้านบันหลีเฮง โดยนายกฯได้หยิบ ไอศครีมแจกกับบรรดารัฐมนตรี อย่างเป็นกันเอง ขณะที่นายอนุทิน กับบรรดาข้าราชการเจ้าหน้าที่ กแซวว่า ”นายกฯ เป็นคนเลี้ยง “ จากนั้นนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี ได้ขึ้นรถกลับออกจากย่านเมืองเก่าสงขลา
Advertisement