อนุทิน ชี้ ขายพาสปอร์ตยังไงก็ผิดกฎหมาย ลั่นต้องจัดการคนผิดไล่พ้นประเทศ เร่งขยายผลเกี่ยวข้องกับกลุ่มธุรกิจสีเทาหรือไม่
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีการปิดประกาศป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ ขายพาสปอร์ต และรับทำสัญชาติบางประเทศ บริเวณสี่แยกห้วยขวาง ว่าตนสั่งกรมการปกครองให้ทำงานร่วมกับหน่วยงานให้ดำเนินการติดตามไม่ใช่เฉพาะเพียงเรื่องป้ายดังกล่าว มองว่าการจะมาบอกว่าไม่ผิดกฎหมายนั้น การประกาศขายพาสปอร์ตไม่ว่าประเทศอะไรก็ผิดกฎหมายทั้งนั้น
โดยหลังจากนี้จะมีการขยายผลว่ามีเกี่ยวข้องกับกลุ่มธุรกิจสีเทาหรือไม่ หรือเข้าข่ายกลุ่มผู้มีอิทธิพลที่ใช้ประเทศไทยเป็นฐานการทำผิดกฎหมายหรือไม่ ซึ่งเรื่องนี้เราจะต้องเร่งปราบปราม โดยใช้ความเป็นเจ้าพนักงาน และไม่ต้องมาบอกว่าคนละหน่วยงานกัน
ทั้งนี้นายอนุทินมองว่าเรื่องดังกล่าว เป็นการทำเกินไป ฉะนั้นจึงดำเนินการสั่งปลดป้ายทันที โดยไม่สนหน้าอิฐหน้าพรหมทั้งนั้น ตนตื่นขึ้นมาพอทราบข่าวก็สั่งอธิบดีกรมการปกครองให้ไปดำเนินการทันที แต่ถึงอย่างไรทางเจ้าของป้ายก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ส่วนเจ้าของป้ายไม่รู้เรื่องใช่หรือไม่นั้น ตนไม่ทราบ
เมื่อถามว่ากรณีดังกล่าวจะกลายเป็นไฟไหม้ฟาง พอกระแสหายเรื่องก็จะเงียบใช่หรือไม่ นายอนุทิน ระบุว่า มันอยู่ที่ว่าเราเข้มงวดกวดขันแค่ไหน ซึ่งขณะนี้การกวดขันผับบาร์ต่างๆก็ไม่ใช่ไฟไหม้ฟาง รวมถึงการกวดขันปราบปรามยาเสพติด พร้อมยืนยันว่าไม่ต้องมีการกำชับไปยังผู้ว่าราชการแต่ละจังหวัด เพราะกระทรวงมหาดไทยมีหลายกลุ่ม หากใครกระทำผิดกฎหมาย ผู้บริหารทุกฝ่ายก็จะรายงานในไลน์กลุ่มและทุกคนก็จะรับทราบและสามารถดำเนินการได้ทันที
"เราไม่ได้รังเกียจคนต่างชาติที่เข้ามาในประเทศไทย แต่เรารังเกียจคนต่างชาติที่เข้ามาแล้วทำผิดกฎหมายในประเทศเรา สำหรับผมมองว่าเป็นการย่ำยี ฉะนั้นก็ไปจัดการคนผิดและไล่มันออกไปจากประเทศนี้เท่านั้นเอง ส่วนคนที่เป็นนักธุรกิจทำถูกต้องเราก็อำนวยความสะดวก ให้เขาได้มั่นใจว่าประเทศไทยเรานั้นปลอดภัย และขยายตัวทางเศรษฐกิจได้"
ด้านนายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวถึงกรณีการปรากฎภาพป้ายโฆษณาภาษาจีนชวนซื้อพาสปอร์ตย้ายประเทศว่า กระทรวงการท่องเที่ยวฯ เน้นย้ำเรื่องความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาอย่างประเทศไทย ตลอดจนการเดินทางกลับ
ส่วนกรณีที่ชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาทำธุรกิจผิดกฎหมาย ถือเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง ซึ่งรัฐบาลต้องดำเนินการอย่างเคร่งครัด
นอกจากนี้นายเสริมศักดิ์ ระบุว่า นายกรัฐมนตรีได้เน้นย้ำเรื่องนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้ามาแล้วฉกฉวยโอกาสจากวีซาฟรีเข้ามาท่องเที่ยวแล้วเข้ามาทำธุรกิจผิดกฎหมาย ซึ่งตนได้พูดคุยกับ กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว เพื่อให้มีมาตรการป้องกันอย่างดีที่สุด
เมื่อถามว่าได้รับรายงานหรือไม่ ที่ผู้มาติดป้ายดังกล่าวมีส่วนเกี่ยวข้องกับทุนจีนสีเทาหรือไม่ นายเสริมศักดิ์ กล่าวว่า ได้รับรายงานเข้ามา ซึ่งมีอยู่หลายรูปแบบ และตนจะร่วมมือกับตำรวจในการเร่งอำนวยการในการจับกุมต่อไป.
Advertisement