‘ปานปรีย์’ ยอมรับขอลาออกจากรมว.กต.เหตุถูกปรับพ้นรองนายกฯ หวั่นไร้ตำแหน่งรองนายกฯพ่วงอาจทำงานไม่ราบรื่น เชื่อยังมีคนอื่นเหมาะสมมาทำงานแทนได้
เมื่อวันที่ 28 เม.ย. นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รมว.ต่างประเทศ ซึ่งระหว่างการพักให้น้ำเกลืออยู่ที่โรงพยาบาล ให้สัมภาษณ์ถึงข่าวการยื่นหนังสือขอลาออกจากตำแหน่ง รมว.ต่างประเทศ หลังจากมีการปรับคณะรัฐมนตรีโดยให้นายปานปรีย์ พ้นจากตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี เหลือเพียงตำแหน่งรมว.ต่างประเทศ ว่า เป็นเอกสารจริง โดยจากนี้ ตนจะยื่นให้กับนายกรัฐมนตรี เพื่อรักษาหลักการของการทำงานเท่านั้น
ทั้งนี้แม้การปรับครม.เป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรี แต่ในการทำงานในตำแหน่งรมว.ต่างประเทศนั้น ส่วนมากจะมีตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีพ่วงด้วย เพี่อที่เวลาเดินทางไปปฏิบัติราชการหรือเจรจาใดๆ ในต่างประเทศ จะได้มีเกียรติและสามารถดำเนินการได้ราบรื่นมากขึ้น ซึ่งที่ผ่านมาไทยก็มีผู้ดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีที่พ่วงกับรมว.ต่างประเทศ
นายปานปรีย์ กล่าวอีกว่า ในตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี อาจไม่จำเป็นต้องกำกับดูแลหลายงาน โดยนายกรัฐมนตรี อาจมอบหมายงานให้กับรองนายกฯ คนอื่นก็ได้ หรือจะมอบหมายให้ รมว.ต่างประเทศ อย่างในกรณีที่เคยมอบหมายให้ตนทำก็ได้
ซึ่งที่ผ่านมา ตนทำงานได้ด้วยความเรียบร้อย แต่เมื่อมาเหลือตำแหน่งเดียว ตนก็เห็นว่าสิ่งที่ตนจะดำเนินการต่อไป ในด้านการต่างประเทศอาจไม่รวดเร็วยังหรือราบรื่นเท่าที่ควร ทั้งตนคิดว่าถ้านายกรัฐมนตรีเห็นว่ามีคนอื่นที่เหมาะสมกว่า ก็ให้มาทำงานแทนได้
เมื่อถามว่าการลาออกครั้งนี้จะส่งผลกระทบต่องานต่างๆที่ได้มีการประสานกับต่างประเทศไว้หรือไม่ นายปานปรีย์ กล่าวว่า ไม่เป็นไร ตนได้วางแผนไว้แล้วก่อนหน้านี้ว่า 6 เดือนหลังจากนี้ กระทรวงการต่างประเทศจะดำเนินการอย่างไรต่อไป และตนเชื่อว่าคนที่จะมาสานงานต่อ สามารถที่จะทำงานแทนต่อไปได้
นักข่าวถามต่อว่านายกรัฐมนตรีได้แจ้งให้ทราบก่อนหรือไม่ว่าจะปรับครม. นายปานปรีย์ กล่าวว่า นายกฯบอกกับตนว่าจำเป็นต้องปรับครม. แต่ไม่ได้บอกรายละเอียดว่าปรับอย่างไร ซึ่งตนตอบไปว่า "ครับ" จากนั้นยังไม่ได้คุยอะไรกันอีก
เมื่อถามว่าจะเปลี่ยนใจหรือไม่หากนายกรัฐมนตรีขอให้กลับมาช่วยทำงาน นายปานปรีย์ กล่าวว่า ก็นายกรัฐมนตรีตัดสินใจจะให้เป็นอย่างนั้นแล้ว ก็ไม่ใช่ปัญหาของตน เมื่อถามอีกว่าจะยังทำงานการเมืองต่อไปหรือไม่นั้น นายปานปรีย์ กล่าวว่า เป็นเรื่องของอนาคต ยังไม่ได้ตัดสินใจ
ทั้งนี้ มีรายงานข่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวอาจสืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 26 เม.ย.ที่ผ่านมา หลังเสร็จสิ้นภารกิจการต้อนรับและหารือกับนายกรัฐมนตรีบังคลาเทศที่เยือนทำเนียบรัฐบาลแล้ว นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้เรียกนายปานปรีย์ เข้าไปพูดคุยที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ซึ่งหลังจากเสร็จสิ้นการเข้าพบดังกล่าว ปรากฏว่านายปานปรีย์ มีสีหน้าเคร่งเครียด ไม่สู้ดีมากนัก แต่ยังคงไปปฏิบัติต่างๆ รวมถึงไปร่วมงานวันสราญรมย์ที่กระทรวงการต่างประเทศ ในช่วงค่ำของวันเดียวกันด้วยท่าทีปกติ และไม่ได้มีการเปรยให้คณะผู้บริหารกระทรวงฯทราบล่วงหน้าว่าจะลาออกจากตำแหน่งรมว.ต่างประเทศ
อย่างไรก็ตาม หลังจากปรากฏข่าวเกี่ยวกับจดหมายลาออกดังกล่าวในวันนี้ (28 เม.ย.) นายปานปรีย์ ได้แจ้งต่อคณะผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงการต่างประเทศทั้งหมดให้ทราบว่าได้ยื่นจดหมายขอลาออกจากตำแหน่งรมว.ต่างประเทศแล้ว โดยไม่ได้ระบุเหตุผลหรือฝากงานใดๆต่อคณะผู้บริหารกระทรวงฯ
Advertisement