กว่าจะมีชีวิตที่สุขสบาย ณ ตอนนี้ คุณแม่คนสวย เนย โชติกา ผ่านชีวิตที่ลำบากมาไม่น้อย เมื่อได้มาเป็นแขกรับเชิญคนพิเศษในรายการ Club Friday Show เปิดใจถึงชีวิตที่ผ่านมา บ้านถูกยึดไปสองรอบ เลยตัดสินใจที่จะเข้ามากรุงเทพฯเพื่อหาเงินช่วยครอบครัว แถมยังเล่าถึงความรักที่ต้องเจอกังความผิดหวัง เพราะถูกคนที่คิดว่ารักเราที่สุดหลอกคบซ้อน จนในที่สุดก็เจอกับรักแท้ แต่ตัวเองก็กลายเป็นคนที่ระแวงและขี้หึงไป จนทำเรื่องนี้กับสามีคนปัจจุบันที่ไม่เคยพูดที่ไหนมาก่อน พร้อมเผยคำพูดของที่สามีทำให้เสียใจที่สุด!
ถาม แรกเริ่มเดิมที ฐานะทางบ้านของเนยเป็นยังไงบ้าง
เนย : ปานกลางค่อนข้างลำบากค่ะ เพราะว่าเราไม่ได้ใช้เงิน ไม่ได้ไปเที่ยวไหนเลย ไม่มีเงินที่จะใช้อะไรที่เป็นของฟุ่มเฟือยเลย เราเป็นแบบว่าลูกชาวบ้านธรรมดา มันมีสองทางให้เลือกตอนนั้นค่ะ ก็เลยเลือกมาหาพี่เอ เพราะตอนนั้นกลับบ้านไม่ได้เพราะบ้านโดนยึด เกิดวิกฤตหนักมากค่ะ สงสารแม่มาก แม่เนยโดนยึดบ้านไปแล้ว ไม่มีบ้านอยู่ค่ะ
ถาม มันเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตของเนยกับคุณแม่ เห็นบอกว่าบ้านถูกยึดถึงสองครั้ง
เนย : สองรอบค่ะ ตอนแรกคือเรายังเด็กอยู่ แม่น่าจะไปกู้นอกระบบด้วยค่ะ แล้วมันเป็นหนี้เยอะ สุดท้ายก็มากกู้แบงค์ค่ะ เพื่อมาจ่ายหนี้นอกระบบอะไรประมาณนี้ เนยก็ไม่ได้เข้าใจในตอนนั้น แต่พอมารอบที่สอง เนยตัดสินใจมาหาพี่เอเลย ไม่ได้เข้าบ้านแล้ว เพราะว่าแม่บอกว่าอย่ามาเลยลูก เพิ่งจะได้ที่อยู่แบบเล็กๆ พอบ้านโดนยึดไป คุณแม่ก็ต้องมาหาบ้านเพื่ออยู่เล็กๆ ก็ไปเช่าบ้านอยู่ แล้วก็กรีดยางตอนตี 1-2 เลยค่ะ คือแม่ลำบากมากเลย เราคิดว่าเราไม่เป็นแล้วมนุษย์เงินเดือน เราจะไปสู้ที่พี่เอนี่แหละ โอกาสมันน่าจะดีกว่า ตอนแรกที่เนยมาบ้านพี่เอ เราก็คิดว่าเรามาสู้เอา เพราะเราก็ไม่ได้รู้จักนิสัยใจคอของเขาว่าเป็นยังไง เราจะมาอยู่กับอะไรไม่รู้เลย แต่เราเป็นอะไรที่โชคดีมาก เพราะว่าพี่เอเขาเป็นคนที่น่ารักมาก แล้วเขาเป็นคนใต้ เราไปอยู่กับเขาเหมือนเราอยู่บ้านเลยค่ะ เหมือนกับเขาเป็นคนในครอบครัว แล้วเราไปเจอน้องสาวเขาคนหนี่งทำให้เรารู้สึกสบายใจขึ้นไปอีก เพราะเรานอนห้องเดียวกับน้องสาวพี่เอ แล้วน้องสาวพี่เอน่ารักมาก เนยมากระเป๋าใบหนึ่งเสื้อไม่กี่ตัว เวลาจะออกไปออกงานหรือว่าไปแคสงาน เขาก็จะหาเสื้อผ้าให้ใส่ เขาก็เอาชุดเขาให้เนยใส่ไปแคสงานตลอดเลย เพราะว่าเนยไม่ได้มีเสื้อผ้ามาที่จะสวยๆ เลย ไม่มีเลย
ถาม ในวันที่ลำบากขนาดนั้น ชีวิตของเรามาพลิกตอนไหน
เนย : เนยไม่เลือกงาน ไม่เลือกบท ลุยทุกอย่างถ้าผู้ใหญ่เขาอยากให้เราเล่นอะไร เราก็เล่นให้เต็มที่ ตอนนั้นเรารู้สึกว่าเราได้โอกาส เราก็ทำงานๆ ไปค่ะ งานแรกที่ได้ทำคือเนยแคสจนผ่าน ได้เซ็นสัญญากับทางช่อง 3 ค่ะ ตอนนั้นมีเงินเดือนด้วย เป็นงานแบบอ่านคั่นรายการค่ะ ก้อนแรกที่เนยได้เลยคือ 30,000 บาท ก็โอนให้แม่หมดเลย เพราะว่าเราเป็นห่วงแม่มาก ต้องออกไปกรีดยาง เราก็ห่วงกลัวงู กลัวคน เราก็บอกแม่ว่าค่อยๆ ทยอยนะ เราก็เล่าให้พี่เอฟัง พี่เอเขาก็บอกเราว่าน้องเนย ตั้งใจ อย่าเถลไถล เราก็เลยโอนเงินก้อนแรกไปให้แม่ แม่ก็เลยไปซื้อกะปิ น้ำปลา กระเทียม หัวหอม ที่มันเป็นของใช้จำเป็นมาขายก่อน มาเปิดเป็นเหมือนร้านขายของชำ เราก็ทยอยให้แม่เรื่อยๆ จนของเต็มร้าน เงินก้อนแรกที่เราให้แม่ไป เขาดีใจมาก เขารู้สึกว่าแบบเรามาแค่ไม่นาน เราก็เหมือนทำได้ แล้วเขาได้ดูเราทางหน้าจอ ซึ่งเงินที่เราโอนให้แม่ไป เขาก็บอกเราทุกอย่างว่าเขาใช้อะไรไปบ้าง เขาก็ถ่ายรูปให้ดูตลอด เหมือนเราก็สู้กันมาเรื่อยๆ
ถาม มาถามถึงเรื่องหัวใจกันบ้าง เห็นบอกว่าสาเหตุที่เนยเป็นคนขี้หึงคือในอดีต เคยเจอคนเจ้าชู้มาก
เนย : ก่อนที่จะคบเขา จะมีคุยกับคนหนึ่ง คบกับคนหนึ่งนะคะ เขาก็จะน่ารักทุกอย่างเลย แต่เขาจะโทรจิกเราตลอด เนยก็คิดว่าเขาคงรักเรามาก ประหนึ่งเป็นลมหายใจ ไม่ได้แค่จิก ขนาดเราวางโทรศัพท์ เขาก็จะเช็กด้วยว่าเราคุยอะไร แล้วเราก็ได้ไปเจอโทรศัพท์อีกเครื่อง เราก็เลยรู้ว่าอ๋อ เธอหึงฉัน จิกฉัน เพราะว่าเธอทำแบบนี้นี่เอง เขามีโทรศัพท์สองเครื่อง และจริงๆ แล้วเขาก็คบกับอีกคนอยู่ และมันก็เป็นความบังเอิญที่เนยก็มีบุญที่รู้เอง คือเนยก็นอนอยู่บ้านดีๆ แล้วก็มีเบอร์เขาแหละที่โทรเข้ามา แต่มันก็เป็นเบอร์ที่มือลั่นค่ะ เราก็ได้ยินเสียงเขากระหนุงกระหนิง คุยกัน ก็ทะเลาะกันไป แล้วก็ห่างกันไป เราก็เสียใจมากเพราะว่าไม่เคยคิดเลย เขาทำเหมือนว่าเราเป็นลมหายใจของเขา เหมือนเขารักเรามาก ซึ่งสิ่งที่เขาทำมันค่อนข้างจะสวนกันทุกอย่าง เพราะฉะนั้นมันเลยทำให้เนยเปลี่ยนความคิดว่ามันไม่จำเป็นที่เราต้องมานั่งคุยกันตลอดเวลา ถึงเราจะอกหัก แต่ไม่ได้เสียใจอะไรมาก เพราะว่าเรายังมีสิ่งที่ต้องทำหลายอย่าง อย่างที่บอกเนยยังต้องทำงาน เนยก็เลยมีความหวังว่าถ้าเราทำงาน ผู้ชายที่เราจะคบด้วย เขาต้องเป็นคนที่เคยมาเติมเต็มให้กำลังใจ ให้เรามีพลังในการทำงาน เพราะเนย ไม่อยากจะทำงานแล้วต้องมาทะเลาะกับแฟน แล้วตอนเช้าเราจะไม่มีแรงทำงาน มันน่าปวดหัวมากสำหรับเนย เราคิดว่าคนที่เข้ามา เขาต้องมาแบบเติมเต็ม เป็นกำลังใจ ให้กำลังใจ ไม่ใช่คนที่มาฉุดให้เราต้องปวดหัวอยู่ตลอดเวลา เราตั้งกับตัวเองไว้แบบนั้น ซึ่งถ้าเราเจอคนที่ทำให้เราปวดหัวคือพักก่อน อยู่คนเดียวได้ ซึ่งความเจ็บปวดจากการอกหักไม่นานมากค่ะ เพราะว่าเนยทำงานอย่างเดียวเลย แล้วก็ทำงานเจ็ดวันไปเลย แล้วเนยก็ทำงานจนเนยลืมไปเลย ทำให้เนยรู้สึกว่าเราทำงานสนุกดีได้เงิน ก็ไม่ได้โฟกัสเรื่องนี้เลย เรายังไหว้พระ ขอบคุณที่ทำให้เรารู้ เพราะเรารู้เร็วคือมันก็ดี ทำให้เรารู้ว่าเขาเป็นอย่างไร
ถาม เลยทำให้เราเป็นคนขี้หึง ทำให้เราตัดสินใจทำสิ่งหนึ่งคือการติดตามที่ไม่มีใครรู้มาก่อน แม้กระทั่งตัวคุณสามีเอง
เนย : โอ๊ย !! พี่ฉอด มันเป็นเรื่องที่ด้วยความมาออกรายการพี่ฉอดด้วย มันเหมือนเนยไม่มีเรื่องเล่า เราก็เลยรู้สึกว่าถึงเวลาแล้วหรือเปล่าที่เราต้องบอกเรื่องนี้กับทุกคน เป็นเรื่องที่เนยเก็บไว้อยู่คนเดียวมานาน เพื่อนก็ไม่เคยรู้เลย คือเนยได้ติดตั้งแอปพลิเคชันไว้ แต่ต้องบอกแบบนี้ค่ะ ด้วยความมีอดีตต่างๆ เขาให้เกียรติกัน ไม่เช็กโทรศัพท์กัน เราไม่เช็กก็เลยติดตั้งแอปพลิเคชัน
ถาม แล้วมีไหมที่ออกนอกเส้นทาง
เนย : มีออกค่ะ และก็เป็นที่เนยไม่ควรที่จะรู้ด้วย โลเคชั่นวันนั้นมันเป็นรัชดาค่ะ แล้วเขาเหมือนบอกเราว่าเขามีประชุมกับแม่ คุยงานกับแม่ แต่มันเป็นรัชดาค่ะ ซึ่งเป็นศูนย์รวมของความบันเทิง ใจของเราแทบจะหลุดออกจากหัวใจตรงนี้เลยค่ะ เพราะจุดที่เขาไปมันเป็นโรงแรมแล้วแอปพลิเคชันอันนี้คือไม่เสถียร มันจะวิ่งตลอด ไม่หยุดอยู่ตรงจุด เราก็ไม่แน่ใจว่าเขาอยู่โรงแรม หรืออยู่ตึก หรืออยู่อะไรไม่รู้ แต่ใจเราไม่ดีแล้ว เนยก็ขับรถออกไปเลยแล้วก็โทรหาเขา ซึ่งเสียงรอบข้างก็ปกติมากเพราะเสียงมีคุยพูดคุยอยู่ เสียงไม่ได้อยู่ในอ่างอะไรอย่างนี้ เนยก็มโนไปหมด แต่สิ่งที่เราได้ยินคือเสียงคนคุยปกติ แล้วคือต้องบอกเลยนะคะ ว่านี่เป็นครั้งแรกที่มาเล่า เพราะที่ที่เขาไปคือเป็น Box Wedding พูดแล้วจะร้องไห้ เราแบบฉันตามมา แล้วที่เราเห็นคือเขาจะขอเราแต่งงานหรือเปล่า เราก็ไม่กล้าพูด แล้วก็มีอยู่ช่วงหนึ่งเหมือนว่าเขาจะคุยเรื่องแต่งงานบ่อย ซึ่งเราก็คิดกับตัวเองว่าฉันไม่ควรรู้เลย หรือจะจริง หรือจะใช่ เรื่องนี้ต้องบอกว่าเนย ไม่เคยบอกใครมาก่อน ที่เขาไปคุยก็คือเรื่องแต่งงานนี่แหละ แล้วเขาก็บอกเรามาตลอดว่าถ้าเขาจะขอเราแต่งงาน จะไม่ขอต่อหน้าคนเยอะๆ นะ เพราะว่าเขาขี้อาย และหลังจากที่เรารู้โลเคชั่นนั้นแล้ว เนยสั่งชุดสวยๆ ไว้เต็มตู้เลยค่ะ คือสวยทุกวันเลย เพราะต้องมีสักวันหนึ่งที่เขาขอเราแต่งงานแน่นอน เราก็จัดเต็มทุกวัน อยู่ในใจคนเดียวเรื่องนี้ เนยไม่เคยบอกเพื่อน แม้แต่เพื่อนสนิท เพราะว่ามันเป็นเรื่องที่มันบอกไม่ได้ เพราะว่าเราไม่รู้ว่าจะไปบอกเพื่อนว่าอย่างไรดี ก็กลายเป็นว่าเราสวยทุกวัน จนวันเกิดที่เขาขอแต่งงานค่ะ แต่ในวันนั้นเราก็ไม่ได้คิดว่าเขาจะขอ เพราะว่าเป็นวันที่เพื่อนเยอะ ซึ่งวันนั้นเขาก็สร้างพล็อตอีก คือเพื่อนเขาทะเลาะกันวุ่นวายเลยค่ะ ในงานวันเกิด เนยบอกว่าเฮ้ย!! ไปช่วยหน่อย เขาทะเลาะกันแล้ว เนยก็หวี๊ดเลยค่ะ เนยก็บอกว่าไม่ได้ จะมาทะเลาะกันในงานวันเกิดของเนยไม่ได้ เขาก็บอกเราว่าไปเคลียร์ให้หน่อยข้างบน พอเราขี้นไป ก็เจอเขายืนอยู่คนเดียว แล้วเขาก็ขอเราแต่งงานบนนั้น ก็คือขอสองคนจริงๆ แต่จะบอกว่าเพื่อนไม่รู้เลยค่ะ เพราะว่าเขาไม่บอกเพื่อนเลยสักคน เขาทำเองคนเดียวหมดเลย เพื่อนเนยไม่รู้เลย รู้คือวันนั้นเลย เพราะว่าถ้าเพื่อนเนยรู้คนหนึ่ง เนยรู้แน่นอน เพราะว่าเราแค่มองหน้าเพื่อน เราก็จะรู้แล้ว เราก็ร้องไห้น้ำตาแตกมาก เพราะไม่ได้คิด เพราะว่าเราเตรียมตัวในวันอื่นๆ มาเยอะ แต่วันนั้นก็สวยนะคะ
ถาม ต้องถามเรื่องหนึ่ง เป็นไปได้เหรอที่คนสองคนที่อยู่ด้วยกัน 13 ปี ไม่เคยทะเลาะกันเลย
เนย : น้อยมากเลยค่ะ เนยจะมีเถียงกัน คุยกันเรื่องลูก ถ้าก่อนที่จะมีลูก แทบไม่มีเลย แต่พอมีลูกแล้ว เราก็จะคุยกันเรื่องลูกอาจจะมีความเห็นไม่ตรงกัน แต่จะทะเลาะกันแบบที่คุยกัน ป๊า เรามีทะเลาะแบบกระโชกโฮกฮากไหม เราร้องไห้หรืออะไรแบบบางทีเราลืม เรามีช็อตไหนที่เราทะเลาะกัน เราก็นึกกัน เอาจริงๆ นึกทุกคืนเลย ลูกหลับ เราก็จะถามสามีว่าเรามีทะเลาะกันไหม เพราะว่ามาที่ Club Friday Show หนูจะต้องมีอะไรมาเล่าไง เรามารายการเขา เราจะไม่มีเรื่องเล่าไม่ได้นะ ทำการบ้านหนักมากสองคน ยังหาไม่เจอเลย หนูมานั่งนึกว่าอาจจะที่เรารู้สึกว่าที่เราไม่ได้ทะเลาะกัน มันอาจจะเพราะว่าพอมันผ่านมาแล้ว มันก็เลยดูง่ายไปแล้ว แต่ถ้าถามปัญหาที่พอมีบ้าง คงเป็นความเป๊ะของสามีที่มีต่อการเลี้ยงลูก เขาจะเป็นคนเป๊ะ เราอยู่ด้วยกัน เราจะรู้เลย เขาจะเป็นคนมีระเบียบค่ะ ของที่อยู่ที่บ้าน ถ้าวางอยู่ตรงไหน จะอยู่ตรงนั้นเลย ส่วนในเรื่องของการเลี้ยงลูก เขาก็จะเป็นคนเป๊ะมาก แต่มันก็เป็นข้อดี แต่ว่าความเป๊ะของเขาคือตื่นเวลานี้ กินข้าวเวลานี้ เล่นเวลานี้ ซึ่งตัวเนยไม่อยากให้มีความเป๊ะในเรื่องเวลาอะไรขนาดนั้น อยากให้เขาได้ผ่อนคลาย เรื่องนี้คงเป็นเรื่องที่เนยกับเขาคุยกันเยอะที่สุด แต่คุณสามีเขาก็จะมีเหตุผลบอกเราว่าเห็นไหม พอถึงเวลาเขาก็จะรู้ว่าเขาต้องทำอะไร ถ้าไม่ถึงเวลา เขาก็จะไม่ขอเลย อย่างเช่นพอเขาโตขึ้น เขาก็จะมีเวลาดูการ์ตูน 45 นาที หลังจากทานของว่าง เขาจะไม่ขอก่อนนั้นเลย เพราะเขาจะรู้เวลาของเขาว่าทานของว่างแล้ว ถึงจะได้ดูนั่น อาจจะเป็นข้อดีในความเป๊ะของคุณสามี
ถาม เห็นบอกว่ามีคำพูดหนึ่งของคุณสามีที่แทงใจดำ ทำให้เสียใจไม่เคยลืม
เนย : โหดสุดที่เขาพูดกับเราที่เรารู้สึกเสียใจคืออยู่ๆ เขาก็บอกว่า อื้อ!!! เนยก็รู้สึกว่าอะไร ปกติป๊าไม่เคยพูดอะไรแบบนี้กับเนย เรารู้สึกว่าเหมือนเขารำคาญเรา มันรู้สึกว่าไม่ใช่แล้ว ทำไมป๊าเปลี่ยนไป ทำไมทำแบบนั้น ไม่น่ารักเลยนะ แล้วเขาก็บอกเราว่าเดี๋ยวใจเย็นก่อน ค่อยมาคุยค่ะ ถามว่าเนยเจอคุณอาร์ม สามีที่ไหน เนยเจอเขาในงาน ตอนนั้นสอบเสร็จเรียนปริญญาโทอยู่ ปี 1 แล้วเราก็ไปกินเลี้ยงกัน เขาก็เป็นเพื่อนของเพื่อนเราอีกทีหนึ่ง เขาก็มาด่อมๆ มองๆ ไม่คุยด้วยค่ะ เป็นเหมือนเพื่อนเขามาคุยแทนเขาว่าเพื่อนเขาอยากเรียนต่อ มีอะไรแนะนำไหม ตอนนั้นเนยก็เริ่มเล่นละครแล้วค่ะ ออกอากาศไปเรื่องหนึ่ง แต่เขาเป็นคนไม่ดูละคร เขาไม่รู้เลยค่ะว่าเราเป็นดารา เขาก็นึกว่าเราเป็นแค่นักเรียนค่ะ เขาก็ให้เพื่อนเขาเข้ามาคุยหมดเลย ให้เราแนะนำเขาว่าเขาจะเรียนต่อต้องทำอย่างไร แล้วเขาก็เป็นคนนิ่งๆ ไม่ได้เป็นคนคุย เราก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร ณ ตอนนั้น แต่ด้วยความที่เราเป็นคนที่ชอบสายตี๋อยู่แล้ว เนยก็ว่าน่ารักดี แต่อย่างอื่นคือไม่ได้เลย เขาดูขับรถแบบรถแต่ง ดูเป็นรถสปอร์ต ดูเป็นเพลย์บอย ดูขับรถเร็วๆ เราก็บอกเพื่อนเราว่าดูแล้วเราไม่โอเค เพราะด้วยตอนนั้นเรายังไม่ได้คุยกันเยอะด้วย เป็นที่เรามองภาพภายนอกของเขามากกว่า ซึ่งเราก็บอกเพื่อนว่าเราไม่โอเค แต่สุดท้ายเขาคือคนที่ดีที่สุดในชีวิตของเรา
ถาม เนยผ่านอุปสรรคในชีวิตมาเยอะมากมาถึง ณ จุดนี้ อยากบอกอะไรคุณแม่บ้าง
เนย : เนยกับแม่จะเป็นคู่ที่บ่อน้ำตาแตกคู่ ร้องไห้กันบ่อยมาก ทุกวันนี้ยังร้องไห้อยู่เลย ทุกวันนี้ที่แม่มาเห็นเราอยู่บ้านหลังใหญ่ เราซื้อออฟฟิศใหญ่โต แม่ก็จะร้องไห้ทุกครั้ง แล้วเวลาพูดย้อนอดีตกัน แม่ก็จะร้องไห้มากอดทุกครั้งเลย ก็อยากจะบอกแม่แบบ (ร้องไห้) ทำทุกอย่างเพื่อแม่จริงๆ ดีใจที่ตัวเองทำสำเร็จแล้วก็เป็นลูกที่ประสบความสำเร็จให้แม่ดีใจอย่างนี้ค่ะ เรื่องที่ห่วงคุณแม่คือคุณแม่ดื้อค่ะ ทุกวันนี้ยังกรีดยางอยู่เลย ไม่ได้กรีดตี 1-2 แล้วนะคะ แต่แม่บอกว่าฉันตื่นหกโมงเช้าได้ ไม่มีงูแน่นอน แม่บอกว่าการกรีดยางของแม่เป็นการออกกำลังกายค่ะ เพราะว่าได้ขยับตัวได้มีเหงื่อออก เราก็เลยโอเคๆ ไม่ห้ามกันค่ะ เขาก็บอกว่ากรีดนิดหน่อยหลังบ้าน แต่แม่เป็นคนที่แข็งแรงดีมากๆ แต่เขามีความสุขที่จะอยู่ที่บ้าน เขาไม่อยากมาอยู่ที่กรุงเทพ เนยอุตส่าห์แบบซื้อบ้านให้ มีบริเวณ มีสวน เผื่อแม่จะตัดสินใจอยากมาอยู่กับเรา แต่พอเขามาอยู่ เขารู้สึกว่าเวลาที่ต้องไปทานข้าวหรืออะไร มันนานไปหมดเลยค่ะ แต่ถ้าเขาอยู่ที่โน่น เขามีสวน มีไร่ มีนา มีผัก เขาสะดวกตรงนั้น ถ้าแม่ฟังอยู่ ก็ไม่ต้องกรีดแล้วก็ได้นะ (ซับน้ำตา) ซึ่งคำหนี่งจะบอกแม่ตลอดว่าแม่ห้ามตายนะ ต้องอยู่ใช้เงินก่อน เพราะมีเงินให้แม่ได้ใช้อีกเยอะนะ (ยิ้ม)
ดูคลิปย้อนหลังรายการ Club Friday Show ได้ทางยูทูป
Advertisement