
เรียกได้ว่าเป็นนางฟ้าตัวจริง แถมได้รับกำลังใจล้มหลาม สำหรับ "ดีเจ ดาด้า" หลังเจอเหตุการณ์ถูกเพื่อนรัก "นานา ไรบีนา" ยืมเงิน 3 ล้านหลอกไปลงทุน แถมโกหกใส่ซ้ำแล้วซ้ำเล่าทำให้โดนทัวร์ลงแทนบ้างก็หลายครั้ง นอกจากนี้ "อั๋น ภูวนาท" ดีเจรุ่นพี่ได้ส่งข้อความมาให้กำลังใจนี้
ล่าสุด "ดีเจดาด้า" เปิดใจให้สัมภาษณ์อีกครั้ง เผยว่า "ที่พี่อั๋นให้กำลังใจด้า นั้น จริงๆ แล้ว เขาส่งมาตั้งแต่ตอนที่มีข่าวออกใหม่ๆ แล้ว ต้องยอมรับว่าพี่อั๋นภาษาสวยมาก เขียนออกมาสวยจริงๆ แล้วเชื่อไหมว่าวันนั้นด้าอ่านแล้วน้ำตาไหลเลย ซึ้งอ่ะ ไม่รู้เหมือนกันว่าใครเป็นไหม แต่ดูในคอมเม้นต์หลายๆ คนบอกว่า ขนาดเราไม่ได้เป็นเจ้าของเรื่อง ยังน้ำตาไหลเลย"
"หลายคนก็มีการให้กำลังใจเยอะ หลังจากที่เราได้ไปออกโหนกระแส หลังจากจบที่สัมภาษณ์ล่าสุดกับพี่ๆ นักข่าวไป ก็ส่งข้อความมาให้กำลังใจเยอะมาก เขาบอกว่า "อย่าทิ้งสิ่งที่รัก จงเป็นเพื่อนที่จริงๆ และจริงใจต่อเพื่อน" อะไรประมาณนี้ ซึ่งเราก็ซึ้งมาก น้ำตาจะไหล แล้ววันนั้นจำได้ว่าอ่านข้อความพี่อั๋นแล้วนั่งอยู่บนรถ แล้วอยู่ดีๆ น้ำตามันไหลลงมาเอง ก็ขอบคุณพี่อั๋น วันนั้นก็เลยส่งข้อความไป บอกว่า พี่อั๋นเขียนได้ดีมาก น้ำตาไหลเลย"
"ส่วนที่หลายคนมองว่าอยากมีเราเป็นเพื่อน ก็ดีใจค่ะ จริงๆ ด้ามีคนรู้จักเยอะ แต่เพื่อนสนิทน้อย หลายคนเห็นเราเป็นคนร่าเริง แต่จริงๆ เรามีกำแพงเยอะพอสมควรเหมือนกัน ที่จะเข้ามาสนิทกับเรา หลังจากนี้ที่บอกว่าขออยู่ห่างๆ อย่างห่วงๆ จริงๆ ก็คือยังเป็นห่วงเขา อยากให้เขาผ่านวิกฤตตรงนี้ไปให้ได้ ด้าเชื่อว่าคนล้มอย่าข้าม และด้าก็รู้สึกว่าคนเราถ้าลงไปจนสุดแล้ว เดี๋ยววันนึงเขาก็คงมีโอกาสที่จะได้แก้ตัวใหม่ หรืออะไรที่ทำให้เขาขึ้นมาบ้าง"
"ด้ามองว่า ถึงแม้คนเรามีโอกาสทำผิดพลาดได้ แต่ถ้าเกิดว่าเขารู้ตัวว่าเขาทำผิด แล้วเขายอมรับกับสิ่งที่เขาทำไป เขาได้บทเรียนกับสิ่งที่เกิดขึ้น แล้วเขายอมรับกับมัน เราเชื่อว่าวันนึง ไม่ว่าจะเป็นห้าปีหรือ 10 ปี หรือนานแค่ไหน ถ้าเขามีความตั้งใจที่จะกลับตัวเป็นคนดี ด้าว่าก็โอเค เราแยกแยะอยู่แล้ว คือด้าไม่อยากจะเอาอารมณ์โกรธมารวมกันกับสิ่งที่เกิดขึ้น ไม่งั้นเราจะหาทางออกไม่ได้เลย เพราะฉะนั้นเวลาเกิดเหตุการณ์อะไรที่มันเกิดแล้วมันกลับไปแก้ไขไม่ได้ เพราะฉะนั้นต้องเดินหน้าและให้เขาแก้ปัญหากับสิ่งที่เขาเป็น และเราก็ยังมีการคุยกันว่าสำหรับเราเราจะแก้ปัญหากันยังไง เท่านั้นเอง"
"ถามว่ามีการคุยกับนานาไหม จริงๆ เราก็มีการคุยกับนานาและทนายด้วย กับนานาตอนนี้ก็เป็นในเรื่องของการวางกรอบการชำระหนี้อย่างไร ที่เขาไหวเท่าไหร่ จะคุยกันเรื่องนี้มากกว่า ซึ่งทิศทางที่คุยมันก็สบายใจขึ้นเยอะมาก เพราะสถานการณ์ต่างๆ พอเราตัดอารมณ์โกรธออกไป อารมณ์มาด่ากัน หรือจะทะเลาะกัน พอเราตัดอารมณ์โกรธออกไป แล้วเรามุ่งไปที่ปัญหาที่เราอยากจะแก้ตอนนี้ มันก็ทำให้การคุยกันไม่มีการขุ่นมัวหรือมาทะเลาะกัน"
"ส่วนตอนนี้ก็มีการระมัดระวังการให้สัมภาษณ์ คือได้เห็นทุกคนเป็นเพื่อนเป็นพี่น้อง แต่มันจะมีบาง เพจ ที่เราไม่ได้รู้จัก เขาก็จะไปจับประเด็นให้มันสั้นมาก จนทำให้ทุกคนเข้าใจได้ผิด แต่ถ้าเป็นสื่อใหญ่ๆ บางทีก็ปล่อยสัมภาษณ์เต็ม เขาก็จะเข้าใจว่าสิ่งที่เราพูดเราพูดว่าอะไรบ้าง แต่บาง เพจ ไปจับประเด็น เราก็เข้าใจแหละว่าต้องทำให้มันกระชับสั้นให้ได้ใจความ แต่บางทีการจับใจความของเพจแต่ละเพจ มันก็ทำให้ส่งผลกระทบทัวร์ลงได้ เราก็เลยต้องระมัดระวังในการสัมภาษณ์มากขึ้น ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้สิ่งที่ทำให้ด้าเสียใจมากที่สุด ก็ เพจ นั้นแหละ ถามว่าฟ้องไหม โชคดีที่เป็นคนโมโหง่ายหายเร็ว ตอนแรกก็ว่าจะฟ้อง แต่ก็ว่าไม่ฟ้องดีกว่า"
"สำหรับสามีหลังจากเกิดเรื่อง เขาบอกว่าเห็นมั้ย บอกแล้วว่าต้องระวัง ต่อไปนี้มีอะไรก็ปรึกษาสามีหน่อย ด้วยความที่เราเป็นคนไว คือบ้านด้าจะเป็นบ้านที่แยกกระเป๋ากัน บางทีก็ไม่ได้ปรึกษาคนในครอบครัว เราคิดเองคนเดียว เขาบอกว่าต่อไปนี้ก็ปรึกษากันสักนิดนึง เขาก็จะได้ช่วยห้ามหน่อย แต่ไม่ให้สามีดูแลเงินเลย ขอดูแลตัวเอง"
"เพราะในช่วงสองอาทิตย์ที่ผ่านมา ยอมรับว่าหนักมาก วุ่นวายมาก เพราะทุกที เอ็นเนอร์จี้ของด้า จะถูกใช้ในการทำงาน แต่กลายเป็นว่าเอ็นเนอร์จี้ทั้งหมดในตอนนี้ไปอยู่กับข่าว ไปโฟกัส ทำให้ตอนนี้งานในบริษัทไม่ค่อยได้ดูแล ช่วงที่ผ่านมาไม่ได้ไลฟ์ขายของเลย ให้ลูกน้องไลฟ์แทน แต่ตอนนี้มันก็คลี่คลายดีแล้ว ทุกอย่างมันชัดเจนมากขึ้น ก็จะหันมาตั้งใจทำงานมากขึ้น ทิศทางก็ดีขึ้น พอเราตัดอารมณ์โกรธหรือโมโหออกไป ทุกอย่างมันดีขึ้นเยอะมาก หลายคนมีการให้กำลังใจเยอะมากก็ได้มีการอ่าน มีหลายๆ คนส่งข้อความอินบ็อกซ์มาหาทุกช่องทาง พอเราได้อ่านเราก็เลยรู้สึกว่ามีคนที่เข้าใจเราและให้กำลังใจเราเยอะมากๆ ก็ขอบคุณทุกคนเลย ส่วนกรณีที่ทัวร์หันไปลงที่เจ้าหนี้แทนในช่วงนี้ตนไม่สามารถตอบได้ไม่ขอตอบคำถามนี้ดีกว่าจริงๆค่ะ"
Advertisement