ความยากที่กว่าจะได้มา! 4 มงกุฎระดับโลกในประวัติศาสตร์นางงามประเทศไทย
ความยากที่กว่าจะได้มา 4 มงกุฎเวทีระดับโลกในประวัติศาสตร์นางงามประเทศไทย เติมเต็มความสุขแฟนนางงาม
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
31 พฤษภาคม 2568 ประเทศไทยได้บันทึกศาสตร์ครั้งใหม่ในหน้าการประกวดนางงามเวทีโลก หลัง โอปอล สุชาตา ช่วงศรี ตัวแทนสาวไทยได้สร้างสถิติและความสำเร็จ ด้วยการคว้าตำแหน่ง Miss World 2025 เป็นมงกุฎมงแรกของประเทศไทยได้สำเร็จในรอบ 72 ปี สร้างความภาคภูมิใจให้คนไทยทั้งประเทศ โดยเฉพาะแฟนนางงามไทย ที่เหมือนได้นอนหลับฝันดีในคืนดังกล่าว เป็นของขวัญสุดล้ำค่าให้ทำเนียบสายสะพายประเทศไทย
ทำให้ประเทศไทยมีชื่อติดในทำเนียบเวทีประกวดนางงามระดับโลกที่ถูกยกให้เป็นเวที Grand Slam 4 เวที ซึ่งแต่ละเวทีกว่าจะได้มา มีความยากความหินแตกต่างกันไป
4 มงกุฎประกวดระดับโลกที่ประเทศไทยทำสำเร็จ
Miss Universe ปี 1965
การประกวดนางงามจักรวาล หรือ Miss Universe ครั้งที่ 14 นับตั้งแต่ก่อตั้งขึ้นมา ในปีนั้นจัดการประกวดจัดขึ้นที่ไมอามี่ รัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา มีผู้เข้าประกวด 57 คน จากทั่วโลก ตัวแทนประเทศไทยในครั้งนั้นคือ ปุ๊ก อาภัสรา หงสกุล สาวงามในวัยเพียง 18 ปี ได้สร้างประวัติศาสตร์ให้กับวงการนางงามไทย ด้วยการคว้ามงกุฏจากเวทีนางงามมิสยูนิเวิร์สเป็นมงแรกของประเทศไทย และเป็นนางงามเอเชียคนที่สองต่อจาก อากิโกะ โคจิมะ มิสยูนิเวิร์สจากประเทศญี่ปุ่นในปี 1959
ปุ๊ก อาภัสรา คือผู้สร้างตำนานประโยค โปรดมาเที่ยวที่เมืองของฉัน ให้ประเทศไทยถูกมองเห็นในสายตาชาวโลก ที่ ณ ขณะนั้นมีหลายคนยังไม่รู้จักประเทศไทย ด้วยรอยยิ้มที่สวยหวาน ตราตรึงใจ
Miss International ปี 2019
ความสำเร็จในรอบ 59 ปี ของตัวแทนสาวไทยบนเวที Miss International 2019 โดย บิ๊นท์ สิรีธร ลีห์อร่ามวัฒน์ ตัวแทนสายสะพายไทยแลนด์ เป็นคนแรกที่สามารถคว้ามงสำเร็จ อีกหนึ่งเวทีประกวดนางงามที่แฟนนางงามไทยรอคอยความสำเร็จนี้มานานแสนนาน ซึ่งตัวแทนของไทยเคยเข้าไปใกล้มงมากที่สุดด้วยการคว้าตำแหน่งรองอันดับ 1 ได้ในปี 1971 และ 2010
"คุณรู้ไหมคะ ฉันโดนวิจารณ์อย่างหนัก เมื่อครั้งได้รับตำแหน่งนางสาวไทย แต่ฉันไม่เคยยอมแพ้ และตอนนี้ฉันมายืนบนเวทีแห่งนี้แล้ว ฉันกล้าที่จะฝันที่จะเป็นนางงาม แม้จะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับอาชีพของฉันที่เป็นเภสัชกร ฉันเอาคำวิจารณ์ต่างๆ มาเป็นพลังในการพัฒนาปรับปรุงตัวเอง เพื่อที่จะเป็นตัวแทนของประเทศที่ดีที่สุด และสร้างความภูมิใจให้แก่ประเทศของฉัน ดังนั้นคำจำกัดความของคำว่า “พลังแห่งผู้หญิง” ของฉันคือ เราจะเป็นกำลังใจ ช่วยสนับสนุน และเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้หญิงทั่วโลก ที่จะสร้างฝันให้เป็นจริง และสร้างสิ่งที่ยอดเยี่ยมให้แก่โลกของเรา ถ้าฉันได้รับเกียรติให้เป็นมิสอินเตอร์เนชั่นแนล 2019 ฉันจะเป็นแรงบันดาลใจให้กับทุกคนว่า ถ้าผู้หญิงธรรมดาอย่างฉันสามารถทำได้ พวกคุณทุกคนก็ทำได้เช่นกัน ขอบคุณค่ะ" คำตอบที่พา บิ๊นท์ สิรีธร คว้ามงกุฎในครั้งนั้น จากการตอบคำถามบนเวที ในหัวข้อคำจำกัดความคำว่า พลังแห่งผู้หญิง จนชนะใจกรรมการมาได้
อย่างไรก็ตามนอกจากจะได้มงกุฎ Miss International 2019 บิ๊นท์ สิรีธร ยังได้ตำแหน่ง Queen of Asia อีกรางวัล พร้อมได้ครองตำแหน่ง 3 ปีซ้อน เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ที่ทำให้ไม่สามารถจัดการประกวดได้ ทำให้ บิ๊นท์กลายเป็นนางงามที่ได้ดำรงตำแหน่งยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์การประกวดนางงาม และเป็นความภาคภูมิใจของแฟนนางงามนับตั้งแต่วันที่ได้รับตำแหน่งมาจนถึงทุกวันนี้
Miss Supranational 2019
ปีทองของนางงามไทย เมื่อแฟนนางงามได้เฮลั่นทั้งประเทศจากความสำเร็จของตัวแทนประเทศไทยในการประกวด Miss Supranational 2019 โดย แอนโทเนีย โพซิ้ว คว้ามงแรกให้ประเทศไทยได้สำเร็จ หลังไทยส่งตัวแทนเข้าร่วมการประกวดมาตั้งแต่ปี 2010 มอบความสุขเป็นของขวัญส่งท้ายปีให้คนไทยและแฟนนางงามทั้งประเทศ
แม้เวที Miss Supranational จะเป็นเวทีน้องใหม่ เพิ่งก่อตั้งขึ้นมาเมื่อปี 2009 แต่ประเทศไทยก็ได้ประทับตราความสำเร็จบนเวทีแห่งนี้ไปเป็นที่เรียบร้อย
Miss World ปี 2025
เวทีประกวดนางงามที่เก่าแก่ที่สุดของโลก มีความยากและหินโดดเด่นต่างจากเวทีประกวดนางงามเวทีอื่น เป็นการประกวดนางงามที่ให้ความรู้สึกเหมือนเหล่านางงามมาแข่งขันโอลิมปิก ที่ต้องใช้ทั้งความสวยอันเป็นพื้นฐานของการประกวดนางงาม ความรู้ ทักษะในเชิงวิชาการ ยังมีเรื่องโครงการที่ทำเพื่อสังคม เพื่อให้ตอบโจทย์ Beauty with a Purpose งามอย่างมีคุณค่า ตลอดจนความสามารถรอบด้าน ถึงจะจับใจป้าจู จูเลีย มอร์ลีย์ ประธานองค์กรมิสเวิลด์ได้สำเร็จ
ซึ่งล่าสุดในการประกวด Miss World 2025 โอปอล สุชาตา ช่วงศรี ตัวแทนไทยแลนด์ได้ทำมันสำเร็จ โดยไม่มีข้อกังขาในสายตาแฟนนางงามทั่วโลก คว้ามงฟ้าเป็นประวัติศาสตร์ให้กับประเทศไทยหลังแฟนนางงามรอคอยกันมานานแสนนาน
จูเลีย มอร์ลีย์ ประธานองค์กรมิสเวิลด์ ซึ่งเป็นประธานคณะกรรมการตัดสิน ได้กล่าวถึงโอปอลหลังจากพิธีมอบมงกุฎ ว่า “คืนนี้โลกไม่เพียงได้เห็นความสวยงามเท่านั้น แต่ยังได้เห็นความเฉลียวฉลาด ความกล้าหาญ และการเรียกร้องให้เกิดการเปลี่ยนแปลง โอปอลได้แสดงให้เราเห็นว่าเธอเป็นมากกว่าผู้ชนะ เธอเป็นผู้หญิงที่มีจุดมุ่งหมาย และมีเสียงที่โลกพร้อมที่จะรับฟัง”
เป็นความสำเร็จที่ได้สร้างความสุขและความภาคภูมิใจให้กับแฟนนางงาม ได้อิ่มเอมในโมเมนต์ความสำเร็จที่รอคอยมานานถึง 72 ปี อย่างสมบูรณ์แบบ
Advertisement
