"โอปอล สุชาตา" สร้างประวัติศาสตร์ คว้ามง Miss World คนแรกของไทยสำเร็จ!
โอปอล สุชาตา ช่วงศรี สร้างประวัติศาสตร์ให้ประเทศไทย ด้วยการคว้ามงกุฎ Miss World 2025 เป็นมงฟ้ามงแรกของประวัติศาสตร์นางงามไทย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
นำความภาคภูมิใจมาสู่คนไทยโดยเฉพาะนางงาม สำหรับ โอปอล สุชาตา ช่วงศรี ตัวแทนสาวไทยในการประกวด Miss World 2025 เวทีนางงามเก่าแก่ของโลก ซึ่งครั้งนี้จัดขึ้นที่ไฮเท็กซ์ เอ็กซิบิชั่น เซ็นเตอร์ ในไฮเดอราบาด รัฐเตลังคานา ประเทศอินเดีย ด้วยการสร้างประวัติศาสตร์ให้ประเทศไทย คว้าตำแหน่ง Miss World 2025 สำเร็จ เป็นมงฟ้ามงแรกของประวัติศาสตร์นางงามไทย!
โอปอลเปิดตัวตามรอบแบ่งทวีป ในชุดราตรีที่เป็นสัญลักษณ์แห่งการเยียวยารักษาด้วยพลังอันแข็งแกร่งและเงียบสงบ โดยได้รับแรงบันดาลใจจากการเดินทางของ Opal For HER ซึ่งตัดเย็บด้วยจิตวิญญาณและสัญลักษณ์จากโอปอลเอง นั่นคืออัญมณีที่ขึ้นชื่อในด้านความยืดหยุ่น ความงาม และการเปลี่ยนแปลง ผ้าสีขาวแวววาวและลายดอกไม้ที่บอบบางราวกับโอปอลสะท้อนถึงผู้หญิงที่เลือกความหวังมากกว่าความกลัว ชุดราตรีทรงบานสะท้อนถึงเอฟเฟกต์ระลอกคลื่นของความเมตตากรุณา ซึ่งก็คือหัวใจเพียงดวงเดียวสามารถปลุกคนจำนวนมากให้ตื่นขึ้นได้ คริสตัลของ Swarovski ส่องประกายราวกับแสงสว่างภายในที่นำทางเราผ่านความมืดมิด ชุดราตรีนี้เป็นมากกว่าชุดเดรส แต่เป็นเครื่องบรรณาการแด่ผู้หญิงทุกคนที่กล้าที่จะฝัน แม้จะเผชิญกับความไม่แน่นอน เช่นเดียวกับโอปอล เธอเปล่งประกายด้วยแสงของตัวเอง ตัดเย็บและออกแบบโดย แบรนด์ GL Garlet Design
ก่อนจะผ่านเข้ารอบ Top 40 ซึ่งจะถูกเรียกชื่อจาก 4 ทวีป ทวีปละ 10 คน โดยไทยแลนด์อยู่ในกลุ่มทวีปเอเชีย&โอเชียเนีย ชื่อไทยแลนด์ ถูกเรียกเป็นคนที่ 3 ของกลุ่ม พาแฟนนางงามใจชื้นไปตามๆ กัน
ต่อมาในการคัดเลือกสาวเข้ารอบ Top 20 โดยคัดเลือกสาวงามทวีปละ 5 คน ส่วนของทวีปเอเชีย&โอเชียเนียนั้น มี 5 สาวงามที่ผ่านเข้ารอบได้แก่ ออสเตรเลีย , อินเดีย , เลบานอน , ฟิลิปปินส์ และ ไทยแลนด์ เป็นคนสุดท้ายที่ถูกเรียก ทำแฟนนางงามลุ้นแทบหัวใจวายไปตามๆ กัน
ก่อนนาทีชวนลุ้นระทึกจะรุนแรงมากขึ้น เมื่อมาถึงรอบ Top 8 เรียกชื่อสาวงามทวีปละ 2 คน สำหรับทวีปเอเชีย&โอเชียเนีย สาวงามที่ผ่านเข้าไปได้ คือ ฟิลิปปินส์ และ ไทยแลนด์ โอปอล สุชาตา ช่วงศรี ซึ่งทั้งสองสาวจะต้องตอบคำถามเดียวกัน จากคำถามที่ถามว่า
คุณคิดว่าคุณควรได้เป็นมิสเวิลด์ ตัวแทนจากเอเชียและโอเชียเนียหรือไม่?
โดยโอปอลตอบว่า "สำหรับคำถามนี้ โอปอลมองว่ามันเหมือนกับการดูแลสวนดอกไม้ค่ะ ใคร ๆ ก็สามารถรดน้ำต้นไม้ได้ แต่ถ้าจะทำให้สวนงดงามและยั่งยืนจริง ๆ ต้องมีใครสักคนที่อยู่ดูแลมันอย่างต่อเนื่อง และสิ่งนี้ก็เหมือนกับบทบาทของ Miss Asia & Oceania ไม่ใช่แค่การแนะนำตัวเองพร้อมตำแหน่งที่ได้รับ แต่คือการทำให้ผู้คนรู้สึกได้ว่า โอปอลอยู่ตรงนี้เพื่อพวกเขา ยืนหยัดเคียงข้างพวกเขาจริง ๆ ผ่านโครงการ Beauty with a Purpose โอปอลได้เรียนรู้ว่า การใช้ชีวิตอย่างมีคุณค่าคือการมอบชีวิตและความฝันกลับคืนให้กับผู้ที่เคยสูญเสียมันไป และนั่นคือเหตุผลที่โอปอลยืนอยู่ตรงนี้ในวันนี้ เพื่อเป็นแสงแห่งความหวัง เป็นพลังแห่งความเข้มแข็ง และเพื่อทิ้งไว้ซึ่งร่องรอยของความหมาย จนถึงลมหายใจสุดท้ายของชีวิต"
ก่อนชื่อของประเทศไทยจะถูกเรียกขึ้นผ่านเข้าไปในรอบ Top 4 ทำแฟนนางงามไทยลุ้นจนนั่งไม่ติด โดยสาวงาม 4 คนสุดท้ายได้แก่สาวงามจาก มาร์ตินีค เอธิโปเปีย โปแลนด์ และไทยแลนด์ เข้าไปจับไมค์ตอบคำถามกันอีกรอบ ซึ่งรอบนี้สาวงามจะจับสลากเลือกซองคำถามจากคณะกรรมการที่อยู่หน้าเวที
“การเดินทางครั้งนี้สอนคุณอย่างไรเกี่ยวกับความจริง และความรับผิดชอบส่วนบุคคลในการกำหนดเรื่องราวที่ถูกเล่าขาน?” คือคำถามที่โอปอลได้รับและได้ตอบเป็นคนสุดท้าย
"การได้มายืนอยู่ตรงนี้ ถือเป็นโอกาสที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตของโอปอลเลยค่ะ สิ่งหนึ่งที่โอปอลได้เรียนรู้จากการอยู่บนเวทีมิสเวิลด์คือ ความรับผิดชอบต่อการที่ความจริงจะถูกถ่ายทอดออกไปอย่างไร และสิ่งที่สำคัญที่สุดที่โอปอล รวมถึงผู้เข้าประกวดทุกคน รวมถึงทุกคนในห้องนี้สามารถทำได้ ก็คือ การเป็นบุคคลต้นแบบที่คนรอบตัวสามารถยึดถือเป็นแบบอย่างได้
โอปอลเชื่อมาเสมอว่า ไม่ว่าเราจะเป็นใคร จะอายุเท่าไหร่ หรือจะมีบทบาทหรือหน้าที่ใดในชีวิต ยังไงก็ต้องมีใครสักคนหนึ่งที่มองขึ้นมาหาเรา อาจเป็นเด็กเล็ก คนรอบตัว หรือแม้แต่พ่อแม่ของเราเอง และวิธีที่ดีที่สุดในการนำทางคนเหล่านั้นก็คือ การเป็นผู้นำผ่านความอ่อนโยนและการกระทำของเราเองเพราะการกระทำของเรานั้น เสียงดังกว่าคำพูดเสมอ นั่นคือสิ่งที่ดีที่สุดที่เราสามารถมอบให้กับคนรอบข้างและกับโลกใบนี้ ขอบคุณมากค่ะ ขอให้ทุกคนโชคดี และอย่าลืมว่าจงมั่นคง และใช้การกระทำเป็นเสียงที่ดังกว่าคำพูด"
เรียกเสียงปรบมือจากแฟนนางงามที่ลุ้นติดขอบหน้าจอ ก่อนที่การประกวดจะเดินทางมาถึงช่วงท้ายที่ชวนแฟนนางงามนั่งไม่ติดเก้าอี้ เมื่อ จูเลีย มอร์ลีย์ เจ้าของเวทีมิสเวิลด์ ได้เป็นผู้ขึ้นมาประกาศผลว่าสาวงามคนใดจะเป็นผู้คว้ามงกุฎมิสเวิลด์ 2025
โดยเริ่มจากอันดับ 4 ได้แก่สาวงาม มาร์ตินีค
อันดับ 3 สาวงามจากโปแลนด์
เหลือไทยแลนด์และเอธิโปเปีย เป็นสองคนสุดท้ายยืนจับมือกันลุ้นมง ก่อนที่เสียงของจูเลีย จะขานชื่อประเทศไทยขึ้นมาว่าเป็นผู้ที่ได้รับตำแหน่งมิสเวิลด์ 2025 และอันดับสองคือสาวงามจากเอธิโอเปีย
ถือเป็นมงฟ้ามงแรกในประวัติศาสตร์นางงามของไทย จากตัวแทนที่ชื่อ โอปอล สุชาตา ช่วงศรี โดยมีแฟนๆ ร่วมแสดงความยินดีกับความสำเร็จครั้งใหม่ของโอปอลและประเทศไทยกันทั่วประเทศ
Advertisement
