จบด้วยดี! "ประจักษ์ชัย" - "โม" แถลงข่าวร่วมกัน ยอมกลืนเลือด เจ็บเอง

จบด้วยดี! "นายห้างประจักษ์ชัย" - "โม" แถลงข่าวร่วมกัน ไม่ฟ้องร้องกัน ยอมกลืนเลือด ยอมเจ็บเอง พร้อมเคลียร์ทุกประเด็น

นายประจักษ์ชัย ไหทองคำ หรือ นายห้างประจักษ์ชัย เจ้าของค่าย ไหทองคำ ได้ออกมาแถลงข่าวร่วมกับ โม อดีตแฟนสาวของ บอส เอวหวาน ภายหลังที่ได้มีการออกรายการ โหนกระแส และได้ขอขมากัน ซึ่ง นายห้างประจักษ์ชัย ก็ได้ให้อภัยและกล่าวให้จบทุกอย่าง จะไม่มีการฟ้องกันอีก

อยากให้จบด้วยดี เมื่อวานมันมีจังหวะที่ สื่อและเพจต่างๆ โพสต์ไปในทางที่เราเป็นฝ่ายตั้งรับ ที่จริงเราเป็นผู้เสียหายด้วย นอกจากน้องลำไย หลังขจากที่เรามีข้อพิพาทแล้วก็มีข้อตกลงว่าเราจะไม่เผยแพร่ สิ่งที่มันเป็นภาพที่ไม่เหมาะสม และได้มีการยุติข้อพิพาทโดยการจ่ายเงินให้กับน้องโมเป็นเงิน 2 ล้าน พอมีประเด็นขึ้นมา เราก็มีสิทธิ์ที่จะสงสัยว่าสิ่งที่ออกมาจากเพจต่างๆ หรือในสื่อของน้อง น่าจะหลุดออกมาจากใคร คนต้นๆ เลยที่จะต้องถูกสงสัยก็คือ น้องโม เพราะเราไปทำข้อตกลงนี้ไว้ เพื่อระงับความลับบางอย่าง

"ที่จะฟ้อง 20 ล้านเพื่อว่า ในสัญญาผมเพิ่งเห็นเมื่อ 2 -3 วันที่ผ่านมา ถ้าน้องผิด ไม่ใช่ฝั่งผมผิดนะ เพราะผมเป็นคนเสียหาย ก็คือระงับความเสียหายที่จะเกิดขึ้น ก็เลยจ่ายให้น้องไว้ตามที่น้องพอใจ ตอนแรกเรียก 10 ล้าน หรือ 5 ล้าน อะไรก็แล้วแต่ แต่มาจบที่ 2 ล้าน ก็เลยคิดว่า น่าจะออกมาจากน้องเป็นผคนเผยแพร่ ก็เลยต้องเรียก 20 ล้าน ภายใต้หมวดของบันทึกข้อตกลงว่าถ้างั้น น้องเป็นคนผิดข้อตกลงก็น่าจะเรียกน้อง 20 ล้านเบื้องต้น"

เมื่อถามว่า สรุปตอนนี้จะมีการฟ้องร้องโมหรือไม่ นายห้างประจักษ์บอกว่า "ผมได้บอกเปรยๆ ว่า ถ้าน้องจะจบ หรือ ไม่จบ ยังไง มันจะจบที่ผมคนเดียว ไม่ใช่ที่ ลำไยหรือแอนนา ลำไยก็เสียหาย จะฟ้องหรือไม่ฟ้องก็อีกเรื่องหนึ่ง ข้อตกลงนั้นเป็นในนามของบริษัทเป็นตัวกลางและทำสัญญาผ่านบริษัท เราก็เสียหาย ในบันทึกถ้าทำให้ศิลปินเสียหาย ค่ายก็เสียหายด้วยอยู่แล้ว มันคือ ไหทองคำ น้องก็รับปาก พอมันเสียหายก็เป็นสิทธิที่จะต้องรักษาสิทธิ์ของค่ายด้วย ก็เลยต้องมีการออกมาบอกว่าผมต้องฟ้องในส่วนของผมด้วย ไม่ว่าจะเป็นทางอาญา หมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา หรือจะฟ้องในทางแพ่ง ก็เป็นสิทธิ์ที่ผมจะพูดเมื่อวานนี้"

เมื่อมาออกรายการ มีทิศทางที่ดีขึ้น น้องพร้อมที่รับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น ปฏิเสธว่าไม่ได้ทำ แล้วน้องออกมาขอโทษด้วยความบริสุทธิ์ใจ สิ่งที่ผมจะทำได้ก็คือ ผมก็ต้องกลืนเลือด กลืนน้ำตาบ้าง บางทีก็มีช็อตฟีลบ้าง ความตั้งใจแรกเราต้องรักษาองค์กร เราต้องขึ้นโรงขึ้นศาล มันเป็นวิถีที่ต้องทำต่อไปอยู่แล้ว แต่ในเมื่อมันต้องจบแบบนี้ ผมก็ต้องกลืน ภาพต่างๆ มันนำกลับมาไม่ได้หรอก ผมไปฟ้องใช้ระยะเวลาฟ้อง ได้ในข้อฎหมายจริง จะจบกี่ปีก็ช่าง ไม่ได้ 10 ล้าน 20 ล้าน ก็ไม่เป็นไร ผมก็ต้องฟ้องตามวิถี ไม่งั้นคนก็จะมองว่า ไหทองคำไม่มีน้ำยา

"แต่ในเมื่อ น้องสำนึก ขอโทษด้วยใจบริสุทธิ์ แล้วผมจะทำยังไงได้ สุดท้ายก็อ้ายเจ็บ กลืนมา 7 ปี ก็ต้องกลืนเข้าไปอีก กลืนแล้วกลืนเล่า แก้ปัญหาให้กับทีมงาน ทุกอย่างผมสร้างไหทองคำมา ถ้ามันจะแตกสลาย ก็ต้องแตกสลายเพราะมือผม ผมต้องมาปกป้องเพราะลำไยไม่ได้แถว่าไม่ได้ผิด ให้แอนไปประสานจบตรงนี้ รับผิดชอบต่อน้องได้รับความเสียหาย กระทบสิทธิ์ในความรักของน้องทั้ง 2 คน สิ่งที่ต้องชดใช้ ชดเชย ก็ได้ให้น้องไปแล้ว ลำไยก็ยอมรับในความผิดที่เกิดขึ้น"

"ซึ่งวันนี้น้องมาดูแววตา ไม่ใช่คนขี้ดื้อ มาเจอช็อตฟีลแบบนี้สุดท้ายก็คือ อ้ายเจ็บ กลืนต่อไป เพราะว่ากว่าจะได้ กว่าจะสำเร็จอะไรสักอย่าง ผมต้องเจ็บทุกครั้ง"

จริงๆ ไม่ได้เป็นคนโหดร้าย น้องเป็นผู้หญิงด้วย ผมเปิดช่องตั้งแต่เมื่อวานแล้ว ถ้าน้องติดต่อมา อยากจะคุยกับอาจารย์ หรือหาทางลงกับอาจารย์ ผมต้องทำให้เกิดมาตรการว่า ผมรู้กฎหมาย ใช้กฎหมายเป็น ถ้าผมไม่ฟ้อง เพจต่างๆ หรือพวกที่ไม่ประสงค์ดีต่อค่าย คนอยากซ้ำเติมก็มี เพราะความดังของ ลำไย ที่ดังมาก เป็นซุปเปอร์สตาร์เบอร์ต้นๆ ของเมืองไทยในชั่วโมงนี้ ฉะนั้น หากไม่แสดงการปกป้องต่อองค์กร มันก็ดูกระไรอยู่ แต่เมื่อน้องสำนึกมา สิ่งที่จะเกิดขึ้นก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ ก็ต้องให้อภัยกัน เพราะสังคมไทยเป็นสังคมแห่งการเข้าใจกัน ให้อภัยกัน อ่อนน้อมถ่อมตน

ถือว่าเป็นสิ่งที่หลายคนก็เครียด สิ่งที่มันเผยแพร่บน TikTok ทั้งภาพเหมือน มีคนหน้าเหมือนลำไยด้วย บางคนก็มีวิจารณญาณว่าไม่ใช่ลำไย มันเจ็บ เท่ากับว่าผมเสียเงิน 2 ล้าน เสียชื่อเสียง เอาอะไรคืนมาไม่ได้ ก็ไม่เคยยอมใครง่ายๆ แต่ต้องมายอมให้น้องโม กลายเป็นว่า ผมกับน้องโมกลายเป็นเจ้ากรรมนายเวร ชาติที่แล้วผมอาจทำร้ายน้องโม ถือว่าอโหลิกรรมให้กัน จะได้ไม่มีอะไรต่อกัน หลังจากนี้ต่างคนต่างทำงาน จะไม่ไปไลฟ์สดในเรื่องเหล่านี้กับโมอีก อยากได้เงิน 2 ล้านคืนไหม ก็ยังอยากได้คืนอยู่ แต่ก็ไม่เป็นไร ไม่ตายก็หาได้ใหม่

"ผมยังจะไปฟ้องหย่ากับเมียอยู่เลย เงิน 2 ล้านเอาไปจ่ายไม่บอกผัวเลย เท่ากับว่าเงินสมรสผมหายไปด้วย อาจารย์เสียสละให้น้องโม 1 ล้านนะ"

เมื่อถามว่าหลังจากนี้จะทำกับบอสยังไงต่อ นายห้างประจักษ์ชัย บอกว่า "มันผ่านมาแล้ว แค่นี้น้องก็ไม่มีงาน จากที่มีงานทุกวัน ถ้าไม่ได้อยู่กับลำไย ไปเต้นธรรมดาก็อาจจะไม่ได้ค่าตัวเยอะเท่าอยู่กับลำไย ถ้าน้องไม่มีรายได้ก็ให้น้องไปตั้งหลักก่อน เอาวิกฤติเป็นโอกาส มีผู้จัดหนัง ละคร ติดต่อเข้ามาก็อาจจะเป็นช่องทาง ก็ดีใจกับน้อง อย่างน้อยก็ได้โอกาสไปแสดง"

"ส่วนโอกาสกับไหทองคำนั้น คือจบ เพราะเราต้องรักษาความรู้สึกของแฟนคลับ แฟนเพลง ฉะนั้นต่างคนต่างทำงานที่ตัวเองถนัด แล้วเดินหน้าต่อไป ถ้าเขาไม่ได้เอาคลิปไปออก เราจะไปตามหาต่อมันก็จะเสียหายอีก กลายเป็นแผลในใจของผม ก็ก้มหน้ารับต่อไป เป็นวิบากกรรมของผม เพจต่างๆ ก็ไม่ยุ่งแล้ว ไปฟ้องก็เจ็บเนื้อ เสียเวลา"

"สภาพจิตใจลำไยตอนนี้ดีขึ้น จะให้ลำไยออกสื่อแสดงความเสียใจ ขอโทษ ต่อแฟนคลับ สื่อมวลชน ขอโอกาสในการทำงานต่อไป ถามว่าผิดหวังไหม ก็ต้องยอมรับ ไม่ได้ตั้งใจให้มันเกิดขึ้น มันเป็นอุบัติเหตุ ผมอยู่กับความเป็นจริง แค่น้องขอโทษก็จบ เงินไม่มีหาใหม่ได้"

พร้อมยืนยันว่า ที่บอกห้ามเด้านั้นพูดหยอกกัน เป็นมุข พอออกข่าวก็เป็นไวรัลไป ก็ปล่อยให้เล่นตามคิวเหมือนเดิม ยืนยันไม่ได้การทำคอนเทนต์เพื่อปล่อยเพลง ใครจะไปแลกกับการเสียชื่อเสียง

"มันเป็นไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน ไม่ว่าลำไยจะคบกับใคร จะกลับไปคบกับบอสอีกหรือไม่ เป็นเรื่องของแต่ละคน เด็กในค่ายจะคบกับใคร ก็แล้วแต่วาสนา แล้วแต่เธอ เอาที่เธอสบายใจ เพราะฉันคือค่ายเพลง ไม่ถึงขั้นออกกฎห้ามคนในค่ายรักกัน นอนด้วยกันไปเลยยิ่งดี แค่ช่วยกันทำงาน "

ส่วนการเปลี่ยนแดนซ์เซอร์ชายเป็น LGBTQ นั้น ก็มีคิด แต่ใครที่พร้อม จะลุยกับเราก็รับได้หมด สำหรับบอสนั้นพักงานไปแล้ว 3 วัน ก็คุยกับน้องได้ยังเจอกันได้ ซึ่งยังไม่ได้นัดมาพูดคุย กับบอสก็เอ็นดูตลอด ความรู้สึกมันปรับจูนได้ แค่อภัยให้กัน ส่วนเงิน 2 ล้าน บอสใช้เงินมาแล้วไป 4-5 แสน เดือนละ 5 หมื่น หักได้ก็หักเลย ถ้าหลังจากนี้ไม่มีเงินมาคืนก็ปล่อยไป

"ลำไยกับปุ้ยกลับมาคบกันเหมือนเดิม รถปุ้ยยังอยู่บ้านลำไย ยินดีกับน้อง ไม่รู้อารมณ์ความรักของแต่ละคน แต่ละช่วงเวลา ไม่รู้ว่าทะเลาะอะไรกัน ไม่ได้ยุ่งเกี่ยว ยังมีโอกาสได้เห็นคอนเสิร์ตปุ้ยกับลำไยอยู่ แต่ตอนนี้ตงยังไม่มีเพลงคู่"

ส่วนที่แม่แอนโพสต์เมื่อวานก็ฮือฮาอยู่ เป็นคลิปที่อัดตอนตกลงกันไว้แค่นั้น ไม่ใช่คลิปอย่างอื่น แล้วเป็นคนลบเอง ไม่ได้สั่งให้ลบ

เมื่อถามว่าหลังจากนี้จะโพสต์อะไรเป็นที่ฮือฮาอีกไหม นายห้างประจักษ์ชัย บอกว่า "มันเป็นแทกติก ค่อยว่ากันทีละช็อต แล้วแต่อารมณ์ คิดอะไรได้ก็โพสต์ ผมก็เป็นอินฟลูเอ็นเซอร์คนหนึ่ง ส่วนคิวงานลำไยยังแน่นเหมือนเดิม ส่วนมาตรการการรับคนเข้าวงก็จะสกรีนมากขึ้น ถ้าบุญวาสนาว่าจะดังหรืออยู่นานหรือไม่ ก็อยู่ที่บุคลิกส่วนตัวพื้นฐานแต่ละคน"

ส่วน โม อดีตแฟนสาวขงบอสเอวหวาน ได้เปิดใจหลังได้รับการอภัยจาก นายห้างประจักษ์ชัย ว่า "ดีใจมากค่ะ ไม่ได้กลัวเรื่องโดนฟ้องอะไรเลย หนูตั้งใจมาขอโทษอาจารย์ หนูไม่รู้ว่าผลลัพธ์หลังจากนี้จะเป็นยังไง ซึ่งไม่คิดว่าอาจารย์จะยกโทษให้"

"ได้บทเรียนหลายอย่าง ทำอะไก็ต้องคิดให้ดีกว่านี้ หลังจากนี้ก็ไม่ได้ติดต่ออะไรกันอีกแล้ว (บอส) ทำงานต่อไป เลิกกันมานานแล้ว ไม่ได้โกรธ ยืนยันไม่ได้เป็นคนปล่อยคลิปที่กำลังถูกพูดถึงตอนนี้ พอมีเรื่องแบบนี้หลายวัน เครียดมาก พอจบก็รู้สึกดี หายใจคล่องขึ้น"

พร้อมฝากถึงอาจารญืว่า "ขอบคุณ และ ขอโทษ" ส่วนความแค้นกับบอสตอนนี้ยังมีนิดหนึ่ง ไม่ได้หายไป 100% ค่อยๆ หายไป แต่ตอนนี้ดีขึ้นแล้ว หลังจากนี้ก็จะไม่มีอะไรแล้ว เพราะไม่มีมาตั้งแต่ต้น ส่วนบอสขอโทษในรายการตั้งแต่เมื่อวานแล้ว ก็ให้อภัย