บุกจับ "ไอ้แม็ก" ฆ่าสาวเปลือย ฉุนโดนดูถูก อึ้งออกคุก 5 เดือนโผล่บีบคอสาวไซด์ไลน์ (คลิป)

กรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสมุทรปราการ เข้าตรวจสอบร่างของน.ส.จิราพร (สงวนนามสกุล) หรือ น้อยหน่า อายุ 27 ปี ที่นอนเสียชีวิตร่างกายเปลือยเปล่าอยู่บนเตียง ภายในห้องพักชั้น 2 ของอพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่ง อ.เมือง จ.สมุทรปราการ 

โดยภายในห้องไม่มีร่องรอยการรื้อค้นหรือต่อสู้ พบเพียงถุงยางอนามัยใช้แล้ว และยังไม่ได้ใช้อยู่ภายในห้องเท่านั้น หลังรับแจ้งจากผู้ดูแลว่ามีหญิงหมดสติอยู่ในห้องพักดังกล่าว ตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น 

ล่าสุดวันที่ 5 ก.ย.64 ตำรวจสภ.เมืองสมุทรปราการ สามารถจับตัวชายที่ก่อเหตุได้แล้ว ทราบชื่อว่า นายเอกพจน์ ครองยุติ หรือ แม็ก อายุ 33 ปี หลังก่อเหตุได้หลบหนีไปกบดานในพื้นที่จ.ปทุมธานี จากการสอบปากคำนายเอกพจน์ อ้างว่าแอบคบหากับหญิงผู้เสียชีวิตมาได้สักระยะ แต่ระหว่างที่อยู่ในห้องเกิดมีปากเสียงกันอย่างรุนแรง จึงลงมือบีบคอจนเสียชีวิต หลังก่อเหตุได้หยิบโทรศัพท์มือถือและสร้อยข้อมือของผู้เสียชีวิตไปด้วย ซึ่งจากการสอบปากคำเบื้องต้นยังให้การวกวน เนื่องจากติดยาเสพยาเสพติด

จากการตรวจสอบประวัติย้อนหลัง พบว่านายเอกพจน์ เคยก่อเหตุทำร้ายหญิงคนหนึ่งภายในห้องพักในพื้นที่ สน.บางนา และมีหมายจับติดตัว สำหรับพฤติกรรมพบว่านายเอกพจน์ ก่อเหตุมาแล้วหลายครั้งในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และจังหวัดใกล้เคียง เพิ่งจะพ้นโทษออกเมื่อช่วงเดือนเม.ย.64 ที่ผ่านมา ขณะเดียวกันหลายคนตั้งข้อสังเกตว่านายเอกพจน์ อาจจะติดเชื้อโควิด-19 ด้วยหรือไม่ หลังพบหญิงที่เสียชีวิตติดโควิด-19 ซึ่งจากการตรวจร่างกายเบื้องต้น ยังไม่พบเชื้อโควิด-19 

ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ได้พูดคุยกับน.ส.ส้ม (นามสมมติ) เพื่อนผู้ตาย กล่าวว่า ผู้ตายมีอาชีพเสริมทำงานไซด์ไลน์ โดยก่อนเกิดเหตุตนกับเพื่อนอีกคนรับงานให้ผ่านทางออนไลน์ ซึ่งมีผู้ชายชื่อว่าแม็ก ติดต่อเข้ามาหา เพื่อนของตนเป็นคนนัดกับนายแม็ก จากนั้นก็ประสานมาที่ตน โดยตนเป็นคนประสาน น.ส.จิราพร ซึ่งมีการนัดหมายกันเวลา 23.00 น. ของวันที่ 31 ส.ค.64

โดยนายแม็ก ไปถึงตรงเวลา จากนั้นน.ส.จิราพร ลงมารับและขึ้นไปอยู่บนห้องประมาณ 1 ชั่วโมง ซึ่งนายแม็กไม่เสร็จ จึงขอต่ออีก แต่น.ส.จิราพร บอกว่ามีลูกค้าอีกคนรออยู่ด้านล่าง นายแม็กจึงขอลงไปรอก่อน

จากนั้นช่วงเที่ยงคืนนายแม็ก ลงมาด้านล่าง ส่วนลูกค้าคนที่ 2 ขึ้นไปบนห้อง ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง กระทั่งเวลาผ่านไป 01.00 น. ก็กลับลงมา ขณะนั้นนายแม็ก ลูกค้ารายแรก ยังรออยู่ด้านล่าง น.ส.จิราพร จึงจำใจต้องลงไปรับ ขณะเดียวกันน.ส.จิราพร ได้ส่งคลิปเสียงมาบ่นกับตนว่า “เบื่อ ใครจะไปมีอารมณ์ตลอดเวลา” นอกจากนี้ ยังส่งคลิปที่ถ่ายตอนลงมารับนานแม็ก ระบุว่า “มันไม่สามารถบอกให้ยามมาส่งมันได้หรอก มันไม่มีสิทธิ์เพราะมันไม่ได้อาศัยอยู่ที่นี่” เพราะน.ส.จิราพร เบื่อที่ต้องลงมารับนายแม็กอีกรอบ

เวลา 01.05 น. ตนก็ส่งข้อความไปบอกว่า สู้ ๆ เป็นการให้กำลังใจ หลังจากนั้น น.ส.จิราพร ก็เงียบไป ไม่ตอบอะไรกลับมา กระทั่งเช้าอีกวันตนทักไปหาแต่อีกฝ่ายก็เงียบ จึงคุยกับเพื่อนที่เป็นคนนัดลูกค้าให้ทักไปถามนายแม็ก เพื่อนจึงทักไปถามว่าเมื่อคืนออกจากห้องมากี่โมง นายแม็กตัดบทว่า "ทำงานยุ่งอยู่" และไม่ตอบมาอีกเลย จากนั้นตนยังพยายามทักหาน.ส.จิราพร แต่ไม่มีการตอบรับ กระทั่งมาทราบข่าวว่า น.ส.จิราพร เสียชีวิตในช่วงเย็นวันที่ 3 ก.ย.64 ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ ส่วนตัวตกใจมาก ๆ เมื่อเห็นภาพจากกล้องวงจรปิด คิดว่าผู้ก่อเหตุน่าจะเป็นนายแม็ก เพราะช่วงเวลาที่ลงมารับใกล้เคียงที่น.ส.จิราพร บอก ประกอบกับนายแม็กบอกว่า ขับรถจักรยานยนต์ใส่เสื้อสีดำแขนยาวตอนนัดหมายกัน แต่ตนไม่รู้จักนายแม็ก มาก่อน เช่นเดียวกับ น.ส.จิราพร ก็ไม่รู้จัก เพราะเป็นลูกค้าที่ทักมาทางออนไลน์ จึงไม่เคยรู้ประวัติหรือนิสัยใจคอ

อย่างไรก็ตาม ก่อนเกิดเหตุน.ส.จิราพร มาขอให้หางานให้ เพราะต้องการเงินผ่อนรถ ซึ่งทางบ้านก็ไม่รู้ว่า น.ส.จิราพร รับงานดังกล่าว ขณะนี้ตนก็เสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยตนกับเพื่อนได้เข้าให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว พร้อมส่งหลักฐานทุกอย่างให้เจ้าหน้าที่ทั้งหมด คาดว่าจะสามารถจับตัวคนร้ายได้โดยเร็ว ๆ นี้ 

นายเอกพจน์ ครองยุติ ผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพอ้างว่า ตนรู้จักกับน.ส.จิราพร ผู้ตาย 4-5 วันผ่านทวิตเตอร์ จากนั้นจึงได้ขอซื้อบริการ ในราคา 1,300 บาท/ชั่วโมง เมื่อไปหาผู้ตายที่ห้องพักจุดเกิดเหตุ รอบแรกมีเพศสัมพันธ์กันแต่ไม่สำเร็จความใคร่ จึงขอต่ออีกรอบ แต่ฝ่ายหญิงพูดดูถูกเรื่องขนาดของอวัยวะเพศ และโรคติดต่อ 

ทั้งนี้ ด้วยความโมโหจึงทะเลาะกัน บีบคอจนฝ่ายหญิงสลบไป ไม่รู้ว่าเสียชีวิต ก่อนจะปลดสร้อยข้อมือทอง และโทรศัพท์ 3 เครื่องออกไป และหนีไปบ้านแฟนใหม่ ตนยอมรับว่าก่อนเกิดเหตุได้เสพยาไอซ์ไป 2 ถุง และเริ่มเสพยามาประมาณ 1 เดือนแล้ว ยืนยันว่าไม่ตั้งใจฆ่า

พ.ต.อ.ปิยวุฒิ แก้วมณี ผกก.สส.ภ.จว.สมุทรปราการ ระบุว่า เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพอ้างว่าคบหากับผู้ตายมาก่อน จากนั้นเกิดมีปากเสียงทะเลาะกันในคืนเกิดเหตุ จึงตัดสินใจบีบคอ น.ส.จิราพร จนทำให้ฝ่ายหญิงเสียชีวิต ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า นายเอกพจน์ มีสารเสพติดในร่างกาย และยังให้การวกวน จึงไม่สามารถเชื่อคำให้การได้ทั้งหมด

นอกจากนี้ จากการตรวจประวัติ พบว่าผู้ตายเคยก่อเหตุลักษณะเดียวกันในพื้นที่ สน.บางนา แต่ผู้หญิงไม่ได้ถึงแก่ความตาย ขณะนี้กำลังขยายผลเพิ่มเติม เพราะพบทรัพย์สินหลายรายการ ทั้งโทรศัพท์ และสร้อยทอง โดยล่าสุดเจ้าหน้าที่ได้นำตัวนางนก แฟนสาวของผู้ต้องหา ซึ่งเป็นพนักงานห้างแห่งหนึ่งย่านรังสิต เข้ามาให้ข้อมูลภายในห้องสอบผู้ต้องหาด้วย

ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวนางนก แฟนสาวออกไปสอบปากคำต่อที่ สภ.เมืองสมุทรปราการ โดยนางนก ระบุว่า เพิ่งคบกับนายเอกพจน์ได้ไม่นาน โดยรู้จักกันทางเฟซบุ๊ก จากนั้นก็ห่างกันไป ฝ่ายชายเพิ่งกลับมาหาตนวานนี้ (4 ก.ย.64) และไม่ได้พูดอะไร ที่ผ่านมานายเอกพจน์ ไม่ได้มีพฤติกรรมทำร้ายร่างกายหรือบีบคอผู้หญิง ส่วนตัวก็ไม่ทราบรายละเอียดที่เกิดขึ้น ตนยอมรับว่าตกใจ แต่ไม่กังวลเพราะไม่รู้เรื่องด้วย

สำหรับหลักฐานมัดตัวนายเอกพจน์ เนื่องจากภาพจากกล้องวงจรปิดในอพาร์ตเมนต์ พบภาพสุดท้ายของผู้ตายเมื่อช่วงเวลา 01.00 น. วันที่ 1 ก.ย.64 ขณะกำลังเดินลงมารับชายต้องสงสัยบริเวณด้านล่าง ก่อนจะพาขึ้นไปบนห้องจนพักใหญ่พบชายต้องสงสัยรายนี้ เดินออกมาจากห้อง และขี่รถจักรยานยนต์ออกไปอย่างปริศนา

ขณะที่ตำรวจเร่งหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม ทั้งภาพจากวงจรปิดและหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์โดยเฉพาะดีเอ็นเอจากถุงยางอนามัยที่พบในห้องพักของผู้ตายและผลชันสูตรที่ระบุว่า ผู้ตายเสียชีวิตจากการขาดอากาศหายใจ จึงทำให้มั่นใจได้ว่า ชายต้องสงสัยรายนี้ มีส่วนเกี่ยวข้องกับตายอย่างแน่นอน และยังทราบเบาะแสว่ามีรูปพรรณสัณฐานคล้ายกับคนร้ายที่เคยก่อเหตุลักษณะเดียวกันในพื้นที่ สน.บางนา กรุงเทพมหานคร

ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางไปยังหอพักที่มีการบุกเข้าจับกุม ลักษณะเป็นบ้านของเจ้าของหอพักด้านหน้า และด้านหลังเป็นหอพัก 2 ชั้น 

นางอุไร เถียรอ่ำ อายุ 67 ปี เจ้าของหอพัก กล่าวว่า ในวันนี้เวลา 14.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบหลายนายบุกเข้ามาจับกุมคนร้าย ภายในห้องพักชั้น 2 โดยจากการสอบถามเจ้าหน้าที่ตำรวจบอกว่า สืบทราบมาหลายวันแล้ว กระทั่งทราบว่านายเอกพจน์ หลบหนีมาอยู่ที่นี่ จึงบุกเข้ามาจับกุม ตนตกใจที่ตำรวจมาที่บ้าน แต่ไม่ได้กังวล โดยนายเอกพจน์ ก็ไม่สามารถหลบหนีได้ เนื่องจากหลังระเบียงมีตะแกรงเหล็กติดเอาไว้ และเขาเพิ่งจะมาอยู่ได้เพียง 2 วันเท่านั้น

ทีมข่าวได้รับภาพแชตไลน์ ที่แฟนสาวของนายเอกพจน์ มีการแชตหาเจ้าของหอพักให้เปิดประตูให้ฝ่ายชาย โดยระบุว่า “ป้ารบกวนไปเปิดห้องให้หน่อยนะคะ” และ “แฟนหนูมา เดี๋ยวเข้าห้องไม่ได้ค่ะ” 

ทีมข่าวยังได้พูดคุยกับน.ส.ศรีนวล (นามสมมติ) อายุ 42 ปี เพื่อนข้างห้อง เปิดเผยว่า ตนอยู่ที่หอพักแห่งนี้มาเกือบ 20 ปี แล้ว อาศัยอยู่กับสามีและลูก โดยตนพักอาศัยอยู่ห้องพัก เลขที่ 7 และ 8 ส่วนห้องที่มีการจับกุมคือห้องเลขที่ 9 ในช่วงที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาจับกุมนายเอกพจน์ ตนไม่เห็นเพราะกำลังนอนพักผ่อน แต่ได้ยินเสียงดัง จึงตื่นมาดูก็พบว่านายเอกพจน์ ถูกจับกุมตัวไปแล้ว เห็นเพียงเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ยังยืนเฝ้าอยู่ประมาณ 2-3 นาย จึงเดินเข้าไปสอบถามเจ้าของหอพักว่าเกิดอะไรขึ้น

โดยเมื่อ 2-3 วันที่ผ่านมา ตนทำงานกะกลางคืน ส่วนนางนกมาอยู่ที่นี่เพียง 2-3 เดือน ส่วนนายเอกพจน์ ตนไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน ไม่ทราบว่าคบหากับนางนกนานหรือยัง ยอมรับว่ากลัวและกังวลที่ผู้ต้องหามาหลบอยู่ห้องข้าง ๆ เพราะตลอดระยะเวลาที่ตนพักอาศัยอยู่ที่นี่ก็ไม่เคยเกิดเหตุการณ์ใด ๆ รุนแรง 

น.ส.จันเที่ยง สิงห์ซิว อายุ 58 ปี แม่ของผู้ตาย ได้นำอัฐิของลูกสาวมาสวดพระอภิธรรมที่บ้านเป็นคืนแรก โดยจะสวดทั้งหมด 3 คืน จากนั้นจะนำอัฐิไปเก็บไว้ที่วัดแถวบ้าน โดยน.ส.จันเที่ยง กล่าวว่า ตนได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าสามารถจับคนร้ายได้แล้ว ทำให้ตนและครอบครัวส่งเสียง “เฮ” ดังลั่นออกมาด้วยความดีใจ จากนี้ตนกับสามีจะดูแลเลี้ยงหลานต่อไป และขอให้ดวงวิญญาณของลูกสาวไปสู่สุคติ เมื่อวานนี้ (4 ก.ย.64) ตนได้เดินทางไปที่เกิดเหตุ ซึ่งเมื่อเห็นสภาพห้อง ตนจินตนาการถึงความทรมาน เชื่อว่าลูกสาวต้องดิ้นใจจะขาดขณะถูกบีบคออย่างแน่นอน 

ทั้งนี้ ตนไม่ทราบว่าลูกสาวเป็นสาวไซด์ไลน์หรือไม่ และไม่ทราบถึงปัญหาทางการเงิน เพราะลูกสาวไม่เคยบอก แต่ถึงอย่างไรคนร้ายก็ไม่ควรทำถึงแก่ชีวิตแบบนี้ ขณะนี้ตนใจเย็นลงแล้ว แต่หากตนได้เจอกับคนร้าย ตนก็อยากจะตีคนร้ายสัก 1 ที เพราะสุนัขยังไม่ดุร้ายเท่านี้ ตนขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและศาลดำเนินคดีให้ถึงที่สุด อยากให้คนร้ายถูกประหารชีวิต

จากการตรวจสอบประวัติย้อนหลัง พบว่านายเอกพจน์ เคยก่อเหตุทำร้ายหญิงคนหนึ่งภายในห้องพักในพื้นที่ สน.บางนา และมีหมายจับติดตัว สำหรับพฤติกรรมพบว่านายเอกพจน์ ก่อเหตุมาแล้วหลายครั้งในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และจังหวัดใกล้เคียง เพิ่งจะพ้นโทษออกเมื่อช่วงเดือนเม.ย.64 ที่ผ่านมา ขณะเดียวกันหลายคนตั้งข้อสังเกตว่านายเอกพจน์ อาจจะติดเชื้อโควิด-19 ด้วยหรือไม่ หลังพบหญิงที่เสียชีวิตติดโควิด-19 ซึ่งจากการตรวจร่างกายเบื้องต้น ยังไม่พบเชื้อโควิด-19 

จากการสอบถามพนักงานสอบสวน สน.บางนา ให้ข้อมูลว่า ผู้เสียหาย อายุ 30 ปี ทำงานเป็นสาวไซด์ไลน์ ได้เข้ามาแจ้งความว่า นายเอกพจน์ ติดต่อมาขอซื้อบริการ นัดหมายกันในวันที่ 1 ก.ย.64 ที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ย่านบางนา ซึ่งนายเอกพจน์ เดินมาถึงในเวลา 19.00 น. จากนั้นขึ้นไปบนห้อง แล้วเริ่มผลักผู้เสียหายลงบนเตียง พร้อมบีบคอ อ้างว่า "กูรับจ้างฆ่าหญิงขายบริการ"

ทั้งนี้ ยังบังคับให้บอกรหัสโทรศัพท์ ไม่เช่นนั้นจะฆ่า ผู้หญิงจึงต้องยอมบอก พร้อมยกมือไหว้ขอชีวิต ก่อนนายเอกพจน์ จะโอนเงินผ่านแอปพลิเคชันในโทรศัพท์ของฝ่ายหญิง เข้าบัญชีนายเอกพจน์ จำนวน 6,000 บาท พร้อมยึดโทรศัพท์เอาไว้

หลังจากนั้น ก็บังคับข่มขืน จนถึงเวลาประมาณ 22.00 น. โดยนายเอกพจน์ ได้ล็อกประตูห้อง ห้ามผู้หญิงออกไปด้านนอก จนถึงเวลา 05.00 น. จึงชวนให้ลงไปด้านล่างพร้อมกัน และขู่ว่าให้ทำตัวปกติ อย่าให้คนอื่นสงสัย ก่อนแยกย้ายกันกลับบ้าน โดยผู้ต้องหาได้เงินไป 6,000 บาท พร้อมโทรศัพท์ไอโฟน 7 ราคา 24,000 บาท

ทีมข่าวเดินทางไปโรงแรมจุดเกิดเหตุ ในซอยศรีนครินทร์ 65 พบเป็นโรงแรมสูงประมาณ 6 ชั้น สอบถามเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ระบุว่า ตนไม่ทราบเรื่องที่เกิดขึ้น แต่ทราบจากพนักงานว่า 2-3 วันก่อนมีผู้หญิงมาพร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจขอดูกล้องวงจรปิด อ้างว่าถูกทำร้าย โดยในคืนเกิดเหตุไม่มีการร้องขอความช่วยเหลือใด ๆ และตนก็จำหน้าผู้ต้องหาไม่ได้ เพราะในภาพใส่หมวกปิดบังใบหน้า