“สามเณร” ถูกตบหัวขณะบิณฑบาต อโหสิโจ๋คู่กรณี แม่โร่ขอขมาเผยลูกสติไม่ดี (คลิป)
กรณีกล้องวงจรปิดช่วงเช้า เวลา 06.00 น. ของวันที่ 9 ม.ค.64 จับภาพขณะที่วัยรุ่นชายเดินข้ามถนนมา แล้วตบหัวเณรที่เดินบิณบาตอยู่ริมถนน แต่เณรไม่ได้ตอบโต้กลับ ก่อนที่วัยรุ่นชายที่ก่อเหตุจะเดินข้ามถนนกลับไป ฝ่ายเณรซึ่งเดินมากัน 2 รูป ก็เดินจากจุดเกิดเหตุไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ล่าสุดวันที่ 11 ม.ค.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางมาที่วัดท่าช้าง หมู่ 2 ต.ลนาพรุ อ.พระพรหม จ.นครศรีธรรมราช พบเณรที่ถูกชายไม่ทราบชื่อตบหัว โดยเณร เล่าให้ทีมข่าวฟังว่า วันเกิดเหตุ เณรและเณรอีกองค์กำลังออกบิณฑบาตได้ 1 หลังแล้ว ระหว่างจะเดินไปอีกหลัง ก็พบโยมผู้ก่อเหตุขี่รถจักรยานยนต์ รูปร่างผอม ตัวเท่าเณรแต่งกายสวมเสื้อสีดำ นุ่งกางเกงยีนส์ จอดรถเดินปรี่เข้ามาพร้อมเรียกว่า “เณร ๆ” เณรคิดว่าโยมผู้ก่อเหตุจะใส่บาตร ก็เลยหันบาตรไป
แต่ปรากฎว่า โยมผู้ก่อเหตุกลับไม่ได้ใส่บาตร แต่ตบเข้าที่ท้ายทอยอย่างจัง ตอนนี้มึนหัวมาก ได้แต่ถามกลับไปว่า “มีอะไร” โยมก็มองหน้า แต่จังหวะนั้นมีรถกระบะโยมรายหนึ่งขับผ่านมาพอดี จึงลงมาสอบถามว่า “มีอะไรไหม” แต่โยมผู้ก่อเหตุก็วิ่งหนีขึ้นรถขี่บออกไปทันที ส่วนเณรก็เดินบิณฑบาตต่อ เพราะไม่ได้บาดเจ็บอะไรมาก ได้แต่พากันตกอกตกใจ
ทั้งนี้ช่วงเย็นวันที่ 10 ม.ค.64 ที่ผ่านมา มารดาของโยมผู้ก่อเหตุ และตา เดินทางมาพร้อมหน้ากัน โดยตาของโยมผู้ก่อเหตุยอมรับว่าหลานกระทำผิด อ้างว่าหลานชายป่วยเป็นโรคประสาท เคยติดยามาก่อน จากนั้นบอกว่าอย่าเอาเรื่องเลย พร้อมให้โยมผู้ก่อเหตุ กราบขอโทษ โดยผู้ก่อเหตุร้องไห้ พร้อมบอกว่า “เณรผมขอโทษนะ ผมจะไม่ทำอีกแล้ว หลังจากนี้ผมจะมาใส่บาตรเณร” ซึ่งตนไม่ติดใจเอาความ เพราะดูจากลักษณะท่าทางโยมผู้ก่อเหตุ ไม่ค่อยปกติ มีอาการ มึน ๆ หลอน ๆ
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เณรถือว่าโอเคมากแล้ว เพราะโยมรู้ตัวว่าทำผิดและมาขอโทษ ก็เลิกแล้วต่อกัน และอยากให้มารดาโยมผู้ก่อเหตุดูแลลูกชายดี ๆ สอนให้เป็นคนดี ไม่เกเร ไม่ติดยาก็พอแล้ว
นอกจากนี้ทีมข่าวได้พบกับมารดาผู้ก่อเหตุ ชายอายุ 19 ปี ที่ลงมือตบหัวเณร กล่าวว่า ขณะนี้ส่งตัวลูกชายให้ไปอยู่กับพ่อในอีกอำเภอหนึ่ง เพื่อคุมความพฤติกรรม และเว้นระยะการเจอเพื่อน ซึ่งวันเกิดเหตุตนไม่ทราบว่าลูกไปก่อเหตุมา แต่ช่วงเช้าที่ลูกออกไปข้างนอกและกลับเข้าบ้านมา ตาของลูกก็ถามว่าไปไหนมา ลูกก็ตอบว่าไปตลาด แต่มาช่วงเย็นก็พบคลิปตามที่เผยแพร่ในโลกโซเชียลฯ ซึ่งก็ชัดเจนว่าเป็นลูกของตน
ภาพที่ปรากฏตนยอมรับว่าลูกกระทำจริง จากนั้นจึงเดินทางไปหาเณร เพื่อให้ลูกขอขมา ขอโทษ ก่อนที่จะเดินทางไปพบ ผกก.สภ.พระพรหม ซึ่งก็มีการตรวจสารเสพติดและอบรม หลังจากนี้ต้องก็จะดูแลลูกอย่างใกล้ชิด ตนจึงบอกลูกและเปิดคลิปให้ลูกดู ว่านี่คือสิ่งที่ลูกทำลงไป มันผิด สังคมประณาม ถือเป็นบทเรียนของลูกได้เรียนรู้ ลูกก็น้ำตาไหล
ทั้งตนยอมรับลูกไม่ค่อยกินยา เวลาตนเตือนมักจะบอกว่า “เดี๋ยวก่อน ๆ” แล้วก็หายออกไปเจอเพื่อนจนไม่ได้กินยา สำหรับเหตุการณ์นี้เป็นครั้งแรกที่ลูกก่อเหตุรุนแรงขนาดนี้ ซึ่งลูกบอกเพียงว่าวันนั้นหงุดหงิด โมโห และตอบไม่ได้ว่าทำไมต้องทำร้ายเณร อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้จะพาลูกไปบำเพ็ญประโยชน์ที่วัด และหากเป็นไปได้ก็อยากให้ลูกบวช แต่คงต้องให้ลูกปรับพฤติกรรมตัวให้ดีก่อน
ล่าสุดทีมข่าวพบกับ พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ อินทร์ยิ้ม ผกก.สภ.พระพรหม หลังทราบว่ามีการเชิญผู้ปกครอง และผู้ก่อเหตุ พร้อมด้วยกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ม.3 หน่วยงานรับผิดชอบ เข้ามาพูดคุย ทำการตรวจสารเสพติดผู้ก่อเหตุ
พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ เปิดเผยกับทีมข่าวว่า การสอบสวนพบว่าผู้ก่อเหตุเป็นผู้ป่วยทางจิต ซึ่งมีการรักษาต่อเนื่องอยู่ รพ.พระพรหม หากขาดยาตามแพทย์สั่ง จะมีอาการหลอน และไปก่อเหตุทำร้ายผู้อื่นได้ อย่างไรก็ตามผู้ปกครอง 2 ฝ่าย ตกลงกันได้และไม่เอาความ แต่ในทางตำรวจมีหน้าที่ต้องดำเนินการต่อตามกฎหมาย จึงเชิญตัวผู้ก่อเหตุและครอบครัวมาตักเตือน และทำประวัติไว้
จากการตรวจสอบไม่พบประวัติการติดยา หรือมีประวัติ ก่อเหตุอาชญากรรม ส่วนการตรวจหาสารเสพติดก็ไม่พบ สารเสพติดในร่างกายผู้ก่อเหตุ จึงกำชับมารดาผู้ก่อเหตุให้ดูแลเรื่องการกินยาให้ครบ อย่าปล่อยให้ลูกขาดยา พร้อมฝากกำนัน ผู้ใหญ่บ้านดูแล ลูกบ้านให้ดี แต่เนื่องจากผู้ก่อเหตุชอบ คลุกคลีกับเพื่อน ๆ ทางตำรวจจึงไม่นิ่ง จากนี้จะมีการส่งสายตรวจ ไปดูแลเข้มงวดขึ้นกว่าเดิม เพื่อป้องกันการก่อเหตุอันตรายกับผู้อื่น
Advertisement
