กรณีพบศพชายเปลือยกายคลุมด้วยผ้าห่ม ข้างกำแพงบริษัทแห่งหนึ่ง ภายในหมู่บ้านบุษรา ซอยเพชรเกษม 81 ต่อมาทราบชื่อผู้เสียชีวิต นายชลิต เณรทรัพย์ หรือ แซม อายุ 33 ปี อาชีพพนักงานขายประกัน
ภายหลังพบศพเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำกำลังเข้าจับกุมตัวนายรุ่งโรจน์ สวัสดิ์ หรือ นายแม็กซ์ อายุ 43 ปี และนายสถาปน์พงศ์ ชวนสนิท หรือ เก่ง อายุ 48 ปี สองผู้ต้องหาร่วมกันซ่อนเร้นอำพรางศพ พร้อมของกลางยาไอซ์จำนวนหนึ่ง และรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีออส สีดำ ทะเบียน 2 กณ 3753 กรุงเทพฯ โดยจับกุมตัวได้ที่บ้านพักหลังหนึ่ง ถนนเลียบคลองทวีวัฒนา ท้องที่ สน.ศาลาแดง
จากการสอบสวนเบื้องต้นผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ยอมรับว่า ก่อนเกิดเหตุชักชวนผู้เสียชีวิตมาร่วมปาร์ตี้เสพยาที่บ้านพักหลังดังกล่าว โดยผู้ตายเสพยาเกินขนาด ทำให้เกิดอาการหมดสติและเสียชีวิต จึงเกรงว่าจะเกิดความผิด ประกอบกับอาการเมาจากฤทธิ์ยา จึงวางแผนนำศพผู้เสียชีวิต ซึ่งอยู่ในสภาพเปลือยกายใส่กระโปรงท้ายรถเก๋ง นำไปทิ้งที่ถนนมาเจริญ ห่างบ้านพักไม่กี่กิโลเมตร ก่อนจะพากันมุ่งหน้ากลับบ้าน แต่ถูกตำรวจตามมาจับกุมตัวได้ดังกล่าว
ล่าสุดวันที่ 7 ม.ค.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ได้เดินไปยังสน.ศาลาแดง ซึ่งเป็นพื้นที่ที่จับกุมผู้ต้องหาทั้ง 2 คนได้ พบว่าพ่อและญาติของนายเก่งได้มาเยี่ยม เมื่อทีมเขาสอบถามทางครอบครัวของนายเก่ง ระบุว่าไม่ทราบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ส่วนครอบครัวของนายแม็กซ์ พบว่าทางผู้เป็นแม่ หรือครอบครัวยังไม่มีใครทราบ
กระทั่งเวลา 16.00 น. ที่สน.ศาลาแดง หลังจากที่พนักงานสอบสวน ได้นำตัวผู้ต้อง 2 รายในคดีร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาไอซ์) ไว้ครอบครอง เพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย สอบปากคำเพิ่มเติม
ภายหลังนายสถาปน์พงศ์ ชวนสนิท หรือ เก่ง อายุ 48 ปี ผู้ต้องหา ระบุเพียงว่า ผู้เสียชีวิตได้เสพยาเสพติดเกินขนาด เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นตนขอโทษ ก่อนจะถูกควบคุมตัวเข้าห้องขัง
ส่วนนายรุ่งโรจน์ สวัสดิ์ หรือ แม็กซ์ อายุ 43 ปี ผู้ต้องหา ระบุว่า สาเหตุที่นำร่างของผู้เสียชีวิตไปทิ้งบริเวณดังกล่าว เนื่องจากบริเวณนั้นเป็นพื้นที่ใกล้เคียงกับบ้านของผู้เสียชีวิต ขณะที่นำร่างไปทิ้งนั้น ผู้เสียชีวิตยังมีลมหายใจอยู่ ก่อนที่ผู้เสียชีวิตจะเสียชีวิตนั้น ยอมรับว่าเสพยาเสพติดกันอยู่ แต่ผู้เสียชีวิตเสพเกินขนาด ส่วนผู้เสียชีวิตไม่สวมใส่เสื้อผ้า เนื่องจากเป็นคนถอดเอง และไม่ยอมกลับบ้านขอนอนหลับ
ทั้งนี้ภายหลังจากที่สอบปากคำ ทนายความของผู้ต้องหา 2 ราย เปิดเผยว่า เบื้องต้นวันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจจะนำตัวผู้ต้องหาไปตรวจหาสารเสพติดในร่างกาย หากพบก็จะเพิ่มข้อกล่าวหาในคดีเสพยาเสพติดต่อไป ส่วนคดีความของ สน.หนองแขม กรณีที่ร่วมกันซ่อนเร้นอำพรางศพ ต้องรอพนักงานสอบสวน สน.หนองแขม ส่งเรื่องอายัดตัวเพื่อดำเนินคดีต่อไป
อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 8 ม.ค.64 พนักงานสอบสวน สน.ศาลาแดง จะนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 รายไปฝากขัง ข้อหาเกี่ยวกับคดียาเสพติดที่ศาลอาญาธนบุรี โดยคัดค้านให้ประกันตัว เนื่องจากอัตราโทษสูง
นอกจากนี้ทางเจ้าพนักงานสอบสวนได้ควบคุมตัวทั้ง 2 รายไปตรวจร่างกายเพื่อหาสารเสพติด โดยนายเก่ง อยู่ในภาวะตึงเครียดและกังวล พร้อมกล่าวขอโทษกับผู้เสียชีวิต เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเกิดจากพวกตนทั้ง 3 คนรวมตัวกันปาร์ตี้เซ็กซ์ พร้อมเสพยา ส่วนตัวแล้วตนรู้จักกับผู้เสียชีวิตมา 5 ปี เจอกัน 2 ครั้ง และช่วงเทศกาลปีใหม่ได้เจอกันอีกครั้ง
ด้านนายแม็กซ์ เบื้องต้นระบุว่าขอโทษและเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พวกตนและผู้เสียชีวิต 3 คนได้นัดเจอกันปาร์ตี้เซ็กซ์ ซึ่งตนได้รู้จักกับผู้เสียชีวิตเป็นครั้งแรก
ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางมายังจุดที่พบศพนายชลิตอีกครั้ง ทีมข่าวได้พูดคุยกับน.ส.พา (นามสมมติ) ชาวบ้านในหมู่บ้าน ให้สัมภาษณ์ว่า ตอนเกิดเหตุไม่มีชาวบ้านในหมู่บ้านเห็นตอนผู้ต้องหาทั้ง 2 คน มาจอดรถทิ้งศพนายชลิตแต่อย่างใด เนื่องจากหมู่บ้านของตนเป็นหมู่บ้านที่ค่อนข้างเงียบ ตั้งแต่ 21.00 น. เป็นต้นไป ชาวบ้านก็จะเข้านอน และไม่มีผู้คนพลุกพล่าน ตนจึงคิดว่าไม่มีชาวบ้านในหมู่บ้านเห็นตอน 2 ผู้ต้องหาทิ้งศพ
ส่วนตัวแล้วก็แปลกใจว่าทำไมผู้ต้องหาถึงได้นำศพนายชลิต มาทิ้งที่หมู่บ้านของตน ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่มีบ้านเรือนเต็มสองข้างทาง ทำไมผู้ก่อเหตุเชาถึงไม่เอาเขาไปทิ้งป่า หรือตามแม่น้ำ ก็ยังแปลกใจอยู่ทำไม 2 ผู้ก่อเหตุ เขาถึงเจาะจงเอาศพมาทิ้งที่หมู่บ้านของตน
สำหรับหมู่บ้านของตน มีประตูทางเข้าออก 3 ประตู ซึ่งตอนเกิดเหตุ เป็นเวลาประมาณ 23.04 น. เป็นช่วงที่ประตูในหมู่บ้านของตนปิดแล้ว 2 ประตู คือประตูด้านหลังหมู่บ้าน และประตูด้านหน้าหมู่บ้าน 1 หลัง ซึ่งทำให้ตอนกลางคืน ประตูในหมู่บ้านตน สามารถเข้าออกได้เพียง 1 ประตูเท่านั้น
ส่วนตัวแล้วไม่คุ้นหน้าทั้ง 3 คน ไม่ว่าจะเป็นผู้ก่อเหตุทั้ง 2 คน และผู้เสียชีวิต ทั้งนี้ตนก็ไม่กลัวเรื่องวิญญาณของผู้เสียชีวิตแต่อย่างใด และเหตุการณ์นี้ก็เป็นครั้งแรกที่ มีการเอาศพมาทิ้งในหมู่บ้านตน
ทีมข่าวได้ภาพจากกล้องวงจรปิด ในหมู่บ้านที่เกิดเหตุ มาจำนวน 4 ตัว กล้องตัวที่ 1 เหตุการณ์บริเวณประตูหน้าหมู่บ้าน จะเห็นรถของผู้ก่อเหตุ ขับเข้ามาเวลา 23.03 น. ในคืนวันที่ 5 ม.ค.64 และกล้องตัวที่ 1 ยังจับภาพรถผู้ต้องหา ขับออกจากหมู่บ้านอีกด้วย
กล้องตัวที่ 2 เหตุการ์บริเวณกลางซอยหมู่บ้าน จะสามารถบันทึกภาพรถคนก่อเหตุ ที่ขับเข้าฟมู่บ้านผ่านกล้องตัวที่ 1 มายังกลางซอย ในเวลาประมาณ 23.04 น. และขับออกจากซอย
กล้องตัวที่ 3 เหตุการณ์ก่อนจะถึงจุดทิ้งศพ กล้องสามารถจับภาพรถของผู้ก่อเหตุ ขณะขับเข้ามาจุดทิ้งศพ ได้
กล้องตัวที่ 4 เหตุการณ์อยู่ในซอยที่เกิกเหตุ ห่างจากปากซอยประตูทางเข้าหมู่บ้านประมาณ 400 เมตร ในคลิปจะเห็นวินาทีคนร้าย 2 คน ขนศพนายชลิตลงจากหลังรถ และทิ้งไว้ที่ข้างถนนในซอย ในระหว่างขนศพ มีเพียงรถแท็กซี่ผ่าน 1 คันเท่านั้น หลังจากขนศพลงรถเสร็จ จะเห็นรถของผู้ก่อเหตุ ขับออกไปจากในซอย และขับกลับมาใหม่ เพื่อเอาผ้าห่มมาคลุมศพของนายชลิต ก่อนขับออกไปจากจุดทิ้งศพ
หลังขับออกไปจากจุดทิ้งศพ กล้องวงจรกลางหมู่บ้าน (กล้อง 2) และกล้องวงจรหน้าประตูทางเข้าหมู่บ้าน (กล้อง 1) สามารถจับภาพตอนผู้ก่อเหตุทั้ง 2 คน ออกจากหมู่บ้านได้ ซึ่งผู้ก่อเหตุใช้เส้นทางเข้า-ออกหมู่บ้านเพียงช่องทางเดียวเท่านั้น
ในเวลา 11.40 น. ที่สน.ศาลาแดง นายสัน (นามสมมติ) อายุ 75 ปี ผู้เป็นพ่อนายสถาปน์พงศ์ ชวนสนิท อายุ 48 ปี ผู้ต้องหา ได้เข้ามาเยี่ยม ซึ่งเป็นภาพที่สะเทือนใจที่พ่อต้องเข้าไปพูดถามคุยลูกชาย
นายสัน ระบุว่า ตนเพิ่งทราบข่าวจากเพื่อนลูกชายว่า ลูกชายของตนถูกดำเนินคดียาเสพติด แต่ส่วนคดีซ่อนเร้นอำพรางศพนั้น ตนยังไม่ทราบรายละเอียด ที่ผ่านมาตนไม่ได้อาศัยอยู่กับลูกชาย โดยลูกชายออกจากบ้านไปอาศัยอยู่เพียงลำพังได้ 10 กว่าปีแล้ว ไม่ค่อยได้ติดต่อกัน โดยลักษณะนิสัยนั้นเป็นคนเงียบ ไม่ได้มาปรึกษาปัญหาชีวิตอะไร นอกจากนี้ตนก็ไม่ทราบว่าลูกชายประกอบอาชีพอะไร และลูกชายก็ไม่ได้เลี้ยงดูตน
ขณะนี้ตนอยากพบลูกชาย เพื่อสอบถามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และสอบถามว่าทำไมถึงได้ไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด และมีส่วนร่วมในการอำพรางศพ เพราะลูกชายของตนไม่มีจิตใจที่โหดเหี่ยมแบบนี้ ยอมรับว่ากังวลมากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ต้องขอสอบถามรายละเอียดกับลูกชายก่อน หากยอมรับว่ากระทำจริง ตนก็รับได้ และหากครอบครัวผู้เสียชีวิตต้องการให้ไปขอขมา ตนก็พร้อมที่จะไป
ต่อมาทีมข่าวได้เดินทางลงพื้นที่ไปยังบริเวณซอยทวีวัฒนา-กาญจนาภิเษก 20 ซึ่งเป็นซอยบ้านของนายสถาปน์พงศ์ ชวนสนิท หรือ เก่ง ผู้ต้องหา และเป็นสถานที่ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ากับกุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย
โดยบ้านห่างจากหน้าปากซอย 400 ม. สภาพบ้านเป็นตึก สูง 2 ชั้น สีแดง ชั้นล่างเป็นโรงกลึงเหล็ก และด้านบนเป็นที่พักอาศัย ส่วนละแวกใกล้เคียงเป็นป่ารกร้าง ที่พักอาศัยของชาวบ้าน และบริษัทรับเหมาก่อสร้าง
ทีมข่าวได้พูดคุยกับพนักงานของนายเก่ง ผู้ต้องหา ระบุว่า นายเก่งเป็นเจ้านายของตน และเป็นคู่รักกับนายแม็กซ์มานานหลายปีแล้ว โดยนายแม็กซ์จะมาหานายเก่งในช่วงวันศุกร์-เสาร์ และอาทิตย์
ในคืนวันที่เกิดเหตุการณ์ (5 ม.ค.64) ตนได้ยินเสียงเพลงออกมาจากห้องของนายเก่งเท่านั้น ซึ่งเปิดเพลงไม่ได้เสียงดังมากมาย เปิดด้วยลำโพงมือถือ ตนไม่ทราบว่าผู้เสียชีวิตเข้ามาในบ้านช่วงเวลาไหน ซึ่งที่ผ่านมาตนไม่เคยเห็นและไม่เคยทราบว่านายเก่ง จะพาเพื่อนหรือใครมาจัดปาร์ตี้ยาและปาร์ตี้เซ็กซ์ ต้องเข้าใจว่าตนเป็นเพียงลูกจ้างเท่านั้น
ส่วนผู้เสียชีวิตนั้น ตนไม่ทราบและไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน เพิ่งเคยเห็นหน้าตอนที่เสียชีวิตแล้ว ภายหลังจากเกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้ามาบุกจับกุมตัวนายเก่ง ตนรู้สึกตกใจมาก เพราะตลอดที่ผ่านมานายเก่ง จะมีลักษณะนิสัยดีมาก ตนจึงไม่คิดนายเก่งจะเป็นผู้ก่อเหตุ ส่วนประเด็นที่จะเป็นการฆาตกรรมหรือไม่นั้น ตนไม่ทราบ และขอไม่ออกความคิดเห็น
ขณะเดียวกันทีมข่าวได้พูดคุยกับ นางประนอม (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 65 ปี เพื่อนบ้าน ระบุว่า ตนเพิ่งทราบว่านายเก่งได้ถูกจับกุมตัว หลังพบยาเสพติด และร่วมกันนำศพชายเปลือยกายไปทิ้ง นายเก่งและตนนั้นรู้จักกันมา 10 กว่าปีแล้ว เพราะบ้านใกล้เคียงกัน ที่ผ่านมาตนไม่ทราบว่าบ้านของนายเก่งจะจัดปาร์ตี้ยาหรือไม่ ซึ่งบ้านของนายเก่งนั้นจะเงียบ ไม่ได้เปิดเพลงเสียงดัง และไม่ทราบว่านายเก่งเสพยาเสพติด คบหากับใคร เพราะเป็นเรื่องส่วนตัว
นอกจากนี้หลังจากที่ตนทราบข่าว ตนตกใจมาก ไม่คิดว่านายเก่งจะถูกจับกุมในคดียาเสพติด และทิ้งศพ เพราะนายเก่งเป็นเด็กที่อัธยาศัยดี ดูแลเพื่อนบ้าน ชอบออกกำลังกาย ขยันทำมาหากิน อย่างไรก็ตาม หลังจากเกิดเหตุ คาดว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้เข้ามายังในบ้านของนายเก่ง แต่ตนไม่ได้เอะใจอะไร เพราะคิดว่าเป็นกลุ่มมิจฉาชีพ
ทั้งนี้ตนก็อยากเป็นกำลังใจให้กับนายเก่ง ตนอยากบอกให้นายเก่งรู้ว่า ตนรักนายเก่งเหมือนลูกเหมือนหลาน ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่ลูกใช่หลานกันก็ตาม และตนเพิงทราบว่านายเก่งเป็นเพศทางเลือก
อย่างไรก็ตาม ภายหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำกำลังเข้าจับกุมตัวนายรุ่งโรจน์ สวัสดิ์ หรือ นายแม็กซ์ อายุ 43 ปี และนายสถาปน์พงศ์ ชวนสนิท หรือ เก่ง อายุ 48 ปี จึงแจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันซ่อนเร้นอำพรางศพ และร่วมกันมียาเสพติดไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย
Advertisement