กรณีเมื่อวันที่ 1 ม.ค.64 ที่ผ่านมา ชาวบ้านในพื้นที่ หมู่ 6 ต.ไพล อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ พบศพนางสำรวย สุรศร อายุ 60 ปี หลังถูกคนร้ายฆาตกรรมระหว่างต้อนวัวกลับบ้าน เเล้วทิ้งศพไว้กลางทุ่งนา ห่างจากหมู่บ้าน 1 กิโลเมตร จากการตรวจสอบสภาพศพพบว่าใบหน้ามีรอยช้ำคล้ายถูกของเเข็งทุบ เลือดไหลออกจมูก กางเกงถูกถอดออก ขาซ้ายพับขึ้น มือทั้งสองข้างอยู่ในลักษณะยกขึ้นข้างศีรษะ
โดยผู้พบศพเป็นชาวบ้านที่กำลังนั่งกินน้ำหวานลูกตาลอยู่ใกล้จุดเกิดเหตุ โดยสุนัขที่ผู้เสียชีวิตเลี้ยงไว้จำนวน 3 ตัว วิ่งมาสะกิด ชาวบ้านจึงเดินตามสุนัขจนพบศพดังกล่าว
ล่าสุดวันที่ 4 ม.ค.64 ตำรวจ สภ.ทุ่งมน อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ สามารถจับกุมตัว นายรักษา สุรศร อายุ 52 ปี ผู้ก่อเหตุได้คาบ้านพัก ซึ่งเป็นน้องชายเเท้ ๆ ของผู้เสียชีวิต
โดยนายรักษา ยังให้การภาคเสธ ยอมรับว่าเป็นผู้ก่อเหตุทำร้ายผู้ตายจริง เเต่ไม่ได้มีเจตนาจะให้เสียชีวิต พร้อมกับอ้างว่าได้ไปขอเงินพี่สาว เพื่อจะไปซื้อเหล้า เเต่พี่สาวไม่ให้ จึงเกิดทะเลาะกัน โดยพี่สาวได้ใช้ไม้ที่ใช้สำหรับต้อนวัว ฟาดตน 1 ครั้ง ด้วยความโมโหจึงง้างมือตบพี่สาว 1 ครั้ง เเละชกที่ใบหน้าอีก 1 ครั้ง จนพี่สาวเสียหลักหงายหลังล้มนอนเเน่นิ่ง จากนั้นจึงถอดกางเกงอำพราง เพื่อเบี่ยงเบนประเด็น
อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นตำรวจ สภ.ทุ่งมน อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ ได้เเจ้งข้อกล่าวหาแก่นายรักษา "ทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ถึงเเก่ความตาย"
สำหรับการจับตัวนายรักษานั้น เกิดจากข้อพิรุธ 3 ข้อ คือ 1.ในวันที่พบศพ นายรักษาไม่ได้เเสดงอาการเสียใจ 2.ลักษณะนิสัยพื้นฐานของสุนัขทั้ง 3 ตัว หากมีคนเเปลกหน้าเข้ามาใกล้ผู้ตายจะเห่า เเต่จากการสอบปากคำพยานเเวดล้อมที่อยู่ใกล้จุดเกิดเหตุ ไม่มีใครได้ยินเสียงหมาเห่า ตำรวจจึงพุ่งประเด็นไปที่คนใกล้ตัว 3.เมื่อตำรวจสอบถามนายรักษา เกี่ยวกับการตายของพี่สาว นายรักษาจะเเสดงอาการลุกลี้ลุกลนมีพิรุธ
ล่าสุดวันที่ 4 ม.ค.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางไปที่ วัดโคกลาว ต.ไพล อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ ซึ่งวันนี้มีพิธีฌาปณกิจผู้เสียชีวิต บรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า
นายนวม ไวเร็ว ผู้ใหญ่บ้านโคกลาว กล่าวว่า ในวันที่เกิดเหตุ ชาวบ้าน 3 คน พากันไปขึ้นต้นตาลเพื่อตัดเอาลูกตาลอ่อนมากินน้ำหวาน ขณะพากันนั่งกินน้ำหวาน สุนัข 3 ตัวของยายสำรวย มีเจ้าบัวขาว เพศเมีย เจ้าสี่ตา เพศผู้ และเจ้าตัวเล็ก เพศผู้ ซึ่งเป็นสุนัขของ ยายสำรวย แกไปเลี้ยงวัวแกก็จะพามันไปด้วยทุกวัน เป็นสุนัขที่แกรักมาก แสนรู้ มันพากันวิ่งมาหาคนในหมู่บ้านที่กำลังพากันนั่งกินน้ำหวานลูกตาล วิ่งมา 3 ตัว แต่วิ่งกลับไป 2 ตัว หนึ่งตัวอยู่กับชาวบ้าน ชาวบ้านสงสัยว่ามันต้องมีอะไรแน่นอน เพราะสุนัข 3 ตัวเคยมาขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านแล้วครั้งหนึ่ง ให้ไปช่วยเจ้าของมัน
ทั้งนี้ชาวบ้านก็คิดว่าน่าจะเป็นน้องชายของยายสำรวจ เพราะบางทีไปเลี้ยงวัว แต่เมากลับบ้านไม่ได้ สุนัขก็มาตามชาวบ้าน ให้มาช่วยกันหามแกกลับบ้าน แต่ครั้งนี้ไม่ใช่ ชาวบ้านส่องไฟฉายไปตามสุนัข ห่างกันประมาณ 400 เมตร พบว่าสุนัขนั่งเผาคนนอนตาย แต่เป็นยายสำรวย ไม่ใช่น้องชายยายสำรวย ที่เคยช่วยเหลือ จึงได้โทรศัพท์มาแจ้งตนเดินทางไปยังที่เกิดเหตุ ในวันนี้ตำรวจเจ้าของคดีได้เรียกพวกตนพร้อมลูกบ้าน 3 คน ที่เดินทางไปพบศพครั้งแรกมาสอบปากคำในฐานะพยาน
ทีมข่าวได้พูดคุยกับนายสมบัติ สุรศร อายุ 65 ปี พี่ชายคนโตของผู้เสียชีวิต ยังอยู่ในอาการเสียใจ เปิดเผยว่า ครอบครัวตนอาศัยอยู่ด้วยกัน 3 คน ประกอบด้วย นายสมบัติ พี่ชายคนโต นางสำรวย น้องสาวคนกลาง เเละนายรักษา น้องชายคนเล็ก ซึ่งทั้ง 3 คนไม่มีครอบครัว จึงอาศัยอยู่ด้วยกัน ซึ่งนายรักษา ผู้ก่อเหตุ มีนิสัยชอบดื่มเหล้าทุกวัน เมื่อเมาก็จะทะเลาะกับนางสำรวย บ่อยครั้ง เเต่ทะเลาะมีปากเสียงกัน เเต่ไม่นานก็ดีกัน
โดยในวันเกิดเหตุก็ไม่ได้มีสัญญาณใด ๆ บ่งบอกเลย ซึ่งตั้งเเต่ช่วงเช้า นางสำรวยได้ต้อนวัวไปเลี้ยง ส่วนนายรักษานั่งดื่มเหล้าอยู่ที่บ้าน ส่วนตนก็ไปไร่ไปนา จึงไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น กระทั่งเวลา 18.00 น. ตนกลับมาที่บ้าน ก็รู้สึกเเปลกใจเพราะเห็นนายรักษาต้อนวัวกลับบ้าน ซึ่งปกติเเล้วผู้ที่ต้อนวัวจะเป็นนางสำรวย จนมาทราบจากญาติว่า มีคนพบศพนางสำรวยอยู่กลางทุ่งนา จึงรีบไปดู ซึ่งตนเห็นสภาพศพเเล้วรับไม่ได้ พฤติกรรมผู้ก่อเหตุโหดเหี้ยมเกินไป เเต่ตอนนั้นยังไม่ทราบว่าใครเป็นคนร้าย
ทั้งนี้หลังจากต้อนวัวกลับบ้านเสร็จ นายรักษาก็ยังไปนั่งดื่มเหล้ากับเพื่อนบ้าน เเล้วหลังจากนั้นก็อยู่ที่บ้าน ใช้ชีวิตตามปกติ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เเละไม่ได้แสดงท่าทีผิดสังเกตแต่อย่างใด กระทั่งช่วงเช้าที่ผ่านมาตำรวจเข้ามาจับตัว จึงทราบว่าฆาตกร คือ น้องชายเเท้ ๆ ตนโกรธมาก อยากจะกระทืบให้ตายตามไปเลย เพราะที่ผ่านมาคนตายรักน้องชายมาก ถึงเเม้จะทะเลาะกันทุกวัน เเต่ก็ทำให้ทุกอย่าง ทั้งหาข้าว หาน้ำให้ ซักผ้าให้ เเละซื้อเหล้าให้กินทุกวัน เเต่สุดท้ายกลับมาฆ่าพี่สาวอย่างโหดเหี้ยม ดังนั้นขอให้รับโทษตามกฎหมาย ตนจะไม่ขอประกันตัว หากเป็นไปได้ก็ให้ติดคุกตลอดชีวิต ไม่ต้องออกมาอีก
ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่เกิดเหตุ บริเวณกลางทุ่งนา ในพื้นที่หมู่ 6 ต.ไพล อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ สภาพเป็นทุ่งนาโล่งกว้าง ที่เกิดเหตุอยู่ใต้ต้นจาน ห่างจากบ้านผู้เสียชีวิต 1 กิโลเมตร พบร่องรอยการจุดธูปเชิญดวงวิญญาณ
ขณะเดียวกันทีมข่าวพบเห็นภาพสะเทือนใจ คือ สุนัขของผู้เสียชีวิตทั้ง 3 ตัว ประกอบด้วย เจ้าบัวขาว เจ้าสี่ตา เเละเจ้าตัวเล็ก ได้วิ่งตามหาเจ้าของในพื้นที่รอบ ๆ จุดเกิดเหตุตลอดทั้งวัน โดยเฉพาะเจ้าบัวขาว ที่นั่งเฝ้าอยู่ใกล้จุดพบศพจนค่ำ ไม่ยอมไปไหน เเละมีอาการซึม ซึ่งจุดที่เจ้าบัวขาวนั่งอยู่นั้น ชาวบ้านบอกว่าเป็นจุดที่ผู้ตายมักจะนั่งพักผ่อนเวลาเลี้ยงวัวเป็นประจำ
ทีมข่าวได้พูดคุยกับนายวันชัย วิชายงค์ อายุ 48 ปี เพื่อนบ้านซึ่งนั่งดื่มเหล้ากับผู้ก่อเหตุ หลังจากฆ่าพี่สาวเสร็จ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 1 ม.ค.64 เวลาประมาณ 18.00 น. หลังจากที่นายรักษาได้ฆ่าพี่สาว เเละต้อนวัวเข้าคอกเสร็จ ได้เดินมานั่งดื่มเหล้ากับตนที่บ้าน ซึ่งนายรักษาก็มีท่าทีเรียบเฉย ดูปกติ ไม่มีอาการเเปลก ๆ เเต่อย่างใด นอกจากนี้นายรักษาไม่ได้พูดถึงพี่สาวเเม้เเต่คำเดียว
กระทั่งเวลาประมาณ 18.30 น. มีชาวบ้านวิ่งมาบอกว่าพบศพนางสำรวยอยู่กลางทุ่งนา จังหวะนั้นนายรักษาก็นั่งอยู่ด้วย ไม่ได้เเสดงอาการตกใจ ทั้ง ๆ ที่ผู้ตายเป็นพี่สาวของตัวเอง เเต่ตนก็ไม่ได้สงสัยอะไร เพราะคิดว่าคงเป็นไปไม่ได้ที่พี่น้องจะฆ่ากัน จนช่วงเช้าวันนี้ ตำรวจได้มาจับตัวนายรักษา ตนเสียใจมาก เพราะตนนับถือผู้ก่อเหตุเหมือนพ่อ นับถือผู้ตายเหมือนเเม่ คาดไม่ถึงว่าจะเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น
ทีมข่าวได้พูดคุยกับนายพิพัฒน์ สุนินทบูรณ์ ผู้ที่ถูกหมาสะกิด อายุ 55 ปี เล่าว่า เมื่อวันที่ 1 ม.ค.64 ช่วงเย็นตนพร้อมด้วยลูกหลานรวม 5 คน ได้ไปขึ้นตาลอยู่บริเวณทุ่งนา หลังจากขึ้นตาลเสร็จก็มานั่งกินน้ำตาลสดอยู่ใต้ร่มไม้ ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 400 เมตร กระทั่งเวลา 18.00 น. สุนัขของผู้ตายทั้ง 3 ตัว ได้วิ่งมาสะกิดที่หลังของตน ซึ่งตนเห็นท่าไม่ดี จึงได้บอกให้ลูกชายกับหลานชายไปดูตรงจุดที่ผู้ตายเลี้ยงวัว โดยสุนัขทั้ง 3 ตัววิ่งนำหน้า จากนั้นลูกชายกับหลานชายได้วิ่งกลับมาหน้าตาตื่น บอกว่าพบศพนางสำรวย ตนก็ตกใจมาก รีบบอกให้ลูกชายโทรเเจ้งตำรวจ
นายพิพัฒน์ กล่าวอีกว่า นายรักษา ผู้ก่อเหตุ ที่ผ่านมามักจะเมาเหล้า เเล้วเป็นลมอยู่กลางทุ่งนาบ่อยครั้ง แล้วสุนัขทั้ง 3 ตัวก็จะมาสะกิดให้ตนไปช่วย ซึ่งครั้งนี้ตอนเเรกตนคิดว่านายรักษาคงเป็นลมอีก แต่ปรากฏว่าเป็นศพนางสำรวย ก็รู้สึกเสียใจ คิดว่านายรักษาไม่น่าทำกับพี่สาวเเบบนี้
ทีมข่าวได้พูดคุยกับนายณรงค์ชัย ไวเร็ว อายุ 18 ปี หลานชายนายพิพัฒน์ ซึ่งเป็นผู้ที่พบศพ และนายสันเพชร สุนินทบูรณ์ อายุ 33 ปี ลูกชายนายพิพัฒน์ บอกว่า ขณะเกิดเหตุ ตนทั้ง 2 คนได้ขึ้นตาลอยู่ใกล้จุดเกิดเหตุ ห่างกันเพียง 100 เมตร เเต่ไม่ได้ยินเสียงหมาเห่า เเละไม่ได้ยินเสียงคนทะเลาะกันเเต่อย่างใด ขณะที่กำลังเดินไปดูจุดที่ผู้ตายเลี้ยงวัว ตอนเเรกก็ไม่คิดว่าจะเจอศพ เเต่เมื่อเดินไปถึง ภาพเเรกที่เห็นคือร่างผู้ตายนอนหงาย มีเลือดออกทางจมูกจนเปื้อนใบหน้า ตนตกใจมาก รีบวิ่งไปบอกพ่อ พร้อมกับโทรเเจ้งตำรวจ ซึ่งไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะเป็นคนใกล้ตัว กระทั่งวันนี้ตำรวจจับตัวคนก่อเหตุได้ ตนก็เสียใจมาก เพราะผู้เสียชีวิตเเละผู้ก่อเหตุ ก็เป็นเพื่อนบ้านที่คุ้นเคยกันดี
Advertisement