
วันที่ 15 ธ.ค. 68 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ลับแล รับแจ้งเหตุยิงกัน ที่บ้านหลังหนึ่งในพื้นที่หมู่6 ต.ฝายหลวง อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์ จึงรายงาน พ.ต.อ.เจริญ แดงเรือง ผกก.สภ.ลับแล พล.ต.ต.สุเทพ ประภากรณ์ ผบก.ภ.จว.อุตรดิตถ์ พร้อมรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นบ้านยกสูงครึ่งปูนครึ่งไม้
พบผู้ได้รับบาดเจ็บคือนางอรุณ (สงวนนามสกุล) อายุ 68 ปี ถูกอาวุธปืนยิงที่ศีรษะด้านหลังทะลุมายังหางคิ้วด้านขวา อาสาสมัครกู้ชีพกู้ภัยพยายามช่วยชีวิตก่อนนำส่งโรงพยาบาล และเสียชีวิตในเวลาต่อมา ผู้ก่อเหตุคือนายวิรุ่ง (สงวนนามสกุล) อายุ 42 ปี ลูกเขยของนางอรุณหลังก่อเหตุได้หลบซ่อนตัวอยู่ภายในบ้าน
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้พยายามเกลี้ยกล่อมให้มอบตัว และได้ยินเสียงปืนดังขึ้น จึงต้องถอยออกมา ก่อนประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจหน่วยปฎิบัติการพิเศษจังหวัดอุตรดิตถ์ เพื่อปิดล้อมควบคุมตัวผู้ก่อเหตุ ซึ่งได้มีการปฏิบัติการตามยุทธวิธีจากเบาไปหาหนัก โดยให้บิดาและลูกชายมาประกาศผ่านโทรโข่งให้มอบตัว แต่ผู้ก่อเหตุยังไม่ตอบรับแต่ประการใด ต่อมาชุด นปพ.จังหวัดอุตรดิตถ์ได้ทำการเข้าไปภายในบ้าน พร้อมเกลี้ยกล่อมให้มอบตัว แต่ไม่มีเสียงตอบรับจึงใช้แก๊สน้ำตายิงเข้าไปรอจนแก๊สสลายหมดจึงพบร่างผู้ก่อเหตุนอนเสียชีวิต จากการใช้อาวุธปืนปลิดชีพตัวเอง ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่าง พฐ.เข้าตรวจสอบ
สอบถามนางลำแพน อายุ 36 ปี ภรรยาผู้ก่อเหตุ เปิดเผยว่า สามีมีอาชีพรับจ้างทั่วไป มักเสพยา และดื่มสุราเป็นประจำ เวลาเสพยาหรือดื่มสุราชอบตบตีตนเอง และเคยตบตีแม่ด้วย ซึ่งแม่เคยไปแจ้งความว่าถูกทำร้ายร่างกายมาแล้ว ตอนเกิดเหตุตนออกไปขายของที่ตลาด และลูกอีก 2 คนก็ไปเรียนหนังสือ คาดสาเหตุอาจมาจากความแค้นที่แม่ไปแจ้งความจับในข้อหาทำร้ายร่างกาย
Advertisement