
วันที่ 6 ธ.ค. 68 ที่ตึกเอื้ออาทรแห่งหนึ่ ในพื้นที่เขตบางเขน กรุงเทพฯ นายสายยนต์ สวัสดิ์เดช อายุ 56 ปี เปิดเผยว่า วันที่ 1 ธ.ค. เวลาประมาณ 15.30 น. ขณะตนกำลังทำงานอยู่ มีเพื่อนโทรมาสอบถามว่าได้เจอลูกสาวตนเองบ้างมั้ย ไม่ได้เจอมานานแค่ไหนแล้ว ตนจึงตอบกลับไปว่าไม่ได้เจอลูกมาราว 2-3 อาทิตย์แล้ว เพื่อนในสายจึงบอกงั้นให้รีบกลับมาด่วนเลย มาที่ตึกเพราะเพื่อนบ้านได้กลิ่นเหม็นแรงโชยออกมาจากภายในห้อง คาดว่าจะเป็น น.ส.ไอริน หรือ น้องยี่ วัย19 ปี ลูกสาวของตน
จากนั้นจึงได้รีบกลับมาที่ตึกเอื้อ ซึ่งเป็นห้องของนายธนาธัญ วัย 34 ปี แฟนหนุ่มของน้องยี่ รอจนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.คันนายาวมาถึง ในเวลา 16.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการเคาะเรียกผู้ที่อยู่ภายในห้อง พบนายธนาธัญ เปิดประตูออกมา ภายในห้องพบอุปกรณ์เสพยาไอซ์ และพบร่างของ น.ส.ไอรินนอนสภาพเปลือยกาย ร่างกายบวมอืด และมีรอยฟกช้ำตามร่างกาย
อีกห้องพบมารดาของผู้ก่อเหตุถูกขังเอาไว้ ไม่ให้ออกไปไหน จึงได้ควบคุมตัวนายธนาธัญ และนำตัวส่งดำเนินคดีต่อพนักงานสอบสวน สน.คันนายาว ดำเนินคดี ก่อนประสานไปยังตำรวจพิสูจหลักฐาน เพื่อเข้ามาดำเนินการหาหลักฐานสาเหตุการตาย
จากการสอบสวนนายธนาธัญให้การรับสารภาพว่า เป็นผู้ลงมือก่อเหตุฆ่า น.ส.ไอริน จริง โดยมีการซ้อมทุบตีจนเสียชีวิต ตั้งแต่วันที่ 15 พ.ย. จากนั้นได้ใช้ถ่านสำหรับก่อไฟหุงต้มมาทาทั่วร่างกายของศพ เพื่อที่จะไม่ให้มีกลิ่นเหม็น แล้วใช้ชีวิตอยู่กับศพตามปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นมานาน 17 วัน พร้อมขังแม่เอาไว้ในห้องด้วยไม่ให้ออกไปไหน จนกระทั่งศพเริ่มอืด และเน่าเปื่อยส่งกลิ่นเหม็นรุนแรงออกมา จนทำให้คนบริเวณข้างห้องได้กลิ่นจึงโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ และแจ้งไปยังพ่อของน้องยี่ จนกระทั่งนำมาสู่การจับกุมนายธนาธัญได้ในครั้งนี้
ด้านผู้เป็นพ่อ เปิดเผยว่า ตนเสียใจกับการจากไปของลูกสาวมาก ตนเคยเตือนลูกสาวหลายครั้งแล้วเรื่องการคบกับนายธนาธัญ เพราะนายธนาธัญเป็นคนอารมณ์ร้อนชอบเสพยา ระหว่างคบกันในระยะเวลาไม่ถึงหนึ่งปีนี้ ก็มีการทำร้ายร่างกายน้องยี่อยู่บ่อยครั้ง พ่อพักอยู่ตึก 26 น้องยี่ไปอยู่ห้องนายธนาธัญ ตึก 52 เวลาถูกทำร้ายก็จะกลับมาพักที่ห้อง พ่อก็จะเห็นรอยฟกช้ำตามร่างกายอยู่บ่อยครั้ง มีครั้งหนึ่งเมื่อเดือนส.ค. รุนแรงถึงขั้นใช้ท่อนเหล็กตีที่สนามตะกร้อ ก่อนจะลากไปกว่า50 เมตร เพื่อเอาเข้าห้อง จนถึงขั้นพ่อต้องพาไปแจ้งความ
ด้านตำรวจให้ไปตรวจร่างกายแล้วเอาใบแพทย์มาแจ้งดำเนินคดี แต่ยังไม่ทันไปพบแพทย์ นายธนาธัญ ก็มาง้อจนลูกสาวสงสารใจอ่อนไม่ไปตรวจร่างกายแล้วกับมาอยู่ด้วยกันอีก จนมาช่วงกลางเดือน ต.ค. เริ่มไม่ได้พบหน้าลูกสาว ลูกสาวไม่ค่อยกลับมาห้อง จึงไปสอบถามลูกสาวคนเล็กก็ได้ความว่าพี่ยี่คงไปอยู่กับเพื่อน จึงไม่ได้ออกตามหาหรือเอะใจอะไร จนกระทั่งมาทราบข่าวจากเพื่อนที่แจ้งว่าได้กลิ่นเน่าในครั้งนี้
ทั้งนี้ตนอยากจะฝากเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีเอาผิดนายธนาธัญ ฆาตกรให้ถึงที่สุด อย่าให้ได้ออกมาก่อเหตุซ้ำกับใครได้อีก
ด้านพนักงานสอบสวน สน.คันนายาว เบื้องต้นได้แจ้งข้อหา ฆ่าคนตายโดยเจตนา และจะนำตัวส่งศาลมีนบุรี เพื่อนำตัวผู้ต้องหาฝากขังต่อไป
Advertisement