"บิ๊กอรรถ" เผยปราบแก๊งคอลคืบ!เสียหายลดฮวบ จากเดิมเฉลี่ยวันละกว่า70ล้าน
"บิ๊กอรรถ" เผย ปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์คืบหน้า!ตร.แจงความเสียหายลดฮวบจากเดิมเฉลี่ยวันละ70กว่าล้านบาทปูพรมเตือนภัยออนไลน์ทั่วประเทศพร้อมทำงานคู่ขนาน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
วันนี้ (19 พฤศจิกายน 2568) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พลตำรวจโทไตรรงค์ ผิวพรรณ รองจเรตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงความคืบหน้าสถานการณ์การปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ของทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติและรัฐบาลในปัจจุบัน ว่า ในการประสานงานกับประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะประเทศกัมพูชา โดยเฉพาะเรื่องของการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์นั้น เราได้มีการทำข้อตกลง เพื่อนำไปสู่การปฎิบัติการในพื้นที่ของแต่ละประเทศ เมื่อได้รับข้อมูลข่าวสารในการกระทำความผิดของกลุ่มแก๊งคอลเซ็นเตอร์หรือแสกมเมอร์ ส่วนนี้เราได้พยายามส่งเอกสารและประสานงานไปยังตำรวจกัมพูชาตามข้อตกลงอย่างเป็นทางการร่วมแล้ว ซึ่งอยู่ระหว่างรอตอบรับว่าจะดำเนินการตามที่ตกลงกันไว้หรือไม่ อย่างไร
ส่วนในเรื่องสถิติการหลอกลวงพี่น้องประชาชนนั้น ตั้งแต่นายอนุทิน ชาญวีรกุล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้ยกระดับการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์มาเป็นวาระแห่งชาติแล้ว เราก็ได้มีการยกระดับการปฎิบัติงานในศูนย์วอร์รูมที่ปฎิบัติการร่วมกันระหว่างตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเราสามารถระงับยับยั้งความสูญเสียได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยขณะนี้ค่าเฉลี่ยความเสียหายของเหยื่อที่ถูกหลอกลวงต่อหัวลดลงจากเดิมไปมาก อีกทั้งจำนวนเงินความเสียหายรายวันของเหยื่อ เมื่อมีการอายัติคืนได้สูงขึ้น ความเสียหายก็ลดลง จากเฉลี่ยวันละ 70 กว่าล้านบาท แสดงให้เห็นว่าเริ่มมีแนวโน้มที่ดีขึ้น
ส่วนเรื่องการสร้างความตระหนักรู้ หรือการประชาสัมพันธ์ให้พี่น้องประชาชนได้เข้าใจภัยของอาชญากรรมออนไลน์ เมื่อวานมีการขับเคลื่อนที่เป็นรูปธรรมหลายๆ เรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการกระจายคอนเทนต์ เนื้อหาสาระ หรือรูปแบบการหลอกลวงของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ไปสู่พี่น้องประชาชน โดยผ่านทางท่านอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ ซึ่งเป็นหัวหน้าคณะทำงานด้านนี้ ท่านส่งข้อมูลลงไปถึงระดับหมู่บ้าน ตำบล ผ่านหอกระจายข่าว 80,000 แห่งทั่วประเทศ พร้อมทั้งส่งคอนเทนต์ไปยังแพลตฟอร์มเครือข่ายต่างๆ ของกรมประชาสัมพันธ์ รวมถึงสื่อมวลชน ทำให้มีผู้ได้รับทราบข้อมูลข่าวสารสูงขึ้นกว่าเดิมที่ตำรวจทำเพียงหน่วยงานเดียว แต่ปัจจุบันพบว่าเนื้อหาที่พี่น้องประชาชนรับชมผ่านทางกรมประชาสัมพันธ์ เฉลี่ยอยู่วันละ 500,000 รายต่อวัน
ส่วนการสร้างความตระหนักรู้ให้กับพี่น้องประชาชน มีการตั้งคณะทำงานขับเคลื่อนในแพลตฟอร์ม หรือเรียกว่าการสร้างความตระหนักรู้ในโครงการพลเมืองดิจิทัล ซึ่งจะมีการทำสื่อการสอน เพื่อให้ครูแม่ไก่หรือผู้ที่สนใจเข้ามาดูได้ด้วยตัวเอง บทเรียนตอนละ 2-3 นาที รวมทุกตอนไม่เกิน 2 ชั่วโมง ถือว่าเข้ากับไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่
ขณะที่โครงการคณะทำงานในการขับเคลื่อนในระดับชุมชนและหมู่บ้าน ของกระทวงมหาดไทย หัวหน้าคณะฝึกอบรมให้ความรู้ พร้อมรับข้อมูลจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ถึงกลุ่มเป้าหมายที่อาจจะจะตกเป็นเหยื่อ ซึ่งจะใช้รูปแบบเดียวกับตอนที่เราสู้กับโควิด-19 เราจะเอาวัคซีนตรงกลุ่มไปเคาะประตูฉีดให้ถึงหน้าบ้าน ทำงานคู่ขนานทั้งแบบออนไลน์และออนกราวด์
Advertisement
