
พ.ต.อ.รัฐธนนท์ เอกฐิติกุลพัทธ์ ผกก.สน.ทองหล่อ ให้สัมภาษณ์ว่าการดำเนินการเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย โดยการจับกุมครั้งนี้ ได้รับคำสั่งจากพนักอัยการให้นำตัว "นายสันธนะ" หนึ่งในผู้ต้องหาที่ไม่ไปแสดงตัวต่อพนักงานอัยการในชั้นสั่งฟ้องพร้อมสำนวน จึงมีการดำเนินคดีแจ้งข้อหาเพิ่มเติมในฐานความผิด "เรียกค่าไถ่" ร่วมกับผู้ต้องหาอีก 3 คนที่อยู่ระหว่างการสอบปากคำ เนื่องจากในรอบแรกเป็นเพียงแค่การแจ้งข้อหา “อั้งยี่” และ "ซ่องโจร"
ซึ่งกระบวนการ พนักงานสอบสวนต้องสอบปากคำให้แล้วเสร็จ พร้อมกับแจ้งข้อหาภายในวันนี้ ก่อนที่พรุ่งนี้ 14 พฤศจิกายน 2568 ช่วงเช้า จะนำตัวไปส่งให้อัยการกรุงเทพใต้ เพื่อพิจารณาคดี แม้ว่าทางครอบครัวจะไม่มีการเตรียมหลักทรัพย์มายื่นประกันตัว แต่พนักงานสอบสวนก็จะใช้ดุลยพินิจที่จะให้หรือไม่ให้ประกันตัว แต่หากการสอบสวนคืนนี้ไม่แล้วเสร็จ “นายสันธนะ” ก็จะยังคงต้องถูกสอบปากคำตลอดทั้งคืน เนื่องจากในช่วงเวลานี้ (17.30 น.) สำนักงานอัยการปิดทำการแล้ว
ส่วนกรณที่ "นายสันธนะ" โต้แย้งว่าเป็นการกลั่นแกล้งของเจ้าหน้าที่ ทั้งที่ตนเองอยู่ระหว่างการขอยื่นอุทธรณ์ขอความเป็นธรรมในชั้นพนักงานอัยการ กรณีนี้ ตำรวจบอกว่า มีหลักฐานชัดเจนว่า 15 ตุลาคม 2568 อัยการได้ทำหนังสือมาร้องขอกับพนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ ให้ไปติดตามตัว “นายสันธนะ” มาพบ เพื่อที่จะได้ยื่นส่งฟ้องพร้อมสำนวนคดีต่อศาล แต่ปรากฏว่า “นายสันธนะ” กลับบ่ายเบี่ยงมาโดยตลอด ทั้งที่พนักงานสอบสวน สน. ทองหล่อ ได้ออกหมายเรียกไปแล้ว 2 รอบ กระทั่งวันนี้จึงต้องดำเนินการจับกุมตามหมายจับ
Advertisement