
กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) สั่งการเจ้าหน้าที่จับกุมตัว นายปกรณ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 27 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 4840/2567 ลงวันที่ 1 ตุลาคม 2567 ในความผิดฐาน “ร่วมกันประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับโดยไม่ได้รับอนุญาต และร่วมกันให้บุคคลอื่นกู้ยืมเงินหรือกระทำการใดๆ อันมีลักษณะเป็นการอำพรางการให้กู้ยืมเงิน โดยมีลักษณะเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด”
โดยพฤติการณ์ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2566 ได้มีผู้เสียหายมาพบพนักงานสอบสวน กก.5 บก.ปอศ. โดยให้การว่าในช่วงประมาณเดือนพฤศจิกายน 2566 ผู้เสียหายได้พบโฆษณาในแอปพลิเคชัน Facebook เกี่ยวกับให้กู้เงิน ซึ่งในขณะนั้นผู้เสียหายกำลังประสบปัญหาด้านการเงิน ต้องการเงินมาหมุนใช้จ่ายทั่วไป จึงได้เข้าไปดาวน์โหลดแอปพลิเคชันชื่อ“สินเชื่อที่จริงใจ”และได้ทำการกู้ยืมเงินจากแอปพลิเคชันดังกล่าว โดยการกู้ยืมเงินดังกล่าวเป็นการกู้ยืมเงินที่มีการคิดอัตราดอกเบี้ยสูงเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด ในลักษณะของการชำระทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย ภายในระยะเวลา 7 วัน คิดเป็นอัตราดอกเบี้ยโดยรวมสูงสุดถึงร้อยละ 9.42 ต่อวัน หรือร้อยละ 3,474.80 ต่อปี ซึ่งเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด และหากชำระหนี้ไม่ตรงตามกำหนดเวลาหรือล่าช้า จะมีการทวงถามหนี้ด้วยการด่าทอ ข่มขู่ และประจาน
จากการรวบรวมพยานหลักฐานของพนักงานสอบสวน กก.5 บก.ปอศ. พบว่ากรณีการกู้ยืมเงินดังกล่าว มีการร่วมกันลักลอบประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับของธนาคารแห่งประเทศไทย โดยไม่ได้รับอนุญาต และร่วมกันเรียกดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนดจริงโดยมีสมาชิก ทั้งหมด 24 ราย โดยได้ใช้บัญชีธนาคารของตนในการโอนเงินกู้ให้ผู้กู้และรับโอนค่าดอกเบี้ย พนักงานสอบสวนจึงได้ออกหมายเรียกผู้ต้องหามาเพื่อรับทราบ ข้อกล่าวหาและดำเนินคดีตามกฎหมาย แต่ปรากฏว่าผู้ต้องหาไม่มาพบพนักงานสอบสวนตามหมายเรียกแต่อย่างใด น่าเชื่อว่ามีพฤติการณ์หลบหนี จึงได้พิจารณาขออนุมัติหมายจับต่อศาลอาญา เพื่อนำตัวผู้ต้องหา มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ปอศ. ได้ทำการสืบสวนจนทราบว่า นายปกรณ์ (สงวนนามสกุล) ได้หลบหนีมาอยู่ที่บริเวณ ซ.รัชดา 36 แขวงจันทร์เกษม เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นสถานที่พักอาศัยของผู้ต้องหา จนกระทั่งพบเห็น นายปกรณ์ฯ กำลังยืนอยู่ที่บริเวณหน้าสถานที่ดังกล่าว จึงได้นำกำลังเข้าไปแสดงหมายจับเพื่อจับกุมตัว พร้อมทั้งได้แจ้งสิทธิตามกฎหมายและข้อกล่าวหาให้ทราบ จากนั้นนำส่งพนักงานสอบสวน กก.5 บก.ปอศ. เพื่อดำเนินการนำตัวผู้ต้องหาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ขอฝากเตือนภัยถึงประชาชน อย่าหลงเชื่อในการกู้เงินจากแหล่งเงินกู้นอกระบบซึ่งไม่มีความน่าเชื่อถือและไม่ได้รับอนุญาต รวมทั้งยังเรียกดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด เพราะนอกจากอาจถูกบังคับทวงถามหนี้ด้วยความรุนแรงแล้ว ยังเสี่ยงต่อการที่ข้อมูลส่วนบุคคลจะถูกนำไปใช้ในทางที่ผิดกฎหมาย นำไปสู่ภาวะความเสี่ยงด้านการเงินและความปลอดภัย หากต้องการตรวจสอบแหล่งเงินกู้ที่ถูกต้องตามกฎหมาย สามารถตรวจสอบใบอนุญาตการประกอบธุรกิจสินเชื่อได้ที่ช่องทางดังต่อไปนี้
ธนาคารแห่งประเทศไทย เว็บไซต์ https://app.bot.or.th/BotLicenseCheck
สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง เว็บไซต์ http://www.1359.go.th/picodoc/comp.php
Advertisement